“ห้าดาว” ทุกวันนี้ขายอะไรบ้าง

“ไก่ย่างห้าดาว” เราคงได้ยินชื่อนี้กันมานานมากแล้ว
รู้ไหมว่าในวันนี้ แบรนด์ห้าดาว มีอายุ 35 ปีแล้ว

ความเป็นมาของแบรนด์นี้เป็นอย่างไร
ผ่านการเปลี่ยนแปลงอะไรมาบ้าง
แล้วทุกวันนี้ ห้าดาว กำลังทำอะไร..

ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2528
ถ้าเดินเข้าไปในซอยลาดพร้าว 80
สักแห่งหนึ่งในซอยนั้น จะได้เจอกับร้านไก่ย่างที่เพิ่งเปิดใหม่
ร้านนั้นชื่อว่า “ไก่ย่างห้าดาว”

และนั่นก็คือจุดเริ่มต้น..

ห้าดาว เริ่มต้นจากการขาย ไก่ย่างห้าดาว
คนที่ปั้นแบรนด์นี้ขึ้นมาก็คือ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF)
ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ C.P.

กลิ่นที่หอมอบอวลชวนซื้อไปรับประทาน
บวกกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และราคาที่ย่อมเยา
ทำให้หลายๆคนเริ่มติดอกติดใจไก่ย่างห้าดาว
ไม่นาน ไก่ย่างห้าดาวก็เปิดหลายสาขามากขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ในปี พ.ศ. 2530 คนไทยทั่วประเทศ
ก็ได้เห็นโฆษณาแรกของไก่ย่างห้าดาว
ซึ่งถ้าถามใครๆ ในตอนนั้น ก็คงมีน้อยคนมากที่จะไม่รู้จักไก่ย่างแบรนด์นี้
พอเป็นแบบนี้ ไก่ย่างห้าดาว ก็เริ่มขยายสาขามากขึ้นจนครอบคลุมทั่วประเทศ

ในตอนนั้น ไก่ย่างห้าดาวทุกสาขา
CPF เป็นทั้งผู้บริหารแบรนด์ และเป็นเจ้าของร้านเองทั้งหมด

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2543
ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 15 ปี ของไก่ย่างห้าดาว
CPF ตัดสินใจเปลี่ยนจากการเป็นผู้ขายเอง ไปสู่การเป็นธุรกิจแฟรนไชส์

หมายความว่า CPF จะเปลี่ยนมาทำหน้าที่แค่บริหารแบรนด์
และทำการตลาดให้กับไก่ย่างห้าดาวเพียงเท่านั้น
แล้วให้ใครก็ตาม ที่สนใจอยากจะขายไก่ย่างห้าดาวมาขอสิทธิ์ไปเปิดร้านขาย

โมเดลนี้ ทำให้จากเดิมที่ CPF มีรายได้โดยตรงจากการขายไก่ย่างห้าดาว
ก็เปลี่ยนมาเป็นได้รายได้จากการเก็บส่วนแบ่งยอดขายของผู้ได้สิทธิ์แฟรนไชส์แทน
ซึ่งกลยุทธ์นี้ เหมาะกับธุรกิจที่คาดว่าจะเติบโตต่อไปได้อีกมากในอนาคต

ปี พ.ศ. 2549 ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกครั้ง
เมื่อแบรนด์ห้าดาวตัดสินใจที่จะเริ่มพัฒนาธุรกิจใหม่ขึ้นมา
นั่นคือ “ไก่ทอดห้าดาว”

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ทาง CPF ได้สำรวจความคิดเห็นของกลุ่มลูกค้า
และพบว่า “ไก่ทอด” เป็นเมนูที่ลูกค้าอยากให้แบรนด์ห้าดาวได้ทำออกมาจำหน่าย

หลังจากพัฒนาสูตรอยู่ได้ 2 ปี
ในปี พ.ศ. 2551 ไก่ทอดห้าดาว เริ่มจำหน่ายไปทั่วประเทศ

แม้ว่าธุรกิจห้าดาวในประเทศไทยกำลังเติบโตต่อไปได้ดี
แต่ CPF ก็ยังคงไม่หยุดมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ

ทำให้ในช่วงปี พ.ศ. 2555 แบรนด์ห้าดาวเริ่มบุกตลาดต่างประเทศ
เช่น เวียดนาม, ลาว, กัมพูชา และอินเดีย
โดยมีทั้งสาขาที่บริการเอง และเป็นสาขาแฟรนไชส์

ในปัจจุบัน ห้าดาว ได้ปรับชื่อและโลโก้แบรนด์เป็น “FIVE STAR”
เพื่อให้ดูทันสมัย และเป็นสากลมากขึ้น

โดยทุกวันนี้ ห้าดาว หรือ FIVE STAR
มีร้านหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งเป็นบูท ฟู้ดคอร์ตในห้าง หรือตามอาคารต่างๆ

และมีรายการอาหารใหม่ๆ ให้เลือกหลากหลายขึ้น
เช่น นักเก็ตไก่, ไก่ทอดน้ำปลา, ข้าวมันไก่ห้าดาว, เกี๊ยวซ่า เป็นต้น

ที่น่าสนใจก็คือ ห้าดาว ยังขยายธุรกิจไปเปิดร้านกาแฟ
ชื่อร้านว่า “FIVE STAR COFFEE” อีกด้วย

ปัจจุบันรายได้ของ ห้าดาว ถูกนับรวมอยู่กับธุรกิจที่เกี่ยวกับร้านอาหารอื่นของ CPF เช่น ร้านเชสเตอร์กริล
ภายใต้บริษัทชื่อ ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด

ผลประกอบการของ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด ในปี พ.ศ. 2562
รายได้ 4,058 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 196 ล้านบาท

จากจุดเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2528 จนถึงวันนี้
ห้าดาว หรือ FIVE STAR มีสาขาทั่วไทยมากกว่า 6,000 สาขา
ต่างประเทศอีกมากกว่า 1,600 สาขา
และอยู่กับคนไทยมาถึง 35 ปีแล้ว

สิ่งที่เห็นจากเรื่องนี้ก็คือ
แบรนด์ห้าดาว มีการปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง
และพยายามมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นการจะปั้นแบรนด์ให้ครองใจผู้บริโภคอย่างยาวนานได้
นอกจากจะต้องมีสินค้าที่ดีมีคุณภาพแล้ว
การปรับตัวและมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ
ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่แพ้เรื่องอื่นเลย..

อ้างอิง :
https://fivestar.in.th
http://www.thaifranchisecenter.com/info/show.php?etID=1413
รายงานประจำปี 2019 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า