เซ็นทรัล รีเทล ชู 5 ยุทธศาสตร์ รับมือยุค “Now Normal”
13 พ.ค. 2020
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) ประกาศแผน “ยุทธศาสตร์ 5 พร้อม”
ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันแพลตฟอร์มค้าปลีกและบริการ ของเมืองไทย
ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันแพลตฟอร์มค้าปลีกและบริการ ของเมืองไทย
ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจค้าปลีกทางด้านแฟชั่น, อาหาร และฮาร์ดไลน์
รวมทุกช่องทางทั้งออฟไลน์, ออนไลน์ และไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล
รวมทุกช่องทางทั้งออฟไลน์, ออนไลน์ และไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CRC กล่าวว่า
นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โควิด-19 ทางทีมผู้บริหารได้ติดตาม และวางแผนรับมืออย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โควิด-19 ทางทีมผู้บริหารได้ติดตาม และวางแผนรับมืออย่างต่อเนื่อง
โดยได้นำ “Central Retail & Service Platform”
มาเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันธุรกิจค้าปลีกและบริการของประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น
มาเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันธุรกิจค้าปลีกและบริการของประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น
ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ จะเน้นความสำคัญ 2 เรื่องหลัก คือ
1) เรื่องความสะอาดและสุขอนามัย โดยยึดหลักปฏิบัติตามนโยบายของภาครัฐ
รวมถึงการรักษาความสะอาดด้วยระบบอัจฉริยะ
1) เรื่องความสะอาดและสุขอนามัย โดยยึดหลักปฏิบัติตามนโยบายของภาครัฐ
รวมถึงการรักษาความสะอาดด้วยระบบอัจฉริยะ
2) เรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก และเชื่อมโยงประชาชนทุกภาคส่วน ให้มาอยู่บนแพลตฟอร์มนี้
เพื่อกระตุ้นการสร้างงาน สร้างรายได้ ลดค่าครองชีพ
เพื่อกระตุ้นการสร้างงาน สร้างรายได้ ลดค่าครองชีพ
ไปจนถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน ด้วยแผน “ยุทธศาสตร์ 5 พร้อม”
ที่จะตอบโจทย์ความท้าทายในยุค New Normal
ซึ่งได้พัฒนาไปสู่ความเป็น Now Normal หรือ “โลกแห่งวิถีชีวิตปัจจุบัน”
นับเป็นมิติใหม่ ที่เราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ที่จะตอบโจทย์ความท้าทายในยุค New Normal
ซึ่งได้พัฒนาไปสู่ความเป็น Now Normal หรือ “โลกแห่งวิถีชีวิตปัจจุบัน”
นับเป็นมิติใหม่ ที่เราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) พร้อม…พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ด้วยการช่วยเหลือครบวงจร
โดยได้ดำเนินการไปแล้วใน 3 มิติ ดังนี้
โดยได้ดำเนินการไปแล้วใน 3 มิติ ดังนี้
-ดึงแรงงานไทยกว่า 19 ล้านคน จากทั้งหมด 33 ล้านคน กลับเข้าสู่ “Central Retail & Service Platform” ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ช่วยเพิ่มการจ้างงาน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
พร้อมจัดพื้นที่จำหน่ายสินค้าฟรีทั่วไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19
ณ ศูนย์การค้าในเครือ อาทิ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ท็อปส์ พลาซ่า และไทวัสดุ
รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ท็อปส์ ออนไลน์, เซ็นทรัล ออนไลน์ และโรบินสัน ออนไลน์
ณ ศูนย์การค้าในเครือ อาทิ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ท็อปส์ พลาซ่า และไทวัสดุ
รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ท็อปส์ ออนไลน์, เซ็นทรัล ออนไลน์ และโรบินสัน ออนไลน์
เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ชุมชน และ SME ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงกว่า 450,000 ราย
ได้กลับเข้ามาจำหน่ายสินค้า และเกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจไทย
ได้กลับเข้ามาจำหน่ายสินค้า และเกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจไทย
-เพิ่มปริมาณการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตร-สินค้าชุมชน
โดยท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปจาก 1,170 ชุมชนทั่วประเทศ จำนวน 9,000 รายการ
โดยท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปจาก 1,170 ชุมชนทั่วประเทศ จำนวน 9,000 รายการ
พร้อมเปิดพื้นที่จำหน่ายที่ท็อปส์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และจริงใจ มาร์เก็ตทุกสาขา
เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยกว่า 24,000 ครัวเรือนให้มีรายได้
เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยกว่า 24,000 ครัวเรือนให้มีรายได้
-ล็อกราคาสินค้ากว่า 23,000 รายการ นาน 3 เดือน
พร้อมร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการลดราคาสินค้า 5-68% กว่า 3,000 รายการ
ตลอดปี 2563 ที่ท็อปส์ และแฟมิลี่มาร์ททุกสาขา เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน
พร้อมร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการลดราคาสินค้า 5-68% กว่า 3,000 รายการ
ตลอดปี 2563 ที่ท็อปส์ และแฟมิลี่มาร์ททุกสาขา เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน
2) พร้อม…ยกระดับและชูมาตรฐานความสะอาดต่อยอดความแข็งแกร่งระบบสาธารณสุขไทย
ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขั้นสูงสุด เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจที่จะกลับมาเดินห้างสรรพสินค้า, ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ และร้านค้าต่างๆ ในเครืออย่างไร้กังวล โดยมีรายละเอียดดังนี้
ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขั้นสูงสุด เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจที่จะกลับมาเดินห้างสรรพสินค้า, ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ และร้านค้าต่างๆ ในเครืออย่างไร้กังวล โดยมีรายละเอียดดังนี้
-มาตรฐานด้านสุขอนามัย ปฏิบัติตามนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหน้ากาก, ตรวจวัดอุณหภูมิ, บริการเจลล้างมือ, พนักงานสวมใส่ Face shield และถุงมือ เป็นต้น
รวมทั้งนำเทคโนโลยีการอบโอโซน และ UVC มาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคบนธนบัตร รวมถึงสินค้าที่ต้องสัมผัสกับลูกค้าโดยตรง
พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำด้านความปลอดภัย ได้แก่ “หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี” และ "เครื่องช่วยวัดอุณหภูมิอัจฉริยะ"
-มาตรฐานด้าน Social Distancing
จำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์ฯ 1 คน ต่อ 5 ตร.ม. และจัดระยะห่างบริเวณจุดต่างๆ เช่น จุดชำระเงิน, ลิฟต์, บันไดเลื่อน และที่นั่งของ Delivery man
จำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์ฯ 1 คน ต่อ 5 ตร.ม. และจัดระยะห่างบริเวณจุดต่างๆ เช่น จุดชำระเงิน, ลิฟต์, บันไดเลื่อน และที่นั่งของ Delivery man
-มาตรฐานด้าน Trace & Tracking
จัดทำระบบ ‘Safety Tracking’ เพื่อติดตามข้อมูลสุขภาพของพนักงาน และลูกค้าที่มาใช้บริการใน โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ และห้างฯ รวมถึงร้านค้าต่างๆ
จัดทำระบบ ‘Safety Tracking’ เพื่อติดตามข้อมูลสุขภาพของพนักงาน และลูกค้าที่มาใช้บริการใน โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ และห้างฯ รวมถึงร้านค้าต่างๆ
3) พร้อม…ใช้นวัตกรรมและสร้างประสบการณ์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุค Seamless & Contact-free Economy
-ชูคอนเซ็ปต์ “Central Retail Smart FIN" ผ่าน “One-Click”
ด้วยแอปพลิเคชั่น “Dolfin” จากเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค (บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล และเจดี ดิจิตอล)
ซึ่งสามารถสแกนจ่ายเงินได้ทันที โดยไม่ต้องจับเงินสด หรือบัตรเครดิต
ด้วยแอปพลิเคชั่น “Dolfin” จากเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค (บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล และเจดี ดิจิตอล)
ซึ่งสามารถสแกนจ่ายเงินได้ทันที โดยไม่ต้องจับเงินสด หรือบัตรเครดิต
ที่ธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล กว่า 3,100 จุดทั่วประเทศ
ถือเป็นการยกระดับเรื่องความสะอาด และช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
ถือเป็นการยกระดับเรื่องความสะอาด และช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
พร้อมบริการเพิ่มเติมจากแอป อาทิ บริการ “Order & Collect”
จ่ายเงินง่ายในแอป และรับของได้ที่หน้าร้าน เริ่มใช้แล้วที่ท็อปส์ 10 สาขานำร่องและร้านอาหารในเครือเซ็นทรัลฯ
จ่ายเงินง่ายในแอป และรับของได้ที่หน้าร้าน เริ่มใช้แล้วที่ท็อปส์ 10 สาขานำร่องและร้านอาหารในเครือเซ็นทรัลฯ
4) พร้อม…ต้อนรับ และให้บริการลูกค้าทุกช่องทางในยุค Now Normal
ไม่ว่าลูกค้าจะมาที่ห้างร้าน หรืออยู่ที่บ้าน ต้องได้รับบริการ และประสบการณ์ที่ดีทุกช่องทาง
ผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชแนล ที่ออกแบบการบริการให้เหมาะกับกลุ่ม Customer Segment ดังนี้
ไม่ว่าลูกค้าจะมาที่ห้างร้าน หรืออยู่ที่บ้าน ต้องได้รับบริการ และประสบการณ์ที่ดีทุกช่องทาง
ผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชแนล ที่ออกแบบการบริการให้เหมาะกับกลุ่ม Customer Segment ดังนี้
-กลุ่มชอบคลิก : บริการ application และ webstores
-กลุ่มชอบแชต : Chat & Shop สั่งสินค้าผ่าน Line Official Account
พร้อมมีพนักงานและแชทบอทพูดคุยให้คำแนะนำ เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวในการช้อปปิ้ง
พร้อมมีพนักงานและแชทบอทพูดคุยให้คำแนะนำ เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวในการช้อปปิ้ง
-กลุ่มชอบโทร : บริการ Call & Shop สั่งสินค้าผ่าน Call Center
โดยจะมีพนักงานคอยสนทนา และให้ความช่วยเหลือในการช้อปปิ้งเป็นรายบุคคล
สามารถเลือกส่งสินค้าที่บ้าน หรือมารับเองที่สาขาก็ได้
โดยจะมีพนักงานคอยสนทนา และให้ความช่วยเหลือในการช้อปปิ้งเป็นรายบุคคล
สามารถเลือกส่งสินค้าที่บ้าน หรือมารับเองที่สาขาก็ได้
-กลุ่มชอบความสะดวก : บริการ Drive Thru
พนักงานบริการส่งสินค้าถึงรถ สะดวก ไม่ต้องลงจากรถ
พนักงานบริการส่งสินค้าถึงรถ สะดวก ไม่ต้องลงจากรถ
บริการ Click & Collect สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ และมารับได้ที่สาขา
บริการ E-ordering กรณีสินค้าไม่มีจำหน่ายในร้าน พนักงานขายหน้าร้านสามารถใช้แท็บเล็ตเช็คสต๊อกสินค้าออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ เพื่ออำนวยสะดวกให้ลูกค้ามารับสินค้าได้ภายหลัง
-กลุ่มชอบจองก่อนใคร : บริการ Reserve & Collect
กดจองสินค้าออนไลน์ แล้วมาชมสินค้าจริง หรือทดลองก่อนตัดสินใจซื้อ
พร้อมชำระเงินได้ที่สาขา ภายในเวลา 24 ชั่วโมงหลังกดจองสินค้า
กดจองสินค้าออนไลน์ แล้วมาชมสินค้าจริง หรือทดลองก่อนตัดสินใจซื้อ
พร้อมชำระเงินได้ที่สาขา ภายในเวลา 24 ชั่วโมงหลังกดจองสินค้า
และบริการ 1-hour pickup ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ และมารับที่สาขาได้ภายใน 1 ชั่วโมง
5) พร้อม…เร่งเครื่องแพลตฟอร์ม Central Retail & Service อย่างเต็มที่
เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน
เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน
-ขยายการลงทุนต่อเนื่องในส่วนที่สำคัญต่อธุรกิจ (Future Growth) อาทิ นวัตกรรม, เทคโนโลยี, พัฒนาทักษะบุคลากร (Reskill People)
และพัฒนาออมนิแชแนลแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง
รวมไปถึงการขยายสาขาต่างๆ ทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม เช่น ไทวัสดุ, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์,ท็อปส์ มาร์เก็ต และ GO! เวียดนาม
รวมไปถึงการขยายสาขาต่างๆ ทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม เช่น ไทวัสดุ, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์,ท็อปส์ มาร์เก็ต และ GO! เวียดนาม
-มุ่งมั่นที่จะเป็น Center of life หรือ “ศูนย์กลางชีวิตผู้คน”
โดยใช้ความแข็งแกร่งของ “Central Retail & Service Platform” ที่ครอบคลุมทั้งหน้าร้าน และออนไลน์ ทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็นศูนย์รวมของลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร ซัพพลายเออร์ และธุรกิจ SMEs ต่างๆ
โดยใช้ความแข็งแกร่งของ “Central Retail & Service Platform” ที่ครอบคลุมทั้งหน้าร้าน และออนไลน์ ทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็นศูนย์รวมของลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร ซัพพลายเออร์ และธุรกิจ SMEs ต่างๆ
พร้อมสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกร และเศรษฐกิจฐานราก สามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มของเราได้อย่างเต็มที่ และเท่าเทียม
-นำโมเดลต้นแบบออมนิแชแนลที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย
ต่อยอดไปยังธุรกิจต่างประเทศ อาทิ บริการออนไลน์ และออมนิแชแนล
ที่จะเปิดตัวที่รีนาเชนเต ประเทศอิตาลี ในเดือนมิถุนายนนี้
รวมถึงเหงียนคิม ในประเทศเวียดนามที่เตรียมเปิดตัวบริการออมนิแชแนลด้วยเช่นกัน
ต่อยอดไปยังธุรกิจต่างประเทศ อาทิ บริการออนไลน์ และออมนิแชแนล
ที่จะเปิดตัวที่รีนาเชนเต ประเทศอิตาลี ในเดือนมิถุนายนนี้
รวมถึงเหงียนคิม ในประเทศเวียดนามที่เตรียมเปิดตัวบริการออมนิแชแนลด้วยเช่นกัน