ลอรีอัล กรุ๊ป เผยครึ่งปีแรกปี 2563 รายได้หดตัว แต่ อี-คอมเมิร์ซ โตแข็งแกร่ง

ลอรีอัล กรุ๊ป บริษัทความงามรายใหญ่ของโลกรายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก 2563

โดยมียอดขายรวมของครึ่งปีแรก ลดลง 11.7% จากครึ่งปีที่แล้ว แต่ยอดขายจากช่องทาง อี-คอมเมิร์ซ เติบโตสูงขึ้นถึง 64.6% จากช่วงครึ่งปีแรกปีที่แล้ว จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงช่วงเกิดการระบาดของไวรัส

อีกปัจจัยหนึ่งที่ยังช่วยพยุงยอดขายไว้ได้ คือ ความต้องการในประเทศจีน ที่เติบโตขึ้น 30% จากไตรมาสก่อนหน้า

และลอรีอัล กรุ๊ป มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 18% ในช่วงครึ่งปีแรก

สรุปยอดขายแยกตามแผนกสินค้าในครึ่งปีแรก

-แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ ลดลง 21.3%

-แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค ยอดขายลดลง 9.4%

-แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง ยอดขายลดลง 16.8% ซึ่งดีกว่าตลาดความงามชั้นสูงโดยรวม ที่ลดลงประมาณ 23%
ซึ่งสินค้ากลุ่มเมคอัพโดยเฉพาะแบรนด์เจ้าตลาดในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เช่น คีลส์ ลังโคม และ เฮเลน่า รูบินสไตน์ ยังเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤตนี้

สรุปยอดขายตามโซนในครึ่งปีแรก

-โซนเอเชียแปซิฟิก ยอดขายลดลงที่ -3.9% โดยส่วนใหญ่ ทุกประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดในช่วงไตรมาสที่สอง

-จีน ยอดขายเพิ่มขึ้น +17.5% โดยตลาดความงามจีนมีการเติบโตเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สอง ความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนสำหรับแบรนด์ดังที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือได้ยังคงมีสูงมาก

-พื้นที่อื่นๆ ในเอเชีย สถานการณ์มีความแตกต่างกันในหลากหลายประเทศ โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบน้อยจากการระบาดของโรค เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเวียดนาม สามารถกลับมาเติบโตได้ในเดือนมิถุนายน

-โซนละตินอเมริกา มียอดขายลดลง -13.9%
-โซนยุโรปตะวันออก: ยอดขายลดลง -12.1%
-แอฟริกาและ ตะวันออกกลาง: ยอดขายลดลง -17.4%