LEO รุก Music Marketing ต่อเนื่อง จัดเฟสติวัลออนไลน์ สร้างสถิติยอดเข้าชมรวมกว่า 1 ล้านครั้ง

ลีโอส่ง LEO Presents Landmark Festival ประเดิม Virtual Event ครั้งแรกของปี 2564 ยกระดับคอนเสิร์ตเป็นเฟสติวัลออนไลน์จากหลายเวทีทั่วกรุงเทพฯ และให้ศิลปินสร้างโชว์ใหม่ร่วมกัน สลับกันแจมเพลงฮิตของแต่ละวงตอกย้ำการรวมกันมันส์กว่า รักษาสถิติคอนเสิร์ตออนไลน์ของลีโอ ด้วยยอดคนดูรวมกว่าหนึ่งล้านครั้งในเฟซบุ๊ก พร้อมเตรียมรุก Music Marketing เดินหน้าสร้างคอนเทนต์และอีเวนต์สนุกๆ ตลอดปีนี้

ตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิดในช่วงต้นปี 2563 แบรนด์สินค้าต่างก็ต้องทยอยปรับตัวมาทำการตลาดบนสื่อออนไลน์กันมากขึ้น เกิดอีเวนต์เสมือนจริง (Virtual Event) ขึ้นจำนวนมากเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมให้กับผู้บริโภคในวันที่เริ่มโหยหาการออกไปงานเหล่านี้ ช่วงปลายปีที่เพิ่งจะเริ่มกลับมาจัดอีเว้นท์ได้ ก็เกิดวิกฤตโควิดระลอกสอง ทำให้แบรนด์ต่างๆต้องรับโจทย์ที่หนักขึ้นกว่าเดิมว่าจะทำอย่างไรให้ยังสามารถอยู่รอดได้ในสถานการณ์นี้

ลีโอเป็นแบรนด์หนึ่งที่ปรับตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงวิกฤตครั้งแรก โดยมีการจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริง (Virtual Concert) ขึ้นหลายครั้ง ทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ด้านดนตรีผ่านออนไลน์เหมือนได้อยู่ในงานคอนเสิร์ตจริงๆ ตั้งแต่เริ่มล็อคดาวน์ในปีที่แล้วที่ให้ศิลปินไลฟ์เล่นดนตรีจากที่บ้าน ในโปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า LEO Live Muzik ต่อด้วย LEO Fest From Home ไลฟ์คอนเสิร์ตและรายการไลฟ์สไตล์ยาว 12 ชั่วโมงที่ดูจบแล้วลบเลย ต่อยอดไปถึง LEO Music Traveller ที่พาคนออกไปสัมผัสประสบการณ์คอนเสิร์ตนอกบ้านในวันที่เมืองไทยเริ่มคลายล็อคดาวน์ ด้วยความที่แบรนด์ได้งัดไม้เด็ดออกมาจำนวนมากตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ปีนี้จึงต้องคิดหนักกว่าเดิมเพราะต้องทำให้คนไม่รู้สึกซ้ำซากจำเจ และปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในตอนนี้ที่เริ่มปรับตัวเข้ากับภาวะที่ต้องทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) มากขึ้นแบบนี้ได้แล้ว

ครั้งนี้ทางลีโอก็เลยยกระดับคอนเสิร์ตธรรมดาให้กลายเป็นเฟสติวัลเสมือนจริง (Virtual Festival) ด้วยการจัดไลฟ์คอนเสิร์ตยาว 5 ชั่วโมง จาก 4 ศิลปินดังอย่างวง Clash, Klear, Three Man Down และ Indigo บน 4 เวทีที่ตั้งอยู่ในแลนด์มาร์กที่สวยงามทั่วกรุงเทพฯ กับโปรเจ็กต์ LEO Presents Landmark Festival โดยที่ทั้ง 4 เวทีนี้ตั้งอยู่ในสถานที่ที่หลายคนคาดไม่ถึง คือ อู่ต่อเรือกรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ท่าเรือศุภนาวา และสยามอะเมซิ่งพาร์ค โดยทางลีโอก็ได้เสริมโปรดักชันแสง สี เสียงไม่ให้ยิ่งหย่อนไปกว่าการชมคอนเสิร์ตจริงๆ ทำให้ผู้ชมจำนวนมากส่งคอมเมนต์มาชื่นชมสถานที่ด้วย

ในเฟสติวัลครั้งนี้ทางลีโอก็ยังคงตอกย้ำการ “รวมกันมันส์กว่า” ด้วยการนำทั้ง 4 ศิลปินที่มีแนวเพลงที่แตกต่างกัน มาสร้างโชว์พิเศษด้วยการแจมบนเวทีเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นเพลง ‘ยิ้มเข้าไว้’ เพลงฮิตของวง Clash ที่ได้ Three Man Down, Klear และ Indigo มาสร้างสีสัน ทำให้ผู้ชมที่กำลังดูอยู่คอมเมนต์ชื่นชมกับเข้ามาแบบไม่หยุด และงานนี้ก็เป็นกระแสบนทวิตเตอร์ ติดเทรนด์อันดับที่ 12 อีกด้วย

นอกจากนี้ทางลีโอก็ยังคงคำนึงถึงการสร้างความมีส่วนร่วมและสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ชมที่เข้ามาชมในไลฟ์ไม่น้อยไปกว่าทุกๆครั้ง ทั้งให้คนส่งอีโมจิเข้าไปในไลฟ์แล้วแสดงผลบนพื้นหลังของเวที เช่น เมื่อคนพิมพ์รูปดาวเข้าไปจำนวนมาก ก็ขึ้นดาวบนท้องฟ้าในขณะที่วง Klear เล่นเพลงรักไม่ต้องการเวลา และการกดแชร์ให้ถึงจำนวนที่กำหนดเพื่อรับเซอร์ไพรซ์พิเศษจากศิลปิน

การทำเช่นนี้ ทำให้ผู้ชมนั้นสามารถโต้ตอบกับศิลปินได้มากขึ้น เหมือนได้เข้าไปร่วมดูการแสดงสดจริงๆ ซึ่งเป็นไอเดียที่มีผลตอบรับที่ค่อนข้างดีทั้งในมุมของแบรนด์ที่กระตุ้นให้เกิดยอด Engagement ในคอนเทนต์นี้ และในมุมของผู้ชมที่ได้รับเซอร์ไพรส์จากศิลปิน ส่งผลให้ยอดเข้าชมทั้ง Facebook และ Youtube ตอนนี้สูงกว่า 1 ล้านครั้งแล้ว

ต้องบอกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา ถือเป็นความท้าทายไม่น้อยสำหรับแบรนด์ต่างๆ โดยเฉพาะแบรนด์ที่เน้นการทำคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์และการปรับตัวได้เร็วตามสถานการณ์ก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ทำการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง อย่างลีโอที่ได้ปรับตัวอยู่เรื่อยๆ และพัฒนาการสร้างประสบการณ์ให้คนได้มาสนุกไปกับแบรนด์แม้ถูกกรอบด้วยข้อจำกัดจำนวนมากของสถานการณ์ในวันนี้

นอกจากเฟสติวัลครั้งนี้ ลีโอก็ยังคงเดินหน้ารุก Music Marketing อย่างต่อเนื่อง เตรียมสร้างคอนเทนต์ที่สดใหม่ และอีเวนต์สนุกๆตลอดทั้งปีนี้ ให้ติดตามรับชมและคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของแบรนด์ได้ที่
Facebook : LEO Thailand
Instagram : leoth.official
Youtube : LEO Thailand

สำหรับใครที่ต้องการดู LEO Presents Landmark Festival ย้อนหลัง สามารถรับชมได้ที่ : https://www.facebook.com/LEOTH/videos/261162772039673