ฟิลิปปินส์ เสนอร่างกฎหมายเก็บภาษีบริษัทเทคโนโลยี เพื่อเป็นทุนต่อสู้กับโควิด-19
23 พ.ค. 2020
ฟิลิปปินส์ ได้เสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่เข้ารัฐสภา โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ เกี่บวกับการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับบริการดิจิทัลต่างๆในฟิลิปปินส์ จากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
เช่น Facebook, Alphabet (Google), Netflix และ Spotify
เพื่อเอาไว้เป็นงบประมาณในการต่อสู้กับโรคระบาดโควิด-19
เช่น Facebook, Alphabet (Google), Netflix และ Spotify
เพื่อเอาไว้เป็นงบประมาณในการต่อสู้กับโรคระบาดโควิด-19
ซึ่งรัฐบาลฟิลิปปินส์ คาดว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีในส่วนนี้ได้อย่างน้อยถึง 18,215 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซสูง
และมีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก
เพราะมีฐานประชากรกว่า 109 ล้านคน
และมีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก
เพราะมีฐานประชากรกว่า 109 ล้านคน
“เราทุ่มงบประมาณไปกับการต่อสู้กับโรคโควิด-19
และเราต้องการมากกว่านี้ เพื่อต่อสู้กับมัน และฟื้นฟูประเทศต่อไป”
Joey Salceda สภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ กล่าว
และเราต้องการมากกว่านี้ เพื่อต่อสู้กับมัน และฟื้นฟูประเทศต่อไป”
Joey Salceda สภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ กล่าว
และ Joey Salceda ยังกล่าวอีกว่า ในปีหน้า ภาษีที่เรียกเก็บกับบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้
จะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนโครงการดิจัทัลของฟิลิปปินส์ในด้านต่างๆ
เช่น โครงการบรอดแบนด์แห่งชาติ, โครงการการเรียนรู้ผ่านดิจิทัล
เพื่ออุดช่องว่างทางการศึกษา ที่เกิดจากการปิดโรงเรียน
จะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนโครงการดิจัทัลของฟิลิปปินส์ในด้านต่างๆ
เช่น โครงการบรอดแบนด์แห่งชาติ, โครงการการเรียนรู้ผ่านดิจิทัล
เพื่ออุดช่องว่างทางการศึกษา ที่เกิดจากการปิดโรงเรียน
ซึ่งร่างกฎหมายเรียกเก็บภาษีนี้ ต้องผ่านการอภิปรายในสภาฯ และเห็นชอบเสียก่อน
ถึงจะประกาศให้มีผลบังคับใช้ได้
ถึงจะประกาศให้มีผลบังคับใช้ได้
ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ป่วย Active Cases 9,737 ราย
ยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 13,777 ราย, ผู้เสียชีวิต 863 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,177 ราย
ยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 13,777 ราย, ผู้เสียชีวิต 863 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,177 ราย
ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน อินโดนีเซีย ก็เพิ่งประกาศแผนเรียกเก็บ VAT 10% สำหรับผลิตภัณฑ์ดิจิทัล
ของบรรดาบริษัทเทคโนโลยีเช่นกัน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
เพื่อหวังเพิ่มรายได้ให้รัฐอีกช่องทาง ท่ามกลางโรคระบาดโควิด-19
ของบรรดาบริษัทเทคโนโลยีเช่นกัน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
เพื่อหวังเพิ่มรายได้ให้รัฐอีกช่องทาง ท่ามกลางโรคระบาดโควิด-19