ONEE เคาะช่วงราคาขายหุ้น IPO ที่ 7.50 - 8.50 บาท ตั้งเป้าระดมเงินกว่า 3,000 ล้านบาท
14 ต.ค. 2021
บมจ. เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือ ONEE ผู้นำธุรกิจสื่อและความบันเทิงแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี พร้อมต่อยอดศักยภาพการเติบโต
โดยมีแผนระดมทุนเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อขยายธุรกิจและพัฒนาความสามารถในการสร้างรายได้จากทุกที่และทุกเวลา
ตั้งเป้าจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,443 - 3,908 ล้านบาท ไปใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้
โดยมีแผนระดมทุนเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อขยายธุรกิจและพัฒนาความสามารถในการสร้างรายได้จากทุกที่และทุกเวลา
ตั้งเป้าจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,443 - 3,908 ล้านบาท ไปใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้
1. ลงทุนพัฒนาศักยภาพในการผลิตรายการและเพิ่มงบประมาณผลิตรายการ
จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 500 ล้านบาท ภายในปี 2566
จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 500 ล้านบาท ภายในปี 2566
2. ลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ
จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 130 ล้านบาท ภายในปี 2567
จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 130 ล้านบาท ภายในปี 2567
3. ปรับโครงสร้างเงินทุนโดยการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบัน
จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 2,200 ล้านบาท ภายหลังที่บริษัทออกและเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทันที
จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 2,200 ล้านบาท ภายหลังที่บริษัทออกและเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทันที
4. เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 613 - 1,078 ล้านบาท
โดยกลุ่ม ONEE ได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้น IPO เบื้องต้นอยู่ที่ 7.50 – 8.50 บาทต่อหุ้น
เสนอขายจำนวนไม่เกิน 496,252,500 หุ้น มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 3,722 - 4,218 ล้านบาท
เสนอขายจำนวนไม่เกิน 496,252,500 หุ้น มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 3,722 - 4,218 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะเปิดให้นักลงทุนที่เป็นบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จองซื้อในวันที่ 20 - 21 และ 25 - 26 ตุลาคมนี้
โดยจะต้องชำระเงินที่ราคา 8.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขาย
โดยจะต้องชำระเงินที่ราคา 8.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขาย
สำหรับธุรกรรม IPO ในครั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
และมีบริษัทหลักทรัพย์อีก 6 ราย ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้, บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
คุณบอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ONEE ได้สรุปถึงความน่าสนใจของ ONEE ว่า มีโมเดลธุรกิจที่ครอบคลุมธุรกิจสื่อและความบันเทิงตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
-มีรากฐานการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพที่มีความหลากหลายทั้ง ละคร, ซิตคอม, ซีรีส์, รายการวาไรตี้ และข่าว
-ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชมเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Premium Mass, กลุ่ม Family, กลุ่ม New Generation และกลุ่ม Edgy เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่และเป็นที่นิยม
-เป็นเจ้าของและบริหารช่องทางการเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย และต่อยอดสู่การผลิตคอนเทนต์ให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
-ประกอบธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การจัดงานอีเวนต์, การบริหารศิลปินในสังกัดกว่า 200 ราย, การขายสินค้าจากรายการและศิลปิน และการให้เช่าสถานที่ถ่ายทำ
-เสริมทัพด้วยบริหารจัดการด้วยทีมผู้บริหารและบุคลากรที่มีความเชียวชาญและมากด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี พร้อมด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่
ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ ONEE สามารถตอบสนองและปรับตัวตามพฤติกรรมและรสนิยมของกลุ่มผู้ชมเป้าหมายที่มีความหลากหลายและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาท่ามกลางยุค Digital Disruption
ส่วนกลุ่ม ONEE จะมีกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนได้อย่างไร
คุณระฟ้า ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดกลุ่ม ONEE เผยว่า หมัดเด็ดของกลุ่มบริษัทฯ คือโมเดลธุรกิจแบบครบวงจร
เริ่มตั้งแต่การนำข้อมูลและเสียงตอบรับจากกลุ่มผู้ชมในทุกช่องทาง มาวิเคราะห์ในเชิงลึกเพื่อนำมาพัฒนาสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีความแปลกใหม่และได้รับความนิยม
เริ่มตั้งแต่การนำข้อมูลและเสียงตอบรับจากกลุ่มผู้ชมในทุกช่องทาง มาวิเคราะห์ในเชิงลึกเพื่อนำมาพัฒนาสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีความแปลกใหม่และได้รับความนิยม
กำหนดช่องทางเผยแพร่และเวลาออกอากาศ ตรงกับรสนิยมและพฤติกรรมรับชมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
ส่งผลให้มีประสิทธิภาพการบริหารจัดการตลอดทั้ง Value Chain ที่เอื้อประโยชน์สูงสุดในการสร้างรายได้และควบคุมต้นทุนการผลิต เพื่อสนับสนุนความสามารถทำกำไรที่ดีในระยะยาว
ส่งผลให้มีประสิทธิภาพการบริหารจัดการตลอดทั้ง Value Chain ที่เอื้อประโยชน์สูงสุดในการสร้างรายได้และควบคุมต้นทุนการผลิต เพื่อสนับสนุนความสามารถทำกำไรที่ดีในระยะยาว
ทั้งหมดนี้ เห็นได้จากความสามารถในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของเม็ดเงินโฆษณาผ่านช่องทางทีวีอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นรากฐานที่มั่นคง และต่อยอดสู่การเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง Social Media และ OTT Platforms
ซึ่งปัจจุบันรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ถือเป็นส่วนสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ ที่สามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมุ่งขยายฐานผู้ชมไปสู่ระดับสากลผ่านเครือข่ายพันธมิตร OTT Platforms ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ Netflix, LINE TV, Disney+ Hotstar, WeTV, Viu, TRUE ID, AIS Play, IQIYI เป็นต้น
ผ่านรูปแบบการบริหารลิขสิทธิ์และการรับจ้างผลิตให้แก่แพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ จนปัจจุบัน ONEE มีฐานผู้ชมครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและอีกกว่า 15 ประเทศทั่วโลก
สำหรับเป้าหมายรายได้ในอีก 3 - 5 ปีข้างหน้า คุณระฟ้า กล่าวว่า ทางกลุ่มบริษัทฯ คาดว่าจะมีอัตราเติบโตขึ้น และสัดส่วนรายได้เปลี่ยนแปลงไป
โดยช่องทางโทรทัศน์ (TV) จะมีสัดส่วนที่ 40 - 45% จากเดิม 48%
ช่องทางออนไลน์จะมีสัดส่วนที่ 25 - 28% จากเดิม 21%
ช่องทางตลาดต่างประเทศ จะมีสัดส่วนที่ 7 - 10% จากเดิม 5%
ช่องอื่นๆ จะมีสัดส่วนที่ 27% จากเดิม 12 - 25%
ช่องทางออนไลน์จะมีสัดส่วนที่ 25 - 28% จากเดิม 21%
ช่องทางตลาดต่างประเทศ จะมีสัดส่วนที่ 7 - 10% จากเดิม 5%
ช่องอื่นๆ จะมีสัดส่วนที่ 27% จากเดิม 12 - 25%
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงาน
ปี 2561 มีรายได้รวม 4,199 ล้านบาท กำไร 73 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้รวม 4,818 ล้านบาท กำไร 228 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 4,875 ล้านบาท กำไร 658 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้รวม 4,199 ล้านบาท กำไร 73 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้รวม 4,818 ล้านบาท กำไร 228 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 4,875 ล้านบาท กำไร 658 ล้านบาท