เจ้าของ KFC ในจีน ขยายสาขาเกินครึ่งใน 5 ปี โดยไม่ต้องเพิ่มพนักงาน ได้อย่างไร ?
10 ก.พ. 2022
ในอนาคตมีการคาดการณ์ว่า หุ่นยนต์ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงาน และอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น หรืออาจจะแทนที่มนุษย์บางส่วนไปเลยก็ได้
ซึ่งปัจจุบัน บางอุตสาหกรรมก็ได้นำหุ่นยนต์มาเริ่มใช้ทำงานแล้ว อย่าง MK ในไทย นำหุ่นยนต์มาเสิร์ฟอาหารกว่า 530 ตัว
เช่นเดียวกับ Yum China Holdings เจ้าของแฟรนไชส์ KFC และ Pizza Hut ในจีน ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงการระบาดของโควิด 19 แม้ว่าจำนวนพนักงานของพวกเขาจะไม่เพิ่มขึ้นเลย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาก็ตาม
แต่เรื่องน่าสนใจคือ
ในปี 2016 Yum China มีจำนวนพนักงานประจำ และพาร์ทไทม์อยู่ที่ 420,000 คน
และเมื่อผ่านมา 5 ปี หรือในปี 2021 Yum China มีจำนวนพนักงานประจำ และพาร์ทไทม์อยู่ที่ 420,000 คนเท่าเดิม
ซึ่งตัวเลขทั้งหมดนี้ คือรวมพนักงานทั้งหมดในเครือ
ที่มีทั้งร้าน KFC, Pizza Hut, Taco Bell, ร้านหม้อไฟ Little Sheep, Huang Ji Huang, East Dawning, ร้านกาแฟ COFFii & JOY และ Lavazza
ถึงแม้ว่าจำนวนพนักงานจะไม่เพิ่มขึ้นเลย แต่ถ้าดูจำนวนร้านค้าในช่วง 5 ปีที่ผ่าน เพิ่มขึ้นกว่า 56%
ในปี 2016 มีร้านค้าจำนวน 7,562 ร้าน
ในปี 2021 มีร้านค้าจำนวน 11,788 ร้าน
คำถามก็คือ แล้ว Yum China ทำอย่างไร ที่สามารถขยายสาขาได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่เพิ่มจำนวนพนักงานเลย ?
คำตอบง่าย ๆ ก็คือ Yum China หันมาใช้เทคโนโลยีและหุ่นยนต์ในการให้บริการมากขึ้น
เช่น หน้าจอสัมผัสสำหรับการสั่งซื้ออาหาร, หุ่นยนต์ทำไอศกรีมโคนแบบซอฟต์เสิร์ฟ และตู้ล็อกเกอร์ดิจิทัล ที่สั่งอาหารผ่านทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน และมารับอาหารที่ตู้ได้เลย
ซึ่งทางคุณ Joey Watt ผู้บริหาร Yum China ได้เน้นย้ำว่า ในช่วงที่ผ่านมา Yum China ได้ลงทุนเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีดิจิทัล ที่จะนำมาสนับสนุนด้านการปฏิบัติงาน
โดยเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว Yum China ประกาศลงทุนกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,500 ล้านบาท) ในการเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนา ในเมืองเซียงไฮ้ ซีอาน และหนานจิง
นอกจากนี้ Yum China ยังได้ประกาศว่า ในปีนี้ ยังมีแผนจะเปิดจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นอีก 1,000 - 2,000 แห่งสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ด้วย ซึ่งก็ไม่ได้มีประกาศเกี่ยวกับการจ้างพนักงานเพิ่มแต่อย่างใด..
อ้างอิง :