ยุโรป โหวตผ่านกฎหมาย แบนการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน รวมถึงรถไฮบริดด้วย ภายในปี 2035
10 มิ.ย. 2022
ฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐสภายุโรป ลงมติผ่านกฎหมายแบนการจำหน่ายรถยนต์สันดาปภายใน ที่ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซิน นับตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป
โดยมีคะแนนเสียงโหวตเห็นด้วย 339 คน ไม่เห็นด้วย 249 คน และงดออกเสียง 24 คน
ซึ่งกฎหมายดังกล่าวนี้ จะมีผลบังคับใช้กับทั้งหมด 27 ประเทศที่เป็นประเทศสมาชิกยุโรป
ซึ่งกฎหมายดังกล่าวนี้ จะมีผลบังคับใช้กับทั้งหมด 27 ประเทศที่เป็นประเทศสมาชิกยุโรป
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญของยุโรป ที่จะเข้าใกล้เป้าหมายในการลดการปล่อยมลพิษ
ซึ่งได้ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2030 ยุโรปจะสามารถลดการปล่อยมลพิษจากรถยนต์และรถตู้ได้ราว 50%
และภายในปี 2035 จะสามารถลดการปล่อยมลพิษได้ 100% ทั้งจากรถยนต์ส่วนบุคคล และเพื่อการพาณิชย์
ซึ่งได้ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2030 ยุโรปจะสามารถลดการปล่อยมลพิษจากรถยนต์และรถตู้ได้ราว 50%
และภายในปี 2035 จะสามารถลดการปล่อยมลพิษได้ 100% ทั้งจากรถยนต์ส่วนบุคคล และเพื่อการพาณิชย์
กฎหมายแบนการจำหน่ายรถยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซิน
ยังมีผลต่อรถยนต์ไฮบริด (Hybrid) ที่ผสมผสานระหว่างพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันด้วย
ยังมีผลต่อรถยนต์ไฮบริด (Hybrid) ที่ผสมผสานระหว่างพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันด้วย
โดยพรรคการเมือง European People's Party (EPP) ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษนิยม
ได้ผลักดันให้มีการประนีประนอมในการอนุญาตให้จำหน่ายรถยนต์ไฮบริดต่อไปได้ แต่ก็ไม่เป็นผล
ได้ผลักดันให้มีการประนีประนอมในการอนุญาตให้จำหน่ายรถยนต์ไฮบริดต่อไปได้ แต่ก็ไม่เป็นผล
ส่วนพรรค Green พยายามผลักดันให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้เร็วขึ้น คือ แบนการจำหน่ายภายในปี 2030 ก็ไม่เป็นผลเช่นกัน
สำหรับสหราชอาณาจักร ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป แต่ได้แยกตัวออกไปแล้ว
ก็มีแผนที่จะแบนการจำหน่ายรถยนต์สันดาปภายใน และรถตู้ ที่ใช้น้ำมันดีเซล และเบนซิน
โดยตั้งเป้าว่า ภายในปี 2035 รถยนต์ทุกคันต้องไม่มีการปล่อยมลพิษผ่านท่อไอเสียเลย
ก็มีแผนที่จะแบนการจำหน่ายรถยนต์สันดาปภายใน และรถตู้ ที่ใช้น้ำมันดีเซล และเบนซิน
โดยตั้งเป้าว่า ภายในปี 2035 รถยนต์ทุกคันต้องไม่มีการปล่อยมลพิษผ่านท่อไอเสียเลย
การที่หลายประเทศเริ่มหันมาแบนการใช้รถยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมัน ซึ่งรวมถึงรถยนต์แบบไฮบริดด้วย
ก็จะส่งผลให้ผู้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
ก็จะส่งผลให้ผู้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
จึงทำให้ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงค่ายรถยนต์ดั้งเดิม มุ่งมาพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
ซึ่งสุดท้าย ก็จะเป็นผลดี ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเยอะขึ้น และรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลงด้วยนั่นเอง..
ซึ่งสุดท้าย ก็จะเป็นผลดี ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเยอะขึ้น และรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลงด้วยนั่นเอง..
อ้างอิง:
-https://www.cnbc.com/2022/06/09/goodbye-gasoline-cars-eu-lawmakers-vote-to-ban-new-sales-from-2035.html
-https://www.france24.com/en/europe/20220609-eu-parliament-approves-ban-on-new-fossil-fueled-cars-by-2035
-https://www.cnbc.com/2022/06/09/goodbye-gasoline-cars-eu-lawmakers-vote-to-ban-new-sales-from-2035.html
-https://www.france24.com/en/europe/20220609-eu-parliament-approves-ban-on-new-fossil-fueled-cars-by-2035