
TOSTEM เปิดตัว “ATIS” นวัตกรรมประตูหน้าต่างสุดล้ำจากญี่ปุ่น เพิ่มสุนทรียภาพแห่งการอยู่อาศัย ตอบโจทย์คนทุกวัย
10 พ.ย. 2021
สถานการณ์การเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้คนต้องปรับตัวหันมาใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้เทรนด์การตกเเต่งบ้านก็เริ่มเปลี่ยนไป โดยผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับความสะดวกและความสบายของพื้นที่อยู่อาศัย มีการปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซมบ้าน รวมถึงสนใจการออกแบบตกแต่งบ้าน และเลือกซื้อวัสดุมาปรับปรุงบ้านด้วยตัวเองกันมากขึ้น
ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ทอสเท็ม (TOSTEM) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจากประเทศญี่ปุ่น และได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภคมายาวนานกว่า 50 ปี ต้องปรับทิศทางการตลาด เพื่อหาเเนวทางที่ตอบโจทย์สถานการณ์ตลาดและพฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากขึ้น จึงได้ทำการศึกษาวิจัย พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ เพื่อเป็นผู้นำตลาดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
หนึ่งในนั้นคือการเปิดตัว “ATIS” นวัตกรรมประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมสุดล้ำ ชูจุดเด่นดีไซน์สวยงามแบบมินิมัล พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ปลอดภัย ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพแห่งการใช้ชีวิต ที่ตอบโจทย์เพื่อทุกคนในครอบครัว

วิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจ เฮาส์ซิ่งเทคโนโลยี บริษัท ลิกซิล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ ATIS ในการออกแบบหน้าต่างบานยก (Tile & Slide) ว่าเป็นการรวมฟังก์ชันการทำงานและดีไซน์ไว้ในกรอบหน้าต่างเดียวอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแบบเอียงบานเข้าด้านในห้องเพื่อรับลมธรรมชาติได้ตลอดวันแม้ในขณะที่ฝนตก ดีไซน์ที่สวยเข้าได้กับทุกดีไซน์บ้าน อีกทั้งยังมี PSS BALANCER ที่ช่วยให้การเปิด-ปิดหน้าต่างเป็นไปอย่างนุ่มนวล เบาแรง เพราะบาลานเซอร์จะรองรับน้ำหนักบานหน้าต่างทั้งหมดไว้พร้อมกับควบคุมทิศทางในการเลื่อน
ที่น่าสนใจ คือ ผลิตภัณฑ์รุ่น ATIS นี้ ยังมาพร้อมนวัตกรรมผืนมุ้งกันแมลง Invisible Shield ซึ่งใช้เส้นใยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กกว่าทั่วไปถึง 40% ทำให้โปร่งแสงขึ้น สามารถมองวิวผ่านได้แบบสุดสายตา ไม่ทำให้บรรยากาศในห้องอึดอัด เพราะช่วยให้ลมผ่านได้มากขึ้นถึง 20% ตอบโจทย์ในแง่ฟังก์ชันการใช้งานที่แสนสะดวก สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม การออกแบบผลิตภัณฑ์ของ ทอสเท็ม ไม่ได้คำนึงถึงความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย เช่น มือจับแบบก้านหมุน (Operator Handle) ในหน้าต่างบานกระทุ้ง (Awning) ช่วยให้ใช้งานหน้าต่างปลอดภัยมากขึ้น ไม่ต้องเอนตัวออกนอกอาคารเพื่อเปิด/ปิดหน้าต่าง และฟังก์ชันการเลื่อนปิดบานแบบ 2 จังหวะเพื่อป้องกันการหนีบมือในหน้าต่างบานยก (Tilt & Slide) ซึ่งการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยนี้ทำให้ทอสเท็มได้รับรางวัลจากสถาบันการออกแบบชั้นนำ เช่น รางวัล KIDS DESIGN AWARD และประตูหน้าต่าง ATIS ออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนขนาด สี ความหนาของกระจกได้ตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละรายได้ด้วย
“เราหวังว่า ATIS จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนไทย และช่วยดันรายได้ในตลาดคอนซูเมอร์ของทอสเท็มให้เติบโตได้มากขึ้น”
สำหรับภาพรวมของทอสเท็ม ในประเทศไทย วิชา กล่าวว่า มีการเติบโตขึ้นเท่าตัวในระยะเวลา 10 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ ทอสเท็มเป็นที่รู้จักในเเวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เเละสถาปนิก ที่ผ่านมา จะเน้นทำตลาดเเบบ B2B กับกลุ่มลูกค้าโครงการ แต่ 2 ปีที่ผ่านมารายได้จากกลุ่มลูกค้าที่เป็นเจ้าของบ้านเติบโตขึ้นถึง 20-30% จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ ATIS ที่จะเน้นทำการตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น
“กลยุทธ์จากนี้ เราจะเดินหน้าพัฒนารูปแบบและช่องทางการสื่อสารให้ลูกค้าเห็นความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ ด้วยฟังก์ชันที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้ลูกค้าใช้งานระบบได้สะดวก รวดเร็ว ง่ายขึ้นกว่าเดิม และตอบโจทย์พฤติกรรมของคนในยุค New Normal ทั้งโชว์รูมเสมือนจริงในช่องทางเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย Facebook, YouTube, Instagram และ Line Official Account เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามได้สะดวกและหลากหลายช่องทาง” วิชาทิ้งท้าย