นมถั่วเหลือง “ฟองฟอง” กับตำนานฟองเต้าหู้ 83 ปี

ถ้าพูดถึงนมถั่วเหลือง หลายคนอาจจะนึกถึง ไวตามิ้ลค์ แลคตาซอย
หรือแบรนด์น้องใหม่อย่างโทฟุซัง

แต่รู้หรือไม่ ว่ามีนมถั่วเหลืองอีกหนึ่งแบรนด์ ที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ 83 ปีที่แล้ว
นั่นคือแบรนด์ที่มีชื่อว่า “ฟองฟอง”

เรื่องนี้ มีจุดเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2480
สองสามีภรรยาชาวจีนคู่หนึ่ง เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากประเทศจีน
เพื่อหนีความยากจนมาลงหลักปักฐานที่ประเทศไทย
สองสามีภรรยาคู่นี้ คือ คุณคี๋ฮง แซ่โง้ว และ คุณง้อ แซ่ซิ้ม

ในสมัยนั้น พื้นที่ในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นไร่นา
ทั้งคู่จึงได้จับจองเพิงเล็กๆ กลางทุ่งนาในย่านสำเหร่ เพื่อเป็นที่พักอาศัย
และเนื่องด้วยสมัยที่อยู่ประเทศจีน ทั้งคู่เคยศึกษาวิธีผลิตฟองเต้าหู้
จึงนำเอาความรู้ที่เคยศึกษามาทำฟองเต้าหู้ขายในไทย

ทุกๆ วัน ทั้งสองคนจะนำฟองเต้าหู้ที่ผลิตได้ไปขาย
โดยพายเรือจากย่านสำเหร่ไปแถวราชวงศ์ แล้วเร่ขายไปจนถึงเยาวราช

ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นคนอัธยาศัยดี พูดคุยเก่ง เสียงดังฟังชัด
ไม่นานฟองเต้าหู้ของทั้งสองคนก็เป็นที่รู้จัก และมีลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ

พอเริ่มขายดี มีลูกค้าติดใจมากขึ้น
คุณคี๋ฮง และ คุณง้อ ก็ได้ก่อตั้งบริษัทผลิตฟองเต้าหู้อย่างเป็นทางการ โดยมีชื่อว่า “โง้ว เจง ง้วน”

เวลาผ่านไปประมาณ 40 ปี ธุรกิจนี้ก็ถูกส่งต่อให้รุ่นถัดมา
ในปี พ.ศ. 2541 คุณธงชัย และคุณมลศิริ เบ็ญจพรเลิศ
ทายาทรุ่นที่สองของของคุณคี๋ฮงและคุณง้อ ก็เข้ามาดูแลกิจการต่อ
และช่วงนี้เองที่ โง้ว เจง ง้วน เริ่มผลิตน้ำเต้าหู้ขาย

คุณธงชัย และคุณมลศิริ ต่อยอดธุรกิจของอากงและอาม่า
ด้วยการเพิ่มสินค้าให้หลากหลายกว่าเดิม เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค
และสร้างแฟรนไชส์ที่ชื่อว่า “ฮองเฮา”

ฮองเฮา เป็นแฟรนไชส์น้ำเต้าหู้ผสมฟองเต้าหู้
ที่สามารถเลือกใส่เครื่องเพิ่มเติม เช่น ถั่วแดง ถั่วเขียว ลูกเดือย
ซึ่งก็มีคนสนใจมาขอซื้อแฟรนไชส์จำนวนมาก

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ลูกค้าแทบทุกรายต้องการสินค้าในตอนเช้ามืดพร้อมๆ กัน
ทำให้การบริหารการผลิตและการจัดส่งทำได้ไม่ทันเวลา
บวกกับที่ในช่วงนั้นคุณมลศิริเริ่มมีปัญหาสุขภาพ
แฟรนไชส์น้ำเต้าหู้ฮองเฮา จึงต้องล้มเลิกไปหลังจากเริ่มต้นได้เพียงไม่นาน

ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 คุณมลศิริก็กลับมาปั้นแบรนด์ใหม่อีกครั้ง
โดยครั้งนี้ ตั้งชื่อแบรนด์ว่า “เบญจพร”

น้ำเต้าหู้ เบญจพร เป็นน้ำเต้าหู้ผสมฟองเต้าหู้เกรด A
ที่เริ่มนำน้ำเต้าหู้ที่ผลิตสดๆ มาบรรจุขวดพลาสติก
เพื่อให้ง่ายต่อการบริโภคและจัดจำหน่าย

แต่น้ำเต้าหู้ เบญจพร ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย
เพราะชื่อแบรนด์ และบรรจุภัณฑ์ไม่สามารถสร้างการรับรู้และจดจำให้กับผู้บริโภคได้เท่าที่ควร

ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 คุณศิริชัย เบ็ญจพรเลิศ
ทายาทรุ่นที่ 3 ก็เข้ามาดูแลบริษัท โง้ว เจง ง้วน ต่อจากคุณธงชัย และคุณมลศิริ
และช่วงนี้เองที่ “ฟองฟอง” ได้กำเนิดขึ้น..

คุณศิริชัย ได้ทำการรีแบรนด์จาก เบญจพร เป็น ฟองฟอง
โดย ฟองฟอง เป็นนมถั่วเหลืองผสมฟองเต้าหู้บรรจุขวด
ที่ถูกนำมาออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น

โดยการทำการตลาดในช่วงแรก เป็นแบบ Direct to Customer
คือคุณศิริชัย เริ่มจากการนำ ฟองฟอง ไปแจกตามย่านออฟฟิศของคนรู้จัก
จนเริ่มมีคนติดใจ และบอกต่อกันปากต่อปาก

พอแบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น
คุณศิริชัยก็เริ่มนำ ฟองฟอง ไปวางขายตามร้านค้าทั่วไป
แล้วค่อยๆ ส่งเข้าไปขายร้านค้าโมเดิร์นเทรด เช่น Tesco Lotus, The Mall, Tops

ทำให้จากเดิมที่เป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ รายได้ก็ค่อยๆ โตขึ้น
รายได้ของ บริษัท โง้ว เจง ง้วน จำกัด
ปี พ.ศ.2555 มีรายได้ 7.6 ล้านบาท
ปี พ.ศ.2558 มีรายได้ 17.7 ล้านบาท
ปี พ.ศ.2561 มีรายได้ 21.1 ล้านบาท

นอกจากจะขายน้ำนมถั่วเหลืองผสมฟองเต้าหู้แล้ว
ยังคงมีสินค้าอื่นๆ ที่ บริษัท โง้ว เจง ง้วน ขายมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เช่น ฟองเต้าหู้สด, ฟองเต้าหู้แห้ง, ฟองเต้าหู้ชุบเกล็ดขนมปัง

และล่าสุดช่วงเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา
นมถั่วเหลืองผสมฟองเต้าหู้ ตรา ฟองฟอง
ก็เริ่มเข้าไปวางจำหน่ายในร้าน 7-Eleven
ซึ่งก็คงทำให้ ฟองฟอง เป็นที่รู้จัก และมียอดขายเติบโตขึ้นได้อีก

อย่างไรก็ตาม ฟองฟอง ก็ต้องเจอความท้าทายจากคู่แข่งรายอื่นในตลาด
อย่างเช่น “โทฟุซัง” ที่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
และโทฟุซังยังผลิตน้ำนมถั่วเหลืองผสมฟองเต้าหู้วางจำหน่ายในตลาดอีกด้วย

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า
นมถั่วเหลือง ฟองฟอง ที่มีจุดเด่นคือ “ฟองเต้าหู้” ที่สืบทอดการผลิตจากบรรพบุรุษมานานถึง 83 ปี
จะเอาชนะความท้าทายในครั้งนี้อย่างไร และจะเติบโตได้ดีแค่ไหนต่อจากนี้..

References
-http://www.fongfong-tryme.com
-http://www.fongtaohu2480.com
-เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-Facebook Page : Fong Fong