สรุป 10 ฟีเชอร์เด่น Edits แอปตัดต่อ ใช้ฟรี ของ Instagram คู่แข่ง CapCut ที่เปิดให้ใช้งานวันนี้
23 เม.ย. 2025
ล่าสุด Instagram ได้เปิดให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน สำหรับตัดต่อวิดีโอสั้นแบบฟรี ๆ โดยเฉพาะ ที่ชื่อว่า “Edits” อย่างเป็นทางการ
หลังจากทีมพัฒนาแอปพลิเคชันของ Instagram ได้ประกาศว่า กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโอสำหรับ Instagram มาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
ซึ่งแอปพลิเคชันนี้ น่าจับตามองในฐานะ “คู่แข่ง” สำคัญ ของ CapCut ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโอยอดนิยมของ TikTok ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
แล้วแอปพลิเคชัน Edits มีฟีเชอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ? MarketThink สรุปมาให้แล้ว 10 ข้อ
1. Edits เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้ “ฟรี” แบบไม่มีลายน้ำ
โดยสามารถแชร์วิดีโอไปยัง Instagram หรือ Facebook ได้โดยตรง หรือจะ Export วิดีโอแบบไม่มีลายน้ำ เพื่อนำไปลงบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน
2. ใช้งานได้ง่าย
จุดเด่นของแอปพลิเคชัน Edits ที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ความเรียบง่ายของ UX/UI ที่ทำให้ผู้ใช้งานใหม่ สามารถเรียนรู้ และทำความเข้าใจวิธีการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว
3. สามารถตัดต่อวิดีโอได้อย่างแม่นยำ ละเอียดถึงระดับเฟรมต่อเฟรม
โดยแอป Edits สามารถตัดต่อวิดีโอได้สูงสุดในระดับ 30 Fps หรือภาพจำนวน 30 เฟรมต่อ 1 วินาที ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตัดต่อวิดีโอ ที่ต้องการความละเอียดในการทำงานสูงได้
4. มีฟีเชอร์กล้อง หรือ Capture ให้เราสามารถถ่ายวิดีโอได้ภายในแอปพลิเคชันได้โดยตรง
โดยมีตัวเลือกให้เราสามารถปรับคุณสมบัติของวิดีโอให้เหมาะสมได้ เช่น
- Resolution หรือความละเอียดของวิดีโอ มี 3 ระดับให้เลือก คือ HD, 2K และ 4K
- Frame Rate หรือจำนวนภาพต่อวิดีโอ ใน 1 วินาที มี 3 ตัวเลือก คือ 24, 30 และ 60 FPs
- Dynamic Range หรือขอบเขตความละเอียดของสีที่อยู่ในวิดีโอ ได้ทั้ง SDR (Standard Dynamic Range) และ HDR (High Dynamic Range)
- การซูมวิดีโอ 3 ระดับ คือ 0.5x, 1x, 2x และ 5x และฟีเชอร์ไฟแฟลช
- ฟีเชอร์ Timer หรือตั้งเวลานับถอยหลัง มี 3 ตัวเลือก คือ 3 วินาที, 5 วินาที และ 10 วินาที
- ฟีเชอร์เปลี่ยนพื้นหลังขณะถ่ายวิดีโอ
5. ฟีเชอร์ Green Screen สำหรับตัดต่อวิดีโอที่ต้องการเปลี่ยนฉากหลังโดยเฉพาะ
6. มีเครื่องมือตัดต่อวิดีโอแบบพื้นฐาน สามารถใช้งานได้แบบครบ ๆ
เช่น การใส่ตัวหนังสือ, เสียง, ปรับความเร็ววิดีโอ, ปรับลักษณะของวิดีโอ เช่น สี และความสว่าง, ฟิลเตอร์, เอฟเฟกต์ภาพ, เอฟเฟกต์เสียง, ใส่สติกเกอร์ และปรับภาพซ้ายขวา (Mirror)
7. มีฟีเชอร์สร้างคำบรรยายอัตโนมัติ หรือที่ชื่อว่า Captions
ช่วยให้ผู้ใช้งาน ประหยัดเวลาการทำ Subtitle ซึ่งเป็นงานที่ใช้เวลาค่อนข้างมาก ซึ่งต้องหมายเหตุว่า ตอนนี้ฟีเชอร์ Captions ยังไม่รองรับภาษาไทย
8. มีเมนู Ideas ที่เก็บคลิป Reels ที่เรากดเซฟเอาไว้ สำหรับใช้ในการตัดต่อวิดีโอของเราได้อย่างรวดเร็ว ได้แก่
- เมนู Stickies สำหรับบันทึกไอเดียที่เราอาจค้นพบขึ้นมาระหว่างวัน
- เมนู Save ที่รวบรวมคลิป Reels ที่เราบันทึกเอาไว้
- เมนู Collections ที่รวบรวมคลิป Reels ที่เรากดบันทึก และแบ่งหมวดหมู่เอาไว้
9. มีเมนู Inspiration ซึ่งมีหน้าตาเหมือนฟีด Reels บน Instagram ไว้เป็นพื้นที่หาแรงบันดาลใจและไอเดียสำหรับการตัดต่อวิดีโอ จาก Reels ของครีเอเตอร์คนอื่น ๆ
10. ดูข้อมูลเชิงลึกของวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ได้ เช่น
- ดูข้อมูลแบบ Overview ของบัญชี Instagram ได้ผ่าน Dashboard โดยตรง
- ดูข้อมูลยอดวิว และเอนเกจเมนต์ของ Reels แต่ละคลิปได้ทันที
- สามารถเช็กยอดเข้าชมได้อย่างละเอียด ทั้งยอดเข้าชมที่มาจากผู้ติดตาม และผู้ที่ไม่ใช่ผู้ติดตาม
- ดูข้อมูลที่ส่งผลต่อยอดเข้าชมวิดีโอได้ เช่น ผู้ชมกดข้ามช่วงเวลาไหน, อัตราการดูคลิปจนจบ, ผู้ชมใช้เวลาชมคลิปเฉลี่ยเท่าไร
อย่างไรก็ตาม ฟีเชอร์ส่วนใหญ่ที่ Edits ปล่อยออกมายังเป็นฟีเชอร์พื้นฐานที่แอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโออื่น ๆ ก็มีอยู่แล้ว
แต่ในอนาคต Instagram ระบุว่าจะมีการพัฒนา และอัปเดตฟีเชอร์อื่น ๆ ให้กับแอปพลิเคชัน Edits เพิ่มเติม เช่น
- Keyframe หรือฟีเชอร์การระบุจุดเวลาบนวิดีโอ เพื่อปรับแต่งวิดีโอให้เป็นไปตามความต้องการ
- การแชร์พื้นที่การทำงานกับเพื่อน ครีเอเตอร์ หรือแบรนด์
- ฟีเชอร์ การปรับเอฟเฟกต์บนวิดีโอด้วย AI
- ตัวเลือกเพิ่มเติมในเมนูฟอนต์ เสียงเพลง เอฟเฟกต์เสียง แอนิเมชันข้อความ ทรานสิชัน ฟิลเตอร์ และเพลงที่ไม่มีลิขสิทธิ์
สำหรับใครที่อยากลองใช้ Edits ของ Instagram สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store บนอุปกรณ์ iOS หรือ Play Store บนอุปกรณ์ Android ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ที่น่าสนใจคือ ในตอนนี้ แอปพลิเคชัน Edits ได้พุ่งทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน Top Chart ของแอปพลิเคชันหมวดหมู่ Photo & Video ใน App Store
และมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านดาวน์โหลด บน Play Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชันมาได้ไม่ถึง 1 วัน