“ไทยกูลิโกะ” กางแผนครบรอบ 55 ปี ดูแล Health & Wellness ผู้บริโภค ชูกลยุทธ์ “5 New” ลุย R&D-ESG ปั้นสินค้าขนม-สินค้าสุขภาพตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

“ไทยกูลิโกะ” กางแผนครบรอบ 55 ปี ดูแล Health & Wellness ผู้บริโภค ชูกลยุทธ์ “5 New” ลุย R&D-ESG ปั้นสินค้าขนม-สินค้าสุขภาพตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

25 เม.ย. 2025
ไทยกูลิโกะ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยอดนิยม ป๊อกกี้ เพรทซ์ พีจอย แอลฟี่ และโคลอน กางแผนครบรอบ 55 ปีในประเทศไทย ชูกลยุทธ์ “5 New” สู้ศึกตลาดบิสกิต 17,471 ล้าน โชว์จุดแกร่ง 1 ใน 3 R&D Center ของกูลิโกะทั่วโลก เดินหน้าวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ตามความต้องการผู้บริโภค พร้อมพัฒนาสินค้าในกลุ่มสุขภาพ และสินค้ากลุ่มพรีเมียม สร้างความแปลกใหม่ ดึงดูดทั้งผู้บริโภคชาวไทย-ต่างชาติ-คนรุ่นใหม่ ส่งอัลมอนด์โคกะ รุกตลาดทั้ง B2C พร้อมขยายสู่ B2B เข้าร้านคาเฟ่-คอฟฟี่เชนเพิ่มเติม ตอกย้ำจุดยืนความใส่ใจด้าน Health & Wellness ลุยติดโซลาร์เซลล์ในโรงงานขับเคลื่อนด้าน ESG ส่งเสริมเป้าหมายลดคาร์บอน เตรียมจับมือพันธมิตรใหม่สร้างสีสันให้ตลาดต่อเนื่อง
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวว่า ตลอด 55 ปีที่ผ่านมา “ไทยกูลิโกะ” ได้ยืนหยัดเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภค ส่งต่อ “ความสุข” ให้แก่ผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์อย่างป๊อกกี้ เพรทซ์ พีจอย แอลฟี่ และโคลอน เป็นแรงผลักดันสำคัญของตลาดบิสกิตและขนมหวานในประเทศไทยด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ในวาระครบรอบ 55 ปีในปี 2025 นี้ บริษัทจึงเตรียมเดินหน้าขับเคลื่อนความสุขของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ “5 New” เพื่อสร้างมิติใหม่ของประสบการณ์การบริโภค ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ รวมถึงตลาดบิสกิตในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่า 17,471 ล้านบาท (ที่มา: Nielsen Full year 2024)
สำหรับกลยุทธ์ 5 New ประกอบด้วย 1. New R&D ยึดจุดแกร่งของไทยกูลิโกะในการเป็นศูนย์การวิจัยและพัฒนา (R&D Center) 1 ใน 3 แห่งของกูลิโกะทั่วโลก เดินหน้าวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่โดยยืนบนพื้นฐานความต้องการของผู้บริโภค (Customer-Based R&D) เพื่อให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงวัย 2.New Innovation สรรค์สร้างนวัตกรรมผ่านสินค้าและการทำการตลาด สร้างความแปลกใหม่และสีสันให้ตลาด ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่อีกราว 8-10 รายการในปีนี้ ผ่านสินค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Premium Range และกลุ่ม Thai Tasteสะท้อนรสนิยมและเอกลักษณ์ความเป็นไทย ตอบโจทย์ทั้งตลาดในประเทศ ตลาดนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อเป็นของฝาก ตลอดจนกลุ่มคนรุ่นใหม่
3. New Market ขยายฐานลูกค้าจากกลุ่ม B2C สู่การบุกตลาด B2B มากยิ่งขึ้น ด้วยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมอัลมอนด์ โคกะรสชาติต่างๆ ไปยังร้านคาเฟ่และคอฟฟี่เชน ที่มีสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องใช้นมอัลมอนด์เป็นส่วนผสม รวมถึงพิจารณาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ พร้อมทั้งจัด Event Marketing ดึงดารา-เซเลบ จัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ ตอกย้ำจุดยืนของบริษัทที่ใส่ใจสุขภาพด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellness) ของผู้บริโภค 4. New ESG Drive ขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ของบริษัทด้วยกิจกรรมใหม่ๆ ด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง อาทิ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่โรงงานผลิตหลักของบริษัท คือโรงงานบางกะดี ปริมาณ 2.8เมกะวัตต์พีก (MWp) ต่อวัน ซึ่งติดตั้งเสร็จสิ้นและเริ่มดำเนินงานเต็มรูปแบบตั้งแต่ ก.พ.ที่ผ่านมา คาดว่าจะลดปริมาณคาร์บอนได้อย่างน้อย 1,700ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% ภายในปี 2030 5.New Partner & Collaboration เดินหน้าจับมือพันธมิตรใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมสร้างประสบการณ์การบริโภคที่แตกต่าง
นายเฉลิมพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ในปี 2568 บริษัทได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ 5 New ไปแล้วหลายด้าน อาทิ การจับมือ Butterbear ทำสินค้าพรีเมียมที่ระลึก การใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค ทั้งการเพิ่มสารอาหารและลดโซเดียมในผลิตภัณฑ์ขนม การออกผลิตภัณฑ์ Limited Edition อย่าง Pocky Rose รวมถึงการจัด Event Marketing อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่วิจัยและพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมปล่อยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ Pretz รสแกงเขียวหวานไก่ ซึ่งคาดว่าจะวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคมนี้
“ประเทศไทยถือเป็นฐานธุรกิจที่สำคัญของเอซากิ​ กูลิโกะ หรือบริษัทแม่กูลิโกะในญี่ปุ่น ต่อการดำเนินธุรกิจทั่วโลก เราถือเป็นก้าวแรกของบริษัทแม่ในการสร้างธุรกิจระหว่างประเทศ เป็น 1 ใน 3 ประเทศที่มี R&D Center เป็นของตัวเอง รวมถึงเป็นหนึ่งในฐานการผลิตเพื่อส่งออกที่สำคัญ เราจึงต้องมีการพัฒนาธุรกิจที่เข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสครบรอบ 55 ปี เราไม่ได้มองแค่ฐานลูกค้าเดิมที่เป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน แต่เรามองไปถึงตลาดใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Gen Z, Gen Alpha กลุ่มคนรักสุขภาพ ไปจนถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มองผลิตภัณฑ์ของกูลิโกะที่จำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเป็นของฝากชั้นยอด เราเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ 5 New จะช่วยตอบโจทย์การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมทั้งส่งมอบความสุข สามารถครองใจผู้บริโภคในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจ Health & Wellness อย่างต่อเนื่อง” นายเฉลิมพงษ์ กล่าวเสริม
สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ Overseas ของบริษัท เอซากิ กูลิโกะ (บริษัทแม่กูลิโกะในญี่ปุ่น) ให้ขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย 91,000 ล้านเยน หรือเติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปี 2567 พร้อมทั้งส่งมอบความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีให้ผู้บริโภคในประเทศไทย
บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด เป็นผู้เล่นหลักในตลาดบิสกิตของไทยมานานกว่า 50 ปี ก่อตั้งขึ้นในปี 2513 และเติบโตอย่างมั่นคงในฐานะตลาดที่สำคัญของกูลิโกะในอาเซียน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีผ่านผลิตภัณฑ์ในเครือ ปัจจุบัน มีกลุ่มสินค้าในประเทศไทยทั้งสิ้น 2 กลุ่มหลัก ภายใต้หลากหลายแบรนด์ ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนม ได้แก่ ป๊อกกี้, พีจอย, เพรทซ์, ไจแอนท์ คาปุลิโกะ, โคลอน, ทีนนี่, แอลฟี่ 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ Health & Wellness เครื่องดื่มน้ำนมอัลมอนด์ภายใต้แบรนด์อัลมอนด์​ โคกะ
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.