ดัชมิลล์ ผู้นำตลาดนมและเครื่องดื่มสุขภาพ คัดโพรไบโอติกสายพันธุ์พิเศษ LGG™ จากคริสเตียน แฮนเซน นำร่องดัชมิลล์ พลัส ดัชชี่ ไบโอ และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดัชมิลล์ โปรบิแล็ค
22 ธ.ค. 2021
ดัชมิลล์ เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดนมประเทศไทย พลิกโฉมนวัตกรรมผลิตภัณฑ์นมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในประเทศ จับมือคริสเตียน แฮนเซน (Chr. Hansen) สถาบันวิจัยโพรไบโอติก ประเทศเดนมาร์ก พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมซูเปอร์โพรไบโอติก สายพันธุ์ LGG™ ส่งเสริมคนไทยสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้ทุกวัน หัวใจสำคัญคือการต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างยั่งยืน ครองความเป็นผู้นำโพรไบโอติก นำทัพด้วย 3 ผลิตภัณฑ์เด่น “ดัชมิลล์ พลัส” “ดัชชี่ ไบโอ” และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพรไบโอติก “ดัชมิลล์ โปรบิแล็ค” สนับสนุนให้คนไทยทั่วประเทศเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีผ่านการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีโพรไบโอติกง่ายๆได้ทุกวัน เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ เพื่อเป็นเกราะป้องกันและต่อสู้เชื้อโรคที่อยู่รอบตัวเรา และหันมามองหาวิธีสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้ร่างกายและคนในครอบครัวมากขึ้น
นายพรชัย สวัสดิ์สุขสบชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดเทรนด์พฤติกรรมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น เช่น การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่กรมอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนว่าอนาคตอาจมีโอกาสเกิดโรคอุบัติใหม่ที่รุนแรงกว่าเชื้อโควิด-19 ซึ่งรวมถึงเชื้อโรคสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งจากวิกฤติที่ผ่านมา คนไทยเริ่มตระหนักว่าการมีสุขภาพที่แข็งแรงคือรากฐานที่สำคัญ จึงเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่เติมเต็มสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่ง “โพรไบโอติก” สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ จึงได้รับความนิยมมากขึ้น
ทั้งนี้ ดัชมิลล์ เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทย ซึ่งได้บุกเบิกนวัตกรรมนำโพรไบโอติกจุลินทรีย์ชนิดดีเป็นส่วนผสมลงในผลิตภัณฑ์กลุ่มนมเปรี้ยว โยเกิร์ต และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยตระหนักถึงคุณภาพของโพรไบโอติกที่นำมาใส่ในผลิตภัณฑ์ของดัชมิลล์ จึงมองหาโพรไบโอติกจากสถาบันวิจัยที่น่าเชื่อถือ อย่างสถาบันคริสเตียน แฮนเซน ประเทศเดนมาร์กที่พัฒนาโพรไบโอติกสายพันธุ์ LGG™ จุลินทรีย์ที่มีชีวิต เนื่องจากผ่านการพิสูจน์ด้านประสิทธิภาพด้วยผลงานวิจัยที่มีมากที่สุดในโลก ซึ่งมีการศึกษาทางคลินิกและตีพิมพ์มากกว่า 250 ฉบับ ว่ามีส่วนในการช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ช่วยปรับสมดุลของลำไส้ โดยโพรไบโอติก LGG™ มีเฉพาะใน ดัชมิลล์ พลัส ดัชชี่ ไบโอ และ ดัชมิลล์ โปรบิแล็ค เท่านั้น ซึ่งจากการศึกษาพบว่า กว่า 70% ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ที่ลำไส้ ดังนั้นการทานโพรไบโอติกเป็นประจำมีส่วนช่วยในช่วยการปรับสมดุลในระบบทางเดินอาหารและลำไส้ เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวัคซีน
“เรามีแนวคิดต่อยอดจุดแข็งด้านโพรไบโอติกด้วยการพัฒนาสายพันธุ์พิเศษเฉพาะดัชมิลล์ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้ เพราะอยากให้คนไทยได้ดูแลตัวเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์และด้วยโพรไบโอติกจากดัชมิลล์ทุกวัน ยิ่งสถานการณ์ในปัจจุบัน มีความจำเป็นอย่างมากที่เราต้องเสริมสร้างร่างกายและสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอยู่เสมอ หากวันนี้หน้ากากคืออุปกรณ์ช่วยป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคแบคทีเรีย ไวรัส ที่เราต้องเผชิญในแต่ละวัน การรับประทานโพรไบโอติกทุกวันจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างเกราะคุ้มกันเชื้อโรคให้กับตัวเองได้ทุกเพศทุกวัยเช่นกัน ยิ่งทานทุกวัน ภูมิคุ้มกันก็ยิ่งแข็งแรง พร้อมต่อสู้กับเชื้อโรคทั้งใหม่และเก่าได้ และเป็นการปลดล็อกให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงโพรไบโอติกได้ง่ายขึ้นในหลายรูปแบบตามความต้องการของผู้บริโภค ในราคาจับต้องได้” นายพรชัย กล่าว
นอกจากนี้ ดัชมิลล์ ยังได้พัฒนาโพรไบโอติกสายพันธุ์ LPC-37 , L.casei431® และ BB -12® มาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ดัชชี่ พลัส และ ดีไลท์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดนมและผู้นำนวัตกรรมนมเพื่อสุขภาพ จับกลุ่มผู้บริโภคครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งเด็ก วัยรุ่น คนทำงาน และผู้สูงอายุ นับเป็นการพลิกโฉมหน้านวัตกรรมนมและอาหารเพื่อสุขภาพครั้งสำคัญของประเทศไทย โดยปัจจุบันดัชมิลล์มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ 27%
ด้าน คุณดอร์เต้อ เอสคีเซน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ ทางด้านจุลินทรีย์และโพรไบโอติกในอาหารผลิตภัณฑ์นม บ. คริสเตียน แฮนเซน กล่าวว่า จากการศึกษาในปัจจุบัน พบว่า โพรไบโอติก หรือจุลินทรีย์ชนิดดีขนาดเล็กอาจมีบทบาทสำคัญในการช่วยสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ในการเสริมสร้างการป้องกันตามธรรมชาติ ที่ผ่านมาโพรไบโอติกยังเข้าถึงได้ยากสำหรับผู้บริโภคในประเทศไทย แต่ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของดัชมิลล์ ได้มีการเติม โพรไบโอติคสายพันธุ์ LGG™ จาก บ. คริสเตียน แฮนเซน, ทำให้ให้ผู้บริโภคทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย มีโอกาสในการเข้าถึงการบริโภคโพรไบโอติกที่เพียงพอต่อร่างกายได้ทุกวัน โดยเฉพาะ โพรไบโอติก LGG™ นั้นได้รับการยอมรับและใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกตั้งแต่ปี 1990 โดยมีการตีพิมพ์รายงานมากกว่า 1,200 ฉบับ LGG™ ถือเป็นโพรไบโอติคสายพันธุ์ที่มีงานวิจัยและเอกสารการศึกษาที่มากที่สุดในโลก LGG™ มีพิไลหรือ “ขน” ที่ช่วยเกาะในผนังลำไส้ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะนี้ ช่วยสนับสนุนการทำงาน และการอยู่รอดของสายพันธุ์ LGG™ ในร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับ LGG™ ในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ มีส่วนสนับสนุนการรักษาสมดุลของแบคทีเรียที่ดีในร่างกาย ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสายพันธุ์ LGG™ แสดงให้เห็นว่าโพรไบโอติกเฉพาะนี้สามารถโต้ตอบกับเซลล์ภูมิคุ้มกัน ดังนั้นจึงอาจเสริมสร้างร่างกายและ การทำงานของภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ LGG™, L.casei431® และ BB-12® เป็นเครื่องหมายการค้าของ บ. คริสเตียน แฮนเซน
สำหรับผู้สนใจ ดัชมิลล์ยังมีผลิตภัณฑ์ที่มีโพรไบโอติกอื่น ๆ อีกหลายสายพันธุ์ สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับประโยชน์และคุณสมบัติของโพรไบโอติกในดัชมิลล์ได้ที่ https://www.dutchmill.co.th/research.aspx?t=5&l=th&id=18
Tag:ดัชมิลล์