“มาชิตะxฮะจิบัง” หมัดเด็ดปลุกตลาดสาหร่าย เปิดตัว “รสราเมนเย็น”

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงแบรนด์สาหร่าย ที่มีไอเดีย แตกต่าง กว่าสาหร่ายซองอื่น ๆ
ชื่อของ “มาชิตะ” จะถูกนึกถึงขึ้นมาทันที

เพราะที่ผ่านมาเราเห็นสาหร่ายแบรนด์นี้ จับมือกับร้านอาหารชื่อดังมากมาย
เพื่อผลิตรสชาติใหม่ ๆ ยกตัวอย่างเช่น
จับมือกับ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ออกรสชาติ เบคอน
จับมือกับ “บอนชอน ชิคเก้น” ออกรสชาติ ไก่ทอดซอยการ์ลิค
จับมือกับ “ซูกิชิ” ออกรสชาติ “ซี่โครงย่าง หมักซอสเกาหลี”

โดยแต่ละรสชาติก็ประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขาย
ด้วยไอเดียการตลาดเจ๋ง ๆ ของ “มาชิตะ” คือการเลือกจับมือกับร้านอาหารชื่อดังระดับประเทศ
จากนั้นก็ดึงเอาเมนูยอดนิยมของแต่ละร้าน มาคิดค้นเป็นรสชาติใหม่ให้แก่สาหร่ายตัวเอง
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ สาหร่ายรสชาติเหล่านี้ต่างถูกใจใครหลายคนเมื่อได้ชิม

ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดของ “มาชิตะ” ก็คือการจับมือกับ “ฮะจิบัง ราเมน”
ร้านราเมนสัญชาติญี่ปุ่นชื่อดัง มาช่วยร่วมกันพัฒนาสูตรสาหร่ายอบ “รสราเมนเย็น”

ส่วนที่มาของรสชาตินี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เพราะรู้หรือไม่ว่า มาชิตะ “รสราเมนเย็น” เป็นการนำเอาเมนูระดับ Signature ยอดนิยมของร้าน
“ฮะจิบัง ราเมน” ที่ชื่อว่า “ซารุ ราเมน” มาคิดค้นเป็นรสชาติใหม่

และด้วยกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัยทำให้เมื่อปรุงเข้ากับแผ่นสาหร่ายอบกรอบ
จะทำให้ได้สาหร่ายที่มีกลิ่นหอมของน้ำมันงาพร้อมกับความกรอบอร่อย โดยปราศจากผงชูรส

ที่น่าสนใจก็คือ เวลาทานเราจะรู้สึกว่าสาหร่ายมีความเย็นเหมือนกับได้ซดน้ำซุป “ซารุ ราเมน”
และหากอยากอร่อยขึ้นกว่าเดิม ก็สามารถนำสาหร่ายไปจุ่มน้ำซุปเย็น ๆ ในเมนูนี้
ที่ขายในร้าน “ฮะจิบัง ราเมน” ก็จะได้รสชาติความอร่อยแบบญี่ปุ่นขนานแท้ ๆ

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ไม่ว่าจะทานเล่นหรือจะทานคู่กับ “ซารุ ราเมน” ของทางฮะจิบัง
ก็อร่อยทั้งสองแบบ

โดยสาหร่ายมาชิตะอบสไตล์เกาหลี “รสราเมนเย็น”
มีขนาด 15 กรัม ราคา 39 บาท หาซื้อได้ที่ 7-Eleven ทุกสาขา รวมถึงตามร้านฮะจิบัง ราเมน ทุกสาขา ในกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี ตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือนสิงหาคม 2564

ที่น่าสนใจก็คือ ที่ผ่านมากลยุทธ์การจับมือกับแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังหรือที่เรียกว่า Collaboration
ถือเป็นหนึ่งในไม้ตายการตลาดที่ทำให้แบรนด์สาหร่ายมาชิตะมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง

โดยปีที่ผ่านมา ตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายมีมูลค่า 2,101 ล้านบาท
แม้กลุ่มสาหร่ายประเภทอบกรอบติดลบ 19.2% จากผลกระทบการระบาดของโควิด 19
แต่เชื่อหรือไม่ว่า สาหร่ายมาชิตะอบกรอบมียอดขายเติบโต 6%
พร้อมกับมีส่วนแบ่งตลาดถึง 31.5% เป็นผู้นำตลาดประเภทสาหร่ายอบกรอบ

ความสำเร็จตรงนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจเลยทีเดียว
เมื่อ มาชิตะ มองว่า ณ วันนี้หากต้องการให้สาหร่ายของตัวเองแตกต่างจากคู่แข่ง
การคิดค้นรสชาติใหม่ ๆ การมีพัมธมิตรทางธุรกิจมาช่วยคิดค้นสร้างให้สินค้ามีความโดดเด่น
มีสีสันการตลาด และที่สำคัญคือต้องมีรสชาติอร่อยถูกใจผู้บริโภค

และเมื่อทำสำเร็จก็จะทำให้แบรนด์สาหร่ายมาชิตะ กลายเป็นสาหร่ายในดวงใจของใครหลาย ๆ คน

Reference : ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด