แบงก์ชาติ เล็งสั่งลด ดอกเบี้ยบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล-เช่าซื้อ สูงสุด 6%
18 มิ.ย. 2020
สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 15-17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ได้เรียกสถาบันการเงินทุกแห่ง ประชุมหารือเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เฟส 2 จากผลกระทบของโควิด-19
ได้เรียกสถาบันการเงินทุกแห่ง ประชุมหารือเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เฟส 2 จากผลกระทบของโควิด-19
เนื่องจากมีความกังวลว่า ลูกหนี้จำนวนมากอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้
และกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะหนี้ ในส่วนของหนี้ครัวเรือน ทั้งหนี้บัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
และกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะหนี้ ในส่วนของหนี้ครัวเรือน ทั้งหนี้บัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ มาตรการปรับลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อจะอยู่ที่ราว 2-6% ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
สินเชื่อบัตรเครดิต จะลดอัตราดอกเบี้ยลงจาก 18% ต่อปี เหลือ 16% ต่อปี
และหากมีการแปลงหนี้บัตรเครดิตไปเป็นเทอมโลน จะลดดอกเบี้ยให้เหลือ 12% ต่อปีบัตรกดเงินสด จะลดดอกเบี้ยจาก 28% ต่อปี เหลือ 26% ต่อปี
กรณีสินเชื่อส่วนบุคคล จะลดดอกเบี้ยจาก 28% ต่อปี เหลือ 25% ต่อปี
กรณีสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จะลดดอกเบี้ยจาก 28% ต่อปี เหลือ 24% ต่อปี และหากเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และนอนแบงก์ จะลดดอกเบี้ยจาก 28% ต่อปี เหลือ 22% ต่อปีสินเชื่อเช่าซื้อ จะมีการลดดอกเบี้ยลง 1% จากดอกเบี้ยตามสัญญาเช่าเดิม
ซึ่งเมื่อคิดเป็นแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ดอกเบี้ยจะลดไปประมาณ 2% ต่อปี สินเชื่อบ้าน จะให้พักชำระเงินต้นได้ 3 เดือน และสามารถปรับโครงสร้างหนี้
เพื่อลดค่างวด และขยายเวลาการชำระหนี้ได้
และหากมีการแปลงหนี้บัตรเครดิตไปเป็นเทอมโลน จะลดดอกเบี้ยให้เหลือ 12% ต่อปีบัตรกดเงินสด จะลดดอกเบี้ยจาก 28% ต่อปี เหลือ 26% ต่อปี
กรณีสินเชื่อส่วนบุคคล จะลดดอกเบี้ยจาก 28% ต่อปี เหลือ 25% ต่อปี
กรณีสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จะลดดอกเบี้ยจาก 28% ต่อปี เหลือ 24% ต่อปี และหากเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และนอนแบงก์ จะลดดอกเบี้ยจาก 28% ต่อปี เหลือ 22% ต่อปีสินเชื่อเช่าซื้อ จะมีการลดดอกเบี้ยลง 1% จากดอกเบี้ยตามสัญญาเช่าเดิม
ซึ่งเมื่อคิดเป็นแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ดอกเบี้ยจะลดไปประมาณ 2% ต่อปี สินเชื่อบ้าน จะให้พักชำระเงินต้นได้ 3 เดือน และสามารถปรับโครงสร้างหนี้
เพื่อลดค่างวด และขยายเวลาการชำระหนี้ได้
ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย จะประกาศมาตรการออกมาในวันพรุ่งนี้
และมาตรการจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ไปจนถึงสิ้นปีนี้
และมาตรการจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ไปจนถึงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ธปท. ยังมีแผนจะขยายเพดานวงเงินสินเชื่อ ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรกดเงินสดด้วย โดยเฉพาะในส่วนของผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อเดือน
เพิ่มวงเงินกู้ยืมเป็น 2 เท่า จากเดิมที่กำหนดวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 1.5 เท่า
เพิ่มวงเงินกู้ยืมเป็น 2 เท่า จากเดิมที่กำหนดวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 1.5 เท่า
Tag:แบงก์ชาติ