สหรัฐฯ ประกาศทุ่มงบประมาณกว่า 1 แสนล้านบาท หนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในการผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้า
3 พ.ค. 2022
ท่ามกลางศึกรถยนต์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับโอกาสทางเศรษฐกิจ, ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ, ตำแหน่งงาน และเม็ดเงินหมุนเวียนอันมหาศาล
จนทำให้หลายประเทศ ต้องเร่งมือพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง มาแข่งขันกันอย่างดุเดือด
เพื่อชิงตำแหน่งผู้นำของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในยุคถัดไป
เพื่อชิงตำแหน่งผู้นำของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในยุคถัดไป
ทั้งนี้ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะทำให้แต่ละประเทศ สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าได้ นั่นก็คือ “แบตเตอรี่”
เพราะถ้าหากมีโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตแบตเตอรี่ที่ดี จะสามารถสร้างความได้เปรียบได้ทั้งในด้านนวัตกรรมและต้นทุนค่าขนส่ง
แถมยังสามารถดึงดูดให้ต่างประเทศ และแบรนด์ค่ายรถต่าง ๆ เข้ามาลงทุนสร้างฐานการผลิตรถไฟฟ้าได้อีกด้วย
แถมยังสามารถดึงดูดให้ต่างประเทศ และแบรนด์ค่ายรถต่าง ๆ เข้ามาลงทุนสร้างฐานการผลิตรถไฟฟ้าได้อีกด้วย
จนล่าสุด สหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้มีการจัดสรรเงินทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่แปรรูป ไปจนถึงรีไซเคิลแบบครบวงจร
โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 103,500 บาท)
โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 103,500 บาท)
ซึ่งโจ ไบเดน ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี ค.ศ. 2030 ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ ทั้งหมด จะต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วน 50%
การลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตแบตเตอรี่ดังกล่าว
จึงเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง ให้กับระบบซัปพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ
เพื่อแข่งขันกับประเทศจีน ที่อุตสาหกรรมนี้กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก ทั้งด้านเทคโนโลยี, การลงทุน, การใช้งานของผู้บริโภค, การตลาด, โครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ
จึงเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง ให้กับระบบซัปพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ
เพื่อแข่งขันกับประเทศจีน ที่อุตสาหกรรมนี้กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก ทั้งด้านเทคโนโลยี, การลงทุน, การใช้งานของผู้บริโภค, การตลาด, โครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ
เพราะถึงแม้สหรัฐฯ จะเป็นประเทศที่มีบริษัทผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla อยู่แล้ว
แต่ถ้าหากพูดถึง แบตเตอรี่ ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจหลักของรถยนต์ไฟฟ้า
หลายคนคงนึกถึง “ประเทศจีน” ซึ่งผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลกมากกว่า
หลายคนคงนึกถึง “ประเทศจีน” ซึ่งผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลกมากกว่า
โดยปัจจุบัน ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากสุดในโลก คือ CATL จากประเทศจีนนั่งเอง
ดังนั้น การผลักดันการผลิตแบตเตอรี่ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการเดินเกมที่น่าสนใจของสหรัฐฯ ที่กำลังจริงจังและต้องการขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
อ้างอิง :
-https://www.reuters.com/business/autos-transportation/us-spend-more-than-3-bln-ev-battery-manufacturing-white-house-2022-05-02/
-https://www.reuters.com/business/autos-transportation/us-spend-more-than-3-bln-ev-battery-manufacturing-white-house-2022-05-02/