Nike ประกาศผลประกอบการดีเกินคาด รายได้โตกว่า 96% จนราคาหุ้นพุ่ง 14%
25 มิ.ย. 2021
Nike ได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 (มี.ย. - พ.ค. 2021)
ซึ่งรายได้แบบรายไตรมาส และรายได้ทั้งปี สูงเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก
ซึ่งรายได้แบบรายไตรมาส และรายได้ทั้งปี สูงเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก
ทำให้หลังจากประกาศงบการเงิน ราคาหุ้นของ Nike ก็พุ่งทะยานขึ้น 14% ทันที ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นของมูลค่าบริษัทกว่า 945,000 ล้านบาท ภายในวันเดียว
(มูลค่าบริษัทกลายเป็น 7,649,000 ล้านบาท)
หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นของมูลค่าบริษัทกว่า 945,000 ล้านบาท ภายในวันเดียว
(มูลค่าบริษัทกลายเป็น 7,649,000 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 4 Nike
มีรายได้ 392,045 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
มีกำไร 47,926 ล้านบาท (ในขณะที่ช่วงปีก่อนขาดทุนอยู่ 25,090 ล้านบาท)
มีรายได้ 392,045 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
มีกำไร 47,926 ล้านบาท (ในขณะที่ช่วงปีก่อนขาดทุนอยู่ 25,090 ล้านบาท)
และสำหรับทั้งปี 2021
มีรายได้ 1,414,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อนหน้า
มีกำไร 181,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126% จากปีก่อนหน้า
มีรายได้ 1,414,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อนหน้า
มีกำไร 181,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126% จากปีก่อนหน้า
โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจาก
แบรนด์ Nike (95%)
แบรนด์ Converse (5%)
แบรนด์ Nike (95%)
แบรนด์ Converse (5%)
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้รายได้ในไตรมาสที่ 4 ของ Nike เติบโตอย่างโดดเด่นถึง 96% มาจาก
-ฐานรายได้ที่ต่ำในช่วงปีก่อนหน้า จากสถานการณ์โรคระบาด
-ฐานรายได้ที่ต่ำในช่วงปีก่อนหน้า จากสถานการณ์โรคระบาด
-ยอดขายจากช่องทางออนไลน์ ที่เติบโตขึ้นถึง 41% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้นถึง 147% เมื่อเทียบกับสองปีก่อน
-พอสถานการณ์โรคระบาด เริ่มคลี่คลายในหลายประเทศ ทำให้ผู้คนไม่ต้องกักตัวอยู่บ้าน เลยไปหาซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่ไปออกกำลังกาย, เดินป่า และทำกิจกรรมนอกบ้านกัน
รวมถึงคนบางกลุ่ม ยังเคยชินหรือติดใจ กับการสวมใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ในช่วงกักตัวอยู่บ้าน
จึงหันมาซื้อชุดลำลอง, ร้องเท้าผ้าใบ และกางเกงผ้ายืด เพื่อใส่ออกไปนอกบ้าน กันมากขึ้น
จึงหันมาซื้อชุดลำลอง, ร้องเท้าผ้าใบ และกางเกงผ้ายืด เพื่อใส่ออกไปนอกบ้าน กันมากขึ้น
-ได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่สุดของ Nike
ถ้ามาดูสัดส่วนรายได้เฉพาะแบรนด์ Nike ในไตรมาสที่ 4 แบ่งตามภูมิศาสตร์ จะมาจาก
อเมริกาเหนือ 46% (มียอดขายเพิ่มขึ้น 141%)
ยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 25% (มียอดขายเพิ่มขึ้น 124%)
จีน 16% (มียอดขายเพิ่มขึ้น 17%)
เอเชียแปซิฟิก และละตินอเมริกา 13% (มียอดขายเพิ่มขึ้น 82%)
อเมริกาเหนือ 46% (มียอดขายเพิ่มขึ้น 141%)
ยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 25% (มียอดขายเพิ่มขึ้น 124%)
จีน 16% (มียอดขายเพิ่มขึ้น 17%)
เอเชียแปซิฟิก และละตินอเมริกา 13% (มียอดขายเพิ่มขึ้น 82%)
จะเห็นว่า ตลาดที่มียอดขายเติบโตได้ดีสุดของ Nike คือ อเมริกาเหนือ
และยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งเติบโตเป็นเลข 3 หลักเลยทีเดียว
แถมยังเป็นตลาดทที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดอีกด้วย
และยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งเติบโตเป็นเลข 3 หลักเลยทีเดียว
แถมยังเป็นตลาดทที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดอีกด้วย
ส่วนตลาดในประเทศจีน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้เป็นดาวรุ่ง คอยผลักดันผลประกอบการของบริษัท เพราะมีการเติบโตที่โดดเด่นกว่าตลาดอื่น ๆ
ในไตรมาสล่าสุด กลับมียอดขายเติบโตเพียง 17% เท่านั้น
ในไตรมาสล่าสุด กลับมียอดขายเติบโตเพียง 17% เท่านั้น
โดยเรื่องนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจาก ความท้าทายของ Nike ที่กำลังถูกชาวจีนขู่คว่ำบาตร
หลังจากทางแบรนด์ Nike ได้ออกมาแสดงความกังวล เกี่ยวกับเรื่องการบังคับใช้แรงงานในซินเจียง ไปเมื่อก่อนหน้านี้ นั่นเอง
หลังจากทางแบรนด์ Nike ได้ออกมาแสดงความกังวล เกี่ยวกับเรื่องการบังคับใช้แรงงานในซินเจียง ไปเมื่อก่อนหน้านี้ นั่นเอง
อ้างอิง :
-https://s1.q4cdn.com/806093406/files/doc_financials/2021/q4/FY21-Q4-Combined-NIKE-Press-Release-Schedules-FINAL-(002)-(1).pdf
-https://www.cnbc.com/2021/06/24/nike-nke-q4-2021-earnings.html
-https://www.reuters.com/business/retail-consumer/nike-revenue-beats-upbeat-north-america-demand-2021-06-24/
-https://s1.q4cdn.com/806093406/files/doc_financials/2021/q4/FY21-Q4-Combined-NIKE-Press-Release-Schedules-FINAL-(002)-(1).pdf
-https://www.cnbc.com/2021/06/24/nike-nke-q4-2021-earnings.html
-https://www.reuters.com/business/retail-consumer/nike-revenue-beats-upbeat-north-america-demand-2021-06-24/
Tag:Nike