เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ THE NEXT NORMAL

เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ THE NEXT NORMAL

14 ส.ค. 2020
“องค์การสหประชาชาติ บอกว่าผลกระทบจากโควิด-19 เป็นวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2”
คุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) บอกถึงความรุนแรงของโควิด-19 ผ่านในงานสัมมนา NEXT IS NOW “พลิกวิกฤต ปรับกลยุทธ์ในยุคเศรษฐกิจใหม่” ในรูปแบบ Virtual Conference เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา
โดยงานนี้จะเป็นการรวมตัว CEO แถวหน้าของเมืองไทยมาแสดงวิสัยทัศน์ให้ความรู้เรื่องการลงทุน จนถึงการปรับตัวทำธุรกิจในยุคที่ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
โดยคุณผยง ศรีวณิช 
ได้สรุปถึงผลกระทบจาก โควิด-19 ต่อระบบเศรษฐกิจไทยและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตผ่านคอนเซ็ปต์เข้าใจง่ายๆ ที่เรียกว่า Five-Dimensions หรือ 5D
1. Downturn Economy 
โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจในทุกประเทศทั่วโลกกำลังถดถอยไปพร้อมๆ กัน โดย 60% ของ CEO จาก 3,000 บริษัทชั้นนำทั่วโลกมองว่าการระบาดของโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกอาจต้องใช้เวลา 3 ปีในการฟื้นตัว 
ซึ่งจะเป็นการกลับมาเติบโตแบบ U shape คือจะค่อยๆ ฟื้นตัวทีละนิด
2. DE - Globalization
แม้โลกข้างหน้าจะเต็มไปด้วยความท้าทาย 
แต่สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยเราดีกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก 
คือเราสามารถหยุดการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว 
เป็นภาพที่สะท้อนว่าระบบสาธารณสุขมีประสิทธิภาพสูง 
อีกทั้งเรายังมีวินัยทางการเงินการคลังที่ดี
ขณะเดียวกันองค์กรอย่าง World Economic Forum หรือ WEF 
ได้วิเคราะห์แนวโน้มอนาคตว่าจะเกิด “การจัดใหม่ของระบบทุนนิยม” 
ที่ภาครัฐบาลจะมีการใช้กลไกจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสม
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคมให้มากขึ้น
3. DECLUTTERED Government  
ข้อมูลจากศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS บอกว่า GDP ประเทศไทยปีนี้จะติดลบถึง 8.8% ซึ่งมีความรุนแรงเทียบเท่ากับวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540
เพียงแต่สิ่งที่มันดูรุนแรงมากกว่าก็คือในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง
ผลกระทบจะเป็นแค่ในบางธุรกิจเท่านั้น 
แต่สำหรับโควิด-19 การท่องเที่ยว, ส่งออก ร้านค้าต่างๆ ประสบปัญหารายได้น้อยลง
จนเจ้าของธุรกิจหลายรายทนพิษบาดแผลไม่ไหวต้องปิดกิจการไปในที่สุด
เรื่องนี้กลายเป็นความท้าทายของภาครัฐที่ต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และป้องกันไม่ให้ประเทศไทยกลับมามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำสอง
พร้อมกับต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจก้าวสู่ระบบดิจิทัลให้มากขึ้น
4. Wellness DISTANCING
หลังจากการหยุดระบาดของโควิด -19 สิ่งที่เห็นชัดที่สุดก็คือพฤติกรรมผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไป
ผลที่ตามมาก็คือ..เกือบทุกธุรกิจก็ต้องปรับตัวตามพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยน
เพื่อความอยู่รอดและให้ธุรกิจตัวเองประสบความสำเร็จ
ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดเจนสุดคือ 
หลายธุรกิจมีมาตรการป้องกันการระบาดโควิด-19 อย่างเข้มข้น
ทั้ง ศูนย์การค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ, สถานบันเทิง, ธุรกิจส่งอาหาร และอื่นๆ อีกมาก
ปรากฏการณ์นี้ อาจทำให้เราได้เห็นธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นบนโลก
โดยธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้น อาจจะใช้จุดขายด้านสุขภาพและสุขอนามัย
5. DIGITIZATION
ขณะเดียวกันโควิด-19 ก็จะเป็นตัวเร่งให้เทรนด์เทคโนโลยีแจ้งเกิดเร็วขึ้นยกตัวอย่างในเดือนเมษายน ที่ผ่านมาการทำธุรกรรม PromptPay ของคนไทยมีมากกว่า 10 ล้านครั้ง
เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังจะบอกกับเราว่า 
ประชากรไทยกำลังค่อยๆ กลมกลืนไปกับโลกดิจิทัลสมบูรณ์แบบ
ซึ่งเป็นเสมือนสารกระตุ้นที่จะทำให้เกิดการ DISRUPT ในหลายๆ ธุรกิจให้เร็วขึ้น
เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ ก็เลยทำให้โลกธุรกิจในอนาคต บริษัทไหนที่มีช่องทางดิจิทัลตรงใจผู้บริโภค จะเป็นผู้ถือไพ่ที่ได้เปรียบในการแข่งขันทันที
อย่างไรก็ตาม..โลกข้างหน้าที่จะเกิดขึ้น 
ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่าสูตรสำเร็จธุรกิจที่แท้จริงรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน
ก็เลยทำให้เจ้าของธุรกิจต้องคิดเสมอว่า
ธุรกิจตัวเองต้องยืดหยุ่น ปรับตัวได้ทันตามพฤติกรรมคนยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.