ไอศกรีมวอลล์ เกิดจากร้านขายเนื้อ

“ตือ ตื๊อ ตื่อ… ตือ ตื๊อ ตื่อ…” เสียงที่มาพร้อมกับคนสวมชุดแดง และรถสีแดงคู่ใจ

“วอลล์” เป็นไอศกรีมที่หลายคนกินมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เราเคยสงสัยกันไหมว่าแบรนด์นี้มีที่มาอย่างไร?

รู้หรือไม่ ไอศกรีมวอลล์ที่เรานิยมกินกัน มีประวัติเกือบร้อยปีมาแล้ว
และตำนานไอศกรีมแบรนด์นี้เริ่มต้นมาจากร้านขายเนื้อ

ที่ลอนดอนมีร้านขายเนื้อ และไส้กรอก “T. Wall & Sons” ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1786 
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 1913 ซึ่งร้านถูกบริหารงานโดย Thomas Wall II หลานชายของผู้ก่อตั้ง

โดย Thomas ได้ตระหนักว่า ทุกๆ ปีในช่วงฤดูร้อน ยอดขายเนื้อ และไส้กรอกมักไม่ค่อยดี ทำให้เขาต้องเลิกจ้างพนักงานช่วงนั้นบ่อยๆ

เขาจึงคิดว่า ต้องหาสินค้าอื่นๆ มาวางขายในร้าน ในช่วงฤดูร้อน เพื่อหลีกเลี่ยงการเลิกจ้างพนักงาน
ซึ่งพอคิดไป คิดมา เลยได้คำตอบว่าไอศกรีม เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น เป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1.. 
ทำให้เขาต้องจำใจ เก็บไอเดียนี้ไว้ในลิ้นชักก่อน

จนกระทั่งปี ค.ศ. 1920 ก็ถึงเวลา ที่เขาได้เปิดลิ้นชักนั้น
เริ่มแรก เขาได้เริ่มทดลองทำไอศกรีมแบบอเมริกันขายภายในร้าน

ปรากฏว่าได้ผลตอบรับที่ดี ด้วยความอร่อยของไอศกรีม 
ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับชาวเมืองลอนดอนอย่างมาก

จนถึงขั้นในยุคนั้น หลายคนที่นั่งรถม้าผ่านหน้าร้านของเขา 
ต้องบอกหยุดรถม้า และลงจากเกวียน เพื่อไปซื้อไอศกรีมโดยเฉพาะ

Thomas มีความเชื่อว่า ไอศกรีมนั่นคือเวทย์มนตร์ ที่นำเรามารวมกัน และละลายสิ่งกีดขวางระหว่างกัน 
ไอศกรีมนำความสุข พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้ามาแก่ผู้คน

แต่ด้วยอายุที่มากแล้ว เขาเลยตัดสินใจเกษียณ และขายกิจการในปี ค.ศ. 1922 ให้บริษัท Lever Brothers
ซึ่งต่อมาภายหลังได้ควบรวมกับบริษัท Margarine Unie ในปี ค.ศ. 1929 กลายเป็นบริษัท Unilever

สรุปแล้วแบรนด์ไอศกรีมวอลล์จึงตกเป็นของ Unilever ตั้งแต่นั้นมา

การถูกซื้อกิจการครั้งนั้นทำให้เกิดการสร้างโรงงานผลิตไอศกรีมขนาดใหญ่ขึ้น
ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้ธุรกิจขยายตัว และยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง

จากกรุงลอนดอน สู่ต่างประเทศ 
ซึ่งปัจจุบันไอศกรีมวอลล์มีขายกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
สร้างรายได้ให้แก่บริษัทกว่า 172,000 ล้านบาทต่อปี

วอลล์เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 หรือกว่า 30 ปีแล้ว
ทำให้เราต่างคุ้นเคยกับแบรนด์นี้ดี และวอลล์ก็เป็นเจ้าตลาดในธุรกิจนี้มาโดยตลอด

ตลาดไอศกรีมมีมูลค่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งวอลล์ครองส่วนแบ่งไปแล้วถึง 60%

ผลิตภัณฑ์ของวอลล์มีหลากหลาย ตั้งแต่ วอลล์คัพ แม็กนั่ม คอร์นเนตโต เอเชียนดีไลท์ วอลล์เทคโฮม
และไอศกรีมแบบตัก ที่มักพบในร้านอาหารบุฟเฟต์

จุดเด่นของวอลล์คือ รสชาติอร่อย ในราคาที่ไม่แพง 
และการมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกต่างๆ เช่น ร้านโชห่วย เซเว่นฯ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการขายผ่านรถสามล้อไอศกรีมวอลล์ ทำให้สินค้าสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ลึกขึ้น เช่น โรงเรียน หรือสถานที่ชนบท

สรุปคือ ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ก็แทบเห็นไอศกรีมวอลล์เกือบทุกที่..

อย่างไรก็ตาม ตลาดไอศกรีมเองก็มีการแข่งขันที่ดุเดือด เนื่องจากมีคู่แข่งหลายแบรนด์
ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็พยายามออกสินค้าใหม่ๆ มาจูงใจผู้บริโภคตลอดเวลา

ในอนาคตวอลล์จะยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ หรือจะมีแบรนด์อื่นเข้ามาแทนที่ 
เราก็คงไม่อาจทำนายได้

แต่ที่ชัดเจนในตอนนี้คือ ไอศกรีมวอลล์ น่าจะยังไม่ละลายไปจากใจเราในเร็วๆ นี้..

รู้หรือไม่ ไอศกรีมวอลล์ของแต่ละประเทศจะมีชื่อไม่เหมือนกัน เช่น ไอร์แลนด์ชื่อ HB,
ฟิลิปปินส์ชื่อ Selecta, สหรัฐฯ ชื่อ Good Humor, สวีเดนชื่อ GB Glace

แต่สิ่งที่ทุกประเทศมีเหมือนกันคือ “โลโก้รูปหัวใจ”

References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Wall%27s_(ice_cream)
-https://ifood.tv/ice-cream/walls-ice-cream/about
-https://www.slideshare.net/mariammalik22/walls-77925520
-http://letslookagain.com/tag/history-of-walls-ice-cream/
-https://www.wallsicecream.com/…/about-wa…/walls-history.html
-http://www.icecreampark.com/Walls-ice-cream.html