Ferrari วางแผนออกซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า 15 รุ่น ภายในปี 2026

เมื่อแบรนด์รถยนต์ทั่วโลก หันหน้าเข้าหาวงการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามความต้องการของผู้บริโภค
แม้แต่วงการซูเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็ประกาศว่าจะวางขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในปี 2023 เริ่มที่ระบบไฮบริดก่อน แล้วจึงค่อยพัฒนาไปรถยนต์ไฟฟ้าล้วน

ล่าสุด Ferrari ก็เป็นอีกค่ายซูเปอร์คาร์ ที่เพิ่งประกาศว่า จะรุกธุรกิจ EV
โดยตั้งเป้าว่า จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก ภายในปี 2025
และจะเปิดตัวรุ่นใหม่ ๆ อีก 15 รุ่นระหว่างปี 2023 ถึงปี 2026

โดยทางบริษัทสัญญาว่า จะผลิตรถซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่จะมี “ความโดดเด่นมากขึ้น”
ทาง John Elkann ซึ่งเป็นประธานบริษัท กล่าวว่า “ทุกสิ่งที่เรากำลังจะทำ จะยังคงความเป็น Ferrari อย่างชัดเจน”

หลังจากรุกธุรกิจ EV แล้ว บริษัทตั้งเป้าว่า รถยนต์ไฟฟ้าล้วน และรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด
จะมียอดขายคิดเป็น 80% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2030

แต่ถ้าเอาเฉพาะยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน บริษัทตั้งเป้าว่ามียอดขายคิดเป็น 5% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2025 และเพิ่มขึ้นเป็น 40% ภายในปี 2030

ด้าน Benedetto Vigna ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทบอกว่า บริษัทจะพัฒนาและสร้างมอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบไฟฟ้าและโมดูลแบตเตอรี่ด้วยตัวเอง
ซึ่งจะผลิตในโรงงานแห่งใหม่ที่ต้ังอยู่ในประเทศอิตาลี

ขณะที่ส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ส่วนประกอบหลัก จึงจะซื้อจากพาร์ตเนอร์

การที่ Ferrari ประกาศรุกธุรกิจ EV ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังสหภาพยุโรป และประเทศจีน ตั้งเป้าว่าจะแบนการใช้รถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันในอนาคต

โดย Ferrari จะทุ่มเงินกว่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.8 ล้านล้านบาท) ตลอด 3 ปีข้างหน้า จนถึงปี 2025 เพื่อขยายธุรกิจรถยนต์ไปยัง EV

และในปี 2026 จะทุ่มเงินอีก 4,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 แสนล้านบาท) เพื่อพัฒนารถยนต์ต่อไป

ความท้าทายของ Ferrari ในการรุกเข้าสู่ธุรกิจ EV ก็คือ ต้องพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงเทียบเท่ากับรถยนต์สันดาปที่ใช้พลังงานน้ำมัน
จึงเป็นเหตุผลที่ Ferrari จำเป็นต้องทุ่มเงินจำนวนมหาศาลในการพัฒนานั่นเอง

อ้างอิง:
-https://www.reuters.com/technology/ferrari-tells-investors-it-will-build-even-more-unique-electric-cars-2022-06-16/