“ไทยประกันชีวิต” เสนอขายหุ้น IPO กำหนดราคาเสนอขายที่ 16.00 บาทต่อหุ้น

“ไทยประกันชีวิต” เสนอขายหุ้น IPO กำหนดราคาเสนอขายที่ 16.00 บาทต่อหุ้น

27 มิ.ย. 2022
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ “TLI” บริษัทที่มีประสบการณ์กว่า 80 ปีในธุรกิจประกันชีวิต
เดินหน้าแผนการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 2,316,7 ล้านหุ้น (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)
พร้อมกำหนดราคาเสนอขายหุ้นที่ 16.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 37,067 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)
แล้วการระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ ไทยประกันชีวิต มีรายละเอียดอะไรบ้าง ?
หุ้นสามัญของไทยประกันชีวิตที่จะเสนอขายในครั้งนี้ มีจำนวนไม่เกิน 2,155,068,900 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 20.2% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการ IPO ในครั้งนี้
โดยแบ่งออกเป็น
1) การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 850,000,000 หุ้น
2) การเสนอขายหุ้นสามัญเดิม โดยบริษัท วี.ซี. สมบัติ จำกัด จำนวนไม่เกิน 1,166,575,300 หุ้น
3) การเสนอขายหุ้นสามัญเดิม โดย Her Sing (H.K.) Limited จำนวนไม่เกิน 138,493,600 หุ้น
และอาจมีการพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-allotment Option หรือ Greenshoe) อีกจำนวนไม่เกิน 161,630,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 7.5% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ในการรักษาระดับราคาหุ้น (Stabilization) ในช่วง 30 วันแรกหลังหุ้นของ TLI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุน
โดยปัจจุบันแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวน ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. และได้มีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับวัตถุประสงค์ในการ IPO บริษัทได้รายงานว่าจะนำเงินระดมทุนที่ได้ไป
- ใช้ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต โดยเน้นลงทุนในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) ผ่านนวัตกรรมที่จะเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการ
- ดูแลลูกค้าอย่างครบวงจร
- การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายผ่านทางพันธมิตรที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับลูกค้าทั่วประเทศ
- เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินทุน ทั้งสำหรับเงินทุนหมุนเวียนและวัตถุประสงค์อื่น ๆ ในอนาคต
ส่วนในด้านจุดแข็งของบริษัท
- ไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตรายแรกและรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่เป็นของคนไทยและก่อตั้งโดยคนไทย
โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ไทยประกันชีวิตมีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับกว่า 4.4 ล้านกรมธรรม์
- บริษัทฯ มีช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งเครือข่ายตัวแทนประกันชีวิตมืออาชีพ ที่มีจำนวนกว่า 64,000 คนกระจายครอบคลุมทั่วประเทศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
รวมถึงการจัดจำหน่ายผ่านพันธมิตร และช่องทางอื่น ๆ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
- ไทยประกันชีวิตมีคณะผู้บริหารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มากด้วยประสบการณ์ในธุรกิจประกันชีวิต อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรธุรกิจ บริษัท เมจิยาสุดะ ไลฟ์ อินชัวรันส์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตรายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น
ส่งผลให้ไทยประกันชีวิต มีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง และมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น พร้อมสร้างโอกาสการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
สำหรับผลการดำเนินงานในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ของบริษัทฯ
ปี 2562 มีรายได้รวม 108,412 ล้านบาท มีกำไร 6,622 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 107,478 ล้านบาท มีกำไร 7,528 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้รวม 109,663 ล้านบาท มีกำไร 8,810 ล้านบาท
นอกจานั้น ฐานะทางการเงินของไทยประกันชีวิตก็มีความแข็งแกร่ง โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 360.6% ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดของ คปภ. ที่กำหนดไว้ที่ 140% อย่างมีนัยสำคัญ
ประกอบกับในเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมาสถาบัน Fitch Ratings ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินของบริษัทฯ ไว้ที่ A- (ระดับสากล) และ AAA (tha) (ระดับภายในประเทศ)
ที่สำคัญคือ นับเป็น IPO ของหุ้นในหมวดธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย และยังมีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับจากปี 2543 พร้อมกระแสการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั่วโลก
โดยมีนักลงทุนสถาบันคุณภาพที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวนรวม 18 ราย ลงนามในสัญญาลงทุนในหุ้น TLI เพื่อเป็น Cornerstone Investors คิดเป็นจำนวนหุ้นรวม 1,158.4 ล้านหุ้น หรือประมาณ 50.0% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)
พร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่เป็นลูกค้าของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ สามารถจองซื้อหุ้น TLI ได้ในระหว่างวันพุธที่ 29 มิถุนายน (9.00 น.) - 6 กรกฎาคม (16.00 น.) 2565 นี้
และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นวันแรกภายในเดือนกรกฎาคมนี้
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.