Chamisul แบรนด์โซจูอันดับ 1 ของเกาหลี
26 ก.ค. 2019
ในซีรีส์เกาหลี เราจะเห็น “โซจู” เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำ
สำหรับคนเกาหลี ไม่ว่าจะในช่วงเวลา สังสรรค์ ฉลอง เครียด อกหัก..
ก็มักจะสั่งโซจูมาดื่ม และเราอาจสงสัยกันว่า
บริษัทไหนคือผู้นำตลาดเครื่องดื่มนี้ในเกาหลี?
ก็มักจะสั่งโซจูมาดื่ม และเราอาจสงสัยกันว่า
บริษัทไหนคือผู้นำตลาดเครื่องดื่มนี้ในเกาหลี?
แบรนด์เจ้าตลาดสินค้านี้คือ Chamisul อ่านว่า ชัมอีซึล
ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดกว่าครึ่ง
ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดกว่าครึ่ง
ก่อนจะพูดถึงบริษัท ขอเล่าความเป็นมาของ โซจู คร่าวๆ ก่อน
ต้นกำเนิดโซจูมาจาก “อารักจู”
ซึ่งเป็นเหล้าพื้นเมืองตะวันออกกลาง ที่คิดค้นโดยชาวเปอร์เซีย
ซึ่งเป็นเหล้าพื้นเมืองตะวันออกกลาง ที่คิดค้นโดยชาวเปอร์เซีย
ในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1300 ชาวมองโกล ได้เข้ารุกรานเกาหลี
ทำให้ทหารมองโกล ได้นำวิธีการกลั่นเหล้า “อารักจู” เข้ามาด้วย
ทำให้ทหารมองโกล ได้นำวิธีการกลั่นเหล้า “อารักจู” เข้ามาด้วย
ต่อมาชาวเมืองเกาหลีก็ได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีการกลั่นเหล้านี้
แล้วจึงค่อยๆ พัฒนาสูตรจนกลายเป็น “โซจู” ในที่สุด
แล้วจึงค่อยๆ พัฒนาสูตรจนกลายเป็น “โซจู” ในที่สุด
โซจู จะคล้ายๆ เหล้าขาวในบ้านเรา โดยเกิดจากการกลั่นข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวสาลี และมันฝรั่ง
ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นิยมมากเป็นอันดับหนึ่งในเกาหลี
ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นิยมมากเป็นอันดับหนึ่งในเกาหลี
และยังนิยมนำไปผสมร่วมกับเครื่องดื่มชนิดอื่น เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ เช่น
โยเกิร์ตโซจู เป็นการนำโซจูมาผสมกับนมเปรี้ยว และโซดามะนาว
โซจูบอมบ์ เป็นการนำโซจูมาผสมลงในแก้วเบียร์
โซจูบอมบ์ เป็นการนำโซจูมาผสมลงในแก้วเบียร์
ปัจจุบันโซจูมีหลายแบรนด์ แต่แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและนิยมดื่มกันมากที่สุด
คือ Chamisul ซึ่งเป็นของบริษัท HiteJinro
คือ Chamisul ซึ่งเป็นของบริษัท HiteJinro
โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กว่าครึ่งในเกาหลี..
การเริ่มต้นของบริษัท HiteJinro มาจาก 2 บริษัท
Jinro ผู้ผลิตโซจู ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1924 แต่เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงิน
ทำให้บริษัทถูกซื้อไปในปี ค.ศ. 2006 โดย Hite บริษัทผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่
ทำให้บริษัทถูกซื้อไปในปี ค.ศ. 2006 โดย Hite บริษัทผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่
ทำให้บริษัทเปลี่ยนชื่อเป็น HiteJinro นับแต่นั้นมา
ซึ่งนอกจากจำหน่ายโซจูแล้ว บริษัทยังจำหน่าย เบียร์ ไวน์ วิสกี้ และน้ำดื่ม
เช่น Hite beer, Max beer, Jinro Tok Tok และ Seok Su Water
ซึ่งนอกจากจำหน่ายโซจูแล้ว บริษัทยังจำหน่าย เบียร์ ไวน์ วิสกี้ และน้ำดื่ม
เช่น Hite beer, Max beer, Jinro Tok Tok และ Seok Su Water
รายได้และกำไรของบริษัท HiteJinro
ปี 2559 รายได้ 49,711 ล้านบาท กำไร 1,011 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 49,702 ล้านบาท กำไร 335 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 49,590 ล้านบาท กำไร 586 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 49,711 ล้านบาท กำไร 1,011 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 49,702 ล้านบาท กำไร 335 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 49,590 ล้านบาท กำไร 586 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่า 37,900 ล้านบาท
ถึงแม้ว่าเบียร์ วิสกี้ และไวน์จะได้รับความนิยมในเกาหลีมากขึ้น
แต่ด้วยความผูกพันที่โซจูอยู่กับคนเกาหลีมาอย่างยาวนาน
แต่ด้วยความผูกพันที่โซจูอยู่กับคนเกาหลีมาอย่างยาวนาน
รวมทั้งราคาที่ไม่แพง และหาซื้อได้ง่าย ตามร้านค้าทั่วไป
ทำให้ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน โซจูก็ยังคงความนิยมในเกาหลี
ทำให้ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน โซจูก็ยังคงความนิยมในเกาหลี
และถ้าพูดถึงโซจู แบรนด์ Chamisul ก็เป็นตัวเลือกแรกของคนเกาหลี
นอกจากนี้ โซจูยังนิยมในอีกหลายประเทศทั่วโลก จนได้รับฉายาว่า "วอดก้าแห่งตะวันออก”
ทำให้คนเกาหลีมีความรู้สึกภาคภูมิใจในโซจู และแบรนด์ Chamisul
ทำให้คนเกาหลีมีความรู้สึกภาคภูมิใจในโซจู และแบรนด์ Chamisul
จะเห็นได้ว่าแบรนด์ของบริษัทแข็งแกร่งมาก
เพราะไม่ใช่สื่อว่าเป็นเพียงธุรกิจหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นตัวแทนของชาติเกาหลี
เพราะไม่ใช่สื่อว่าเป็นเพียงธุรกิจหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นตัวแทนของชาติเกาหลี
ถ้าธุรกิจไหนสามารถสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชาติได้
ธุรกิจนั้นก็คงประสบความสำเร็จไม่น้อย เหมือนอย่าง HiteJinro..
เพราะอย่างน้อยก็มีคนในชาติคอยสนับสนุนอยู่
ธุรกิจนั้นก็คงประสบความสำเร็จไม่น้อย เหมือนอย่าง HiteJinro..
เพราะอย่างน้อยก็มีคนในชาติคอยสนับสนุนอยู่