เอพี ไทยแลนด์ กับ 3 ทศวรรษเติบโต ชู 3 กลยุทธ์ด้านการบริหาร ที่เหมาะกับโลกยุคใหม่
24 ก.พ. 2021
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า
วันนี้ เอพี ไทยแลนด์ ก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 30 โดยมี EMPOWER LIVING เป็นเจตจำนงสำคัญในการดำรงอยู่ของเอพี จากอดีต ปัจจุบัน และก้าวต่อๆ ไปในอนาคต
วันนี้ เอพี ไทยแลนด์ ก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 30 โดยมี EMPOWER LIVING เป็นเจตจำนงสำคัญในการดำรงอยู่ของเอพี จากอดีต ปัจจุบัน และก้าวต่อๆ ไปในอนาคต
ภายใต้บทบาทหน้าที่สำคัญยิ่งในการเป็น ผู้สร้างและจัดหาสินค้าหรือบริการที่เกื้อหนุนให้ลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับเอพี สามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตที่ดี ในแบบที่ต้องการด้วยตนเอง
และวันนี้ วิสัยทัศน์ EMPOWER LIVING ได้กลายมาเป็นพื้นฐานสู่ความแข็งแกร่งของบริษัทฯ
โดยปี 2563 ที่ผ่านมา นับเป็นปีแห่งบทพิสูจน์ความเป็นตัวจริงในอุตสาหกรรมอสังหาฯ โดยเอพี มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดสูงสุดเกินจากคาดการณ์
โดยปี 2563 ที่ผ่านมา นับเป็นปีแห่งบทพิสูจน์ความเป็นตัวจริงในอุตสาหกรรมอสังหาฯ โดยเอพี มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดสูงสุดเกินจากคาดการณ์
ทั้งในมิติรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 46,130 ล้านบาท เติบโตกว่า 42% จากปีก่อนหน้า
มีกำไรสุทธิ ณ สิ้นปี 2563 อยู่ที่ 4,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 38%
มีกำไรสุทธิ ณ สิ้นปี 2563 อยู่ที่ 4,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 38%
ด้านสัดส่วนหนี้สินต่อทุน อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.71 เท่า ซึ่งทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงความสามารถใน
การบริหารจัดการภายในองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้า และการบริหารกระแสเงินสดที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้น
การบริหารจัดการภายในองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้า และการบริหารกระแสเงินสดที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้น
“วิกฤติโควิด 19 เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของวิกฤติที่เกิดขึ้นและยังคงวนเวียนอยู่
ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเมื่อไรจะสิ้นสุด หรือจะมีวิกฤติใหม่เกิดขึ้นอีกเมื่อใด และความเสียหายจะรุนแรงแค่ไหน
ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเมื่อไรจะสิ้นสุด หรือจะมีวิกฤติใหม่เกิดขึ้นอีกเมื่อใด และความเสียหายจะรุนแรงแค่ไหน
โจทย์การดำเนินธุรกิจจึงท้าทายยิ่งขึ้น และนำไปสู่รูปแบบใหม่ๆ ในการแข่งขัน
โมเดลการทำธุรกิจแบบเดิม จึงไม่ใช่คำตอบของการอยู่รอดในอนาคต
โมเดลการทำธุรกิจแบบเดิม จึงไม่ใช่คำตอบของการอยู่รอดในอนาคต
ซึ่งก้าวต่อไปจากนี้ เอพี จะไม่หยุดที่จะสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน เพื่อตั้งรับกับกฎกติกาโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์สำคัญที่จะเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นเบอร์ 1 ในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาฯ ไทย”
1)สร้างผู้นำอิสระ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันที่มากกว่า (CREATE INDEPENDENT RESPONSIBLE LEADERS)
องค์กรจึงจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นสูงยิ่งในสภาวะที่ไม่ปกติ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากขึ้น บริษัทฯ จึงให้เดินหน้าสร้างบทบาทของผู้นำในโลกยุคใหม่ ให้เป็น “ผู้นำที่มีความเป็นอิสระในการตัดสินใจ” ภายใต้กรอบความรับผิดชอบต่อตนเอง ลูกค้า คู่ค้า และเพื่อนร่วมงานดำเนินงาน
โดยมุ่งเน้นไปที่ "ความต้องการของลูกค้า" มากกว่า "ข้อกำหนดของบริษัท" หรือ "ข้อจำกัดขององค์กร" ซึ่งเชื่อว่า การที่บริษัทฯ ให้อำนาจในการตัดสินใจอย่างอิสระแก่คนทำงานผู้ที่อยู่ใกล้ชิดลูกค้าโดยตรงแล้วนั้น
จะทำให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในโลกที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพกว่าอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่คนเพียงไม่กี่คนในองค์กร
2)การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม (INNOVATIVE CULTURE)
การที่พนักงานเอพี ทุกคนจะสามารถสร้างและจัดหาสินค้าหรือบริการที่เกื้อหนุนให้ผู้คนในสังคม สามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการด้วยตนเองนั้น สมาชิกทุกคนในองค์กรไม่ว่าจะทำหน้าที่ในบทบาทใด หรือรับผิดชอบเรื่องใด พวกเขาจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนวัตกรรมให้เกิดขึ้น
บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม ผ่านการปลูกฝังให้พนักงานทุกคนมีระบบคิดตามหลัก DESIGN THINKING ที่ให้ความสำคัญกับการค้นหา Unmet Need ของลูกค้า ให้เกิดขึ้นกับพนักงานเอพีทุกคน
เพื่อให้ทุกภาคส่วนงานใช้เป็นหลักคิดพื้นฐาน ผสานเข้ากับจุดแข็งของตนเองในการร่วมมือเพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น
วันนี้การสร้างนวัตกรรมจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การ “ฝันถึงสิ่งใหม่ ที่ยิ่งใหญ่” เท่านั้น แต่นวัตกรรมที่มีค่าที่สุด คือสิ่งที่สามารถตอบ Unmet Need หรือความต้องการที่ซ่อนอยู่ของลูกค้าได้เป็นสำคัญ ถึงจะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
3)พลิกเกมส์ธุรกิจเดินหน้าเต็มลูป ทรานฟอร์มทุกมิติด้วยดิจิทัล (EVERYTHING DIGITAL)
อีกหนึ่งยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนองค์กรคือ การนำทุกมิติของการดำเนินงานเข้าสู่ระบบดิจิทัลแบบองค์รวม (Holistic Digital Management)
ทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับลูกค้า พาร์ตเนอร์ที่ทำงานร่วมกับเอพี หรือ พนักงาน เพื่อเป็นรากฐานสนับสนุน 2 ยุทธศาสตร์ข้างต้น
ทั้งนี้ การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองลูกค้า ตลอดจนการสร้างนวัตกรรมจำเป็นต้องมีข้อมูลที่รวดเร็ว และถูกต้อง เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ค้นหา Unmet Need ของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
เพื่อส่งมอบ “ประสบการณ์การใช้ชีวิต” ผ่านสินค้าและบริการที่มีความสะดวกและรวดเร็วให้กับลูกค้าเป็นสำคัญ
เพื่อส่งมอบ “ประสบการณ์การใช้ชีวิต” ผ่านสินค้าและบริการที่มีความสะดวกและรวดเร็วให้กับลูกค้าเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ 3 ยุทธศาสตร์ข้างต้น จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความพร้อมให้กับองค์กร โดยเฉพาะธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ที่จะมีการขยายตัวเชิงรุกอย่างมาก
“การมาของวัคซีนคือ ความหวัง แต่หนทางระหว่างเดินไปถึงแสงแห่งความหวังนั้น ยังอีกยาวไกล
สิ่งที่เราทุกคนต้องระวังมากที่สุดตอนนี้คือ “Ripple Effect” หรือปรากฏการณ์ระลอกคลื่น ที่ศูนย์กลางก็คือความเสียหายทางเศรษฐกิจจากโควิด 19 ที่ส่งผลต่อเวลาในการฟื้นตัวที่ต้องลากยาวออกไปอีกหลายปี
สิ่งที่เราทุกคนต้องระวังมากที่สุดตอนนี้คือ “Ripple Effect” หรือปรากฏการณ์ระลอกคลื่น ที่ศูนย์กลางก็คือความเสียหายทางเศรษฐกิจจากโควิด 19 ที่ส่งผลต่อเวลาในการฟื้นตัวที่ต้องลากยาวออกไปอีกหลายปี
การคาดการณ์เวลาในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ถือเป็นเพียงการฟื้นคืนกลับในเชิงตัวเลขเท่านั้น
แต่ความน่ากลัวที่แฝงอยู่คือ วิธีการทุกอย่างที่เราเคยทำและเรียนรู้มาจะเปลี่ยนไป และจะยังคงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
แต่ความน่ากลัวที่แฝงอยู่คือ วิธีการทุกอย่างที่เราเคยทำและเรียนรู้มาจะเปลี่ยนไป และจะยังคงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ซึ่งนั่นแปลว่าจากวันนี้ไปอีกหลายปี เรายังคงต้องเผชิญอยู่กับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากวิกฤติเปลี่ยนโลกรอบนี้
ซึ่งหากพนักงานเครือเอพี กว่า 2,000 คน สามารถดำเนินงานภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์นี้ได้อย่างเข้าใจ เอพี ก็จะสามารถสร้างและจัดหาสินค้าหรือบริการที่เกื้อหนุนให้ลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ในแบบที่ต้องการด้วยตนเอง ตามเจตจำนง EMPOWER LIVING ที่ได้กำหนดไว้” นายอนุพงษ์ กล่าวเสริม