เจาะลึกเบื้องหลัง LINE Certified Coach มากกว่าทีมให้ความรู้ผู้ประกอบการไทย แต่เป็นคอมมิวนิตีที่ทำให้ทุกคนเก่งขึ้นในทุกวัน

หนึ่งใน Pain Point ที่ผู้ประกอบการในยุคดิจิทัล ติดกับดัก คือ รู้ว่าการทำการตลาดดิจิทัลนั้นสำคัญ แต่อาจรู้ไม่ถ่องแท้พอว่า จะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือออนไลน์ที่อยู่รอบตัวอย่างไรอย่างเต็มประสิทธิภาพ จนทำให้หลายๆ ธุรกิจที่กระโจนเข้าสู่การทำการตลาดออนไลน์แล้ว กลับตกม้าตายอย่างน่าเสียดาย

เพราะเข้าใจอินไซต์ของผู้ประกอบการเป็นอย่างดี LINE for Business ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการทำธุรกิจ ซึ่งมีภารกิจสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เติบโต จึงได้ปลุกปั้น LINE Certified Coach ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ ที่ผ่านการคัดเลือกและรับรองจาก LINE ประเทศไทย เป็นประจำทุกปี

เพื่อเป็นที่ปรึกษาและถ่ายทอดความรู้การใช้งานโซลูชัน LINE อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ธุรกิจ ให้แก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศ โดยหวังยกระดับศักยภาพของธุรกิจไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

ที่ผ่านมา หลายคนอาจจะพอคุ้นหูกับชื่อ LINE Certified Coach

แต่อาจไม่รู้ว่าเบื้องหลังว่า กว่าจะเป็น LINE Certified Coach นั้น ต้องผ่านการคัดเลือกที่เข้มข้นมากมาย และอะไรคือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของผู้ที่อยู่ในบทบาทนี้ ที่มีกว่าแค่การช่วยเหลือผู้ประกอบการในธุรกิจ

ทุกข้อข้องใจเหล่านี้ ถูกเฉลยผ่าน 3 ตัวแทน LINE Certified Coach นำโดย

โคชโซอี้-โสภา พิมพ์สิริพานิชย์, โคชอัยย์-อัยพัชร วรรคาวิสันต์ และ โคชง้วง-ชวลิต เดชะนรานนท์

เริ่มจากคำถามที่หลายคนคาใจ คือ กว่าจะเป็น LINE Certified Coach ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ?

จะเห็นว่า ในแต่ละปี LINE for Business จะมีการเปิดตัว LINE Certified Coach ซึ่งประกอบด้วยโคชหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่หมุนเวียนเข้ามา รวม ๆ แล้วปีละกว่า 30 ท่าน

แต่ไม่ว่าจะเป็นโคชหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ สิ่งที่เหมือนกัน คือ ทุกคนต้องผ่านกระบวนการคัดสรรอย่างเข้มข้น ทั้งการสอบข้อเขียนและการสอบสัมภาษณ์ เพื่อเฟ้นหา LINE Certified Coach ที่ใช่จริง ๆ

เหตุผลที่ต้องมีการคัดสรร LINE Certified Coach ใหม่ทุกปี เพราะอย่างที่รู้กันว่าโลกธุรกิจทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีโจทย์ที่ท้าทายขึ้นทุกวัน เช่นเดียวกับโซลูชันของ LINE ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการไทย

ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจว่า ความเชี่ยวชาญของ LINE Certified Coach จะเหมือนมีดที่ถูกลับให้คมอยู่เสมอ และพร้อมเป็นคู่คิดให้ธุรกิจไทย เติบโตอย่างยั่งยืนในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความท้าทาย จนถ้าใครเผลอยืนอยู่กับที่ ก็ไม่ต่างกับการเดินถอยหลัง จึงต้องมีกระบวนการคัดสรรที่เข้มข้น และท้าทายขึ้นทุกปี จนต่อให้เป็น LINE Certified Coach อยู่แล้ว ก็ยังต้องเตรียมตัวอย่างหนัก เพื่อผ่านบททดสอบไปให้ได้

นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมหนึ่งในคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็น LINE Certified Coach จึงต้องมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้ความรู้หรือเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจมามากกว่า 1 ปี และมีการเผยแพร่ความรู้ แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ

อีกทั้งยังต้องมีความเชี่ยวชาญในโซลูชันต่าง ๆ ของ LINE ไม่ว่าจะเป็น LINE Official Account, LINE Ads, MyShop, MyCustomer | CRM รวมถึง API, มีช่องทางการสื่อสารออนไลน์ของตนเอง เช่น LINE Official Account, Facebook Page, YouTube Channel เป็นต้น

เพราะหากไม่ตั้งต้นจากพื้นฐานความรู้ที่แน่น ก็ยากที่จะอัปสเกลไปเรียนรู้เครื่องมือใหม่ ๆ จาก LINE และนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอด เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการแบบไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง

แต่อย่างไรก็ตาม ลำพังมีความเก่งและความสามารถอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของ LINE Certified Coach คือ ต้องมีความมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ เพื่อต่อยอดความสำเร็จให้ผู้ประกอบการไทย

ด้วยเกณฑ์การคัดเลือกที่เข้มข้นนี้เอง จึงเป็นเหมือนการสร้างมาตรฐานใหม่ว่า ใครที่สามารถฝ่าด่านจนติดนามสกุล LINE Certified Coach ได้สำเร็จ นอกจากจะมีสกิลด้านการตลาดที่ผ่านการรับรองจาก LINE ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลก ยังมีความเชี่ยวชาญในโซลูชันต่าง ๆ ของ LINE ที่พร้อมจะให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อแบรนด์และผู้ประกอบการไทยอย่างแท้จริง

ดังนั้น การได้เป็น LINE Certified Coach จึงไม่เพียงสานฝันของใครหลายคน ที่จะได้นำความรู้ที่มีมาสร้างประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการไทยอีกมหาศาลที่ต้องการคู่คิดในการขับเคลื่อนธุรกิจ

แต่ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและแบรนดิงให้กับตัวเอง

ที่สำคัญกว่านั้น คือ การต่อยอดความรู้ เพราะสิ่งที่ LINE Certified Coach ได้รับ คือ “โอกาส”

ที่จะได้เป็นบุคคลกลุ่มแรก ๆ ที่ได้อัปเดตฟีเชอร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ LINE Commerce Solution

อีกทั้งยังได้ร่วมกิจกรรมพิเศษจาก LINE ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ทั้งการพัฒนาทักษะ การแก้ไขโจทย์ธุรกิจที่ท้าทายจากทั้งองค์กรขนาดใหญ่และ SME พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่าย ๆ

สำหรับโคชโซอี้ LINE Certified Coach รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน และมีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน มองว่า การได้เป็น LINE Certified Coach คือ ประตูแห่งโอกาสบานใหญ่ ที่ทำให้ได้อัปเดตความรู้ เทรนด์การตลาด และโซลูชันจาก LINE ก่อนใคร ซึ่งนอกจากจะเป็นการเติมความรู้ให้กับตัวเองตลอดเวลา ยังสามารถนำความรู้ที่ได้ถ่ายทอดให้กับผู้ติดตามได้ก่อนใคร

ที่สำคัญ การเป็น LINE Certified Coach ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้ติดตาม หรือ SME ที่ไปช่วยให้คำปรึกษาอีกด้วย

ขณะที่โคชง้วง อดีตเจ้าของธุรกิจออนไลน์และวิทยากรด้านการตลาด ที่โดดเด่นในการเปลี่ยนการใช้ LINE OA ให้เป็น Personalized Tools เพื่อเพิ่มยอดขาย และลดรายจ่าย สำหรับ SME และธุรกิจ B2C มองว่า การมาเป็น LINE Certified Coach ไม่ได้แค่ช่วยแก้ Pain Point ส่วนตัวที่เคยตั้งคำถามว่า โซลูชันจาก LINE มีอะไรมากกว่าการ Broadcast เพื่อเข้าถึงลูกค้า แต่ยังช่วยต่อยอดบทบาทวิทยากรด้านการตลาด

“ผมมองว่าการเป็นโคช ก็ไม่ต่างจากคนเป็นหมอและวิศวกร ที่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ดังนั้นการเป็น LINE Certified Coach ก็เหมือนการมีใบรับรองว่า เรามีความเชี่ยวชาญและความพร้อมที่จะให้คำแนะนำกับ SME จริง ๆ ไม่ใช่แนะนำไปแล้วให้ SME ไปลองผิดลองถูก แล้วสุดท้ายอาจจะพลาด”

สอดคล้องกับมุมมองของโคชอัยย์ ที่ปรึกษาดูแลธุรกิจลูกค้าตั้งแต่ระดับ SME ไปจนถึง Global Brand ที่ตัดสินใจมาเป็น LINE Certified Coach ตั้งแต่ปี 2019 ด้วยแพสชันที่อยากถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่มีให้กับคนอื่น เพราะมองว่า ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าการทำให้ตัวเองไปถึงเป้าหมายคือ การทำให้คนอื่นประสบความสำเร็จ

อีกทั้ง การเป็น LINE Certified Coach ไม่เพียงสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง ในฐานะผู้ถ่ายทอด

แต่ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะมารับคำปรึกษา

“การร่วมงานกับ LINE ไม่ได้เหมือนการมาเทกคอร์สแล้วจบ แต่เราทำงานด้วยกันเหมือนเป็นพาร์ตเนอร์เติบโตไปด้วยกัน เราเองก็สามารถเป็นสะพานในการนำฟีดแบ็กหรือ Pain Point ของ SME ที่เจอจริง มาเป็นอินไซต์ให้กับทาง LINE ในการพัฒนาโซลูชันต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้ว LINE Ads มีการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายให้ผู้ลงโฆษณาเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดมากขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น เช่น กลุ่มแม่และเด็ก ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการฟังฟีดแบ็กของ SME”

นอกจาก LINE Certified Coach จะจัดเต็มเรื่อง Hard Skill (ความรู้) LINE Certified Coach ยังได้ติดอาวุธ Soft Skill ผ่านหลักสูตรพิเศษ เช่น การสร้าง Personal Branding, Public Speaking หรือ การฝึกบุคลิกภาพต่าง ๆ แต่ที่โคชอัยย์ประทับใจเป็นพิเศษ คือ คอมมิวนิตีที่แข็งแกร่งในหมู่ LINE Certified Coach ที่ทาง LINE ก็มีส่วนในการสนับสนุนผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้ LINE Certified Coach ได้มีส่วนร่วม และได้แลกเปลี่ยนมุมมองที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำไปปรับใช้หรือต่อยอดไอเดียในการให้คำปรึกษาได้ดียิ่งขึ้น​

อย่างไรก็ตาม ในฐานะ LINE Certified Coach ทำให้โคชทั้ง 3 ท่านได้มีโอกาสเจอกับ SME ที่มาจากหลากหลายธุรกิจ แต่สิ่งที่เป็น Pain Point หลักของผู้ประกอบการไทยที่ทั้ง 3 ท่านเห็นพ้อง คือ ทุกรายทราบดีว่า นี่คือยุคของการตลาดดิจิทัล และมีเครื่องมือมากมายที่พร้อมจะติดปีกให้ธุรกิจ

แต่สิ่งที่ยังขาด คือ อาจจะรู้ไม่หมด หรือรู้ไม่ลึก เลยใช้เครื่องมือที่มีได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

ดังนั้นการมี LINE Certified Coach จึงเป็นเหมือนกองทัพผู้เชี่ยวชาญที่จะกระจายกำลังกันไปช่วยเหลือแบรนด์และผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศ

“หนึ่งในคำถามยอดฮิตของ SME คือ จะใช้โซลูชันอะไรดีเพื่อตอบโจทย์เทรนด์ Chat Commerce ที่กำลังมาแรง แน่นอนว่า หนึ่งในนั้นคือ LINE เพราะเป็นแพลตฟอร์มหลักที่คนไทยใช้ในการสื่อสาร แต่เคสจริงที่โซอี้เจอ คือ SME ไทยอาจจะใช้ LINE OA แต่กลับใช้ประโยชน์แค่ 30%

ดังนั้น พอเราเข้าไปคุย และแนะนำให้ลองใช้ Ecosystem ของ LINE ให้ครอบคลุม เช่น ใช้ Chat Tag ใช้การ Retargeting เพื่อเพิ่มยอดขาย, ปรับปรุง Greeting Message และ Rich Menu เพื่อลดงานแอดมิน พร้อมกับยิง LINE Ads เพื่อสร้าง Brand Awareness, ใช้ MyCustomer | CRM ทำระบบ CRM ด้วยต้นทุนหลักร้อย หรือถ้ามีสินค้าก็สามารถใช้ MyShop เปิดหน้าร้าน กลายเป็นว่า พอค่อย ๆ ปรับ กลายเป็นผลลัพธ์ที่กลับมาดีเกินคาด” โคชโซอี้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ

อีกเคสที่น่าสนใจจากโคชอัยย์ คือ การใช้ประโยชน์จากการที่ LINE เป็น “แพลตฟอร์มเปิด” ช่วยธุรกิจ SME ที่เป็น B2B หาลูกค้าและนำดาตามาต่อยอดการทำการตลาด ด้วยการใช้วิธีดึงลูกค้าที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของแบรนด์มาที่ LINE เพื่อให้แอดมินปิดการขาย ปรากฏว่า นอกจากธุรกิจจะโต ยังได้ฐานผู้ติดตามใน LINE เพิ่ม เพื่อมาทำการตลาดต่อ

อย่างไรก็ตาม ถึงจะเป็น LINE Certified Coach แต่ก็ไม่ได้จำกัดกรอบว่า โคชจะต้องแนะนำแต่โซลูชันของ LINE ให้ SME เพราะบทบาทของ LINE Certified Coach คือ การช่วยต่อจิกซอว์การทำตลาดดิจิทัลให้ลูกค้าเป็นภาพที่สมบูรณ์

โคชทั้ง 3 ท่านตอบตรงกันว่า หน้าที่ของพวกเขา คือ การให้คำปรึกษา และแนะนำโซลูชันที่ตอบโจทย์กับ SME แต่ละเจ้า สุดท้ายแล้ว โซลูชันจาก LINE จะเข้าไปเป็นพาร์ตเล็กหรือพาร์ตใหญ่ในกลยุทธ์ของลูกค้า ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยความทรงพลังของ LINE ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คน จึงทำให้โซลูชันจาก LINE ถือว่าตอบโจทย์ SME เป็นอย่างมาก

“ยุคนี้ไม่มี SME ที่ใช้แค่แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งทำการตลาดแล้วประสบความสำเร็จ

แม้แต่ตัวโคชเองยังมีหลายช่องทางในการเข้าถึงผู้ติดตาม

ดังนั้น เมื่อเรามีโจทย์จาก SME ที่หลากหลายเดินเข้ามาขอคำปรึกษา หน้าที่ของเราคือ ใช้ความรู้และประสบการณ์เพื่อแนะนำหรือเปรียบเทียบโซลูชันให้เห็นข้อดี-ข้อเสีย” โคชโซอี้ขยายความ

ส่วนความกดดันในฐานะ LINE Certified Coach ที่ SME ล้วนเข้ามาพร้อมความคาดหวังเต็มร้อยว่า ต้องกลับไปพร้อมกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจเติบโต

โคชง้วง ซึ่งเคยมีประสบการณ์ เจอ SME ที่มาพร้อมเงินทุนก้อนสุดท้ายเข้ามาปรึกษา เปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า LINE Certified Coach ก็เหมือนโคชของนักฟุตบอล ที่อยู่ข้างสนาม สามารถโคชผู้เล่นได้ว่าควรเล่นแบบไหน แต่สุดท้ายผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบที่หวังหรือไม่ ก็อยู่ที่ผู้เล่นในสนาม

ในชีวิตจริงของ SME ส่วนใหญ่ที่ล้มเหลว เกิดจากไม่ลงมือทำ ติดกับดัก คำว่า “พอดียังไม่ว่าง พอดียังไม่สะดวก”

ส่วนตัวโคชง้วงเชื่อในพลังของการลงมือทำ ต่อให้ทำแล้วอาจไม่สำเร็จ 100% แต่การลงมือทำ หมายถึงเรามีโอกาสที่จะเข้าใกล้ความสำเร็จ

เช่นเดียวกับโคชอัยย์ ที่ย้ำว่า ทุกครั้งที่ให้คำปรึกษา จะต้องทำความเข้าใจกับ SME ก่อนเสมอ

แต่อย่างน้อยขอให้มั่นใจว่าจะมีโคช ที่รออยู่ที่ปลายทาง ถ้าเกิดผิดพลาดระหว่างทาง หรือมาถึงเป้าหมายช้ากว่าที่วางแผนไว้ จะมีโคชที่เดินกลับไปดู​ว่าติดปัญหาตรงไหน

“เป้าหมายวันนี้ ไปไกลกว่าความภูมิใจในตัวเอง แต่คือคุณค่าของสิ่งที่ทำ การเป็น LINE Certified Coach ทำให้ได้อัปสกิลตัวเองตลอดเวลา ได้อัปเดตเครื่องมือใหม่ ๆ ไปมอบให้ SME ได้เติบโตไปด้วยกัน ซึ่งเมื่อ SME ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน GDP ของประเทศก็เติบโตตาม พูดง่าย ๆ คือ Win กันทุกฝ่าย ตั้งแต่ตัวโคช, แพลตฟอร์มอย่าง LINE, SME, รวมถึงประเทศ”

มาถึงตรงนี้ เรียกได้ว่า LINE Certified Coach ไม่ใช่แค่การเฟ้นหาผู้เชี่ยวชาญมาให้การรับรอง

แต่เป็นการสร้าง Ecosystem ที่นำไปสู่การสร้างความยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการแบบถึงแก่น

โดยเริ่มจากการปลูกเมล็ดพันธ์ สร้างผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมกระจายกำลังไปติดอาวุธให้ธุรกิจ ผ่านโซลูชันที่ครบครันจาก LINE

ดังนั้นใครที่มีความรู้ด้านการตลาด ชอบท่องโลกแห่งการเรียนรู้ไม่รู้จบ

ที่สำคัญมีแพสชันอันแรงกล้าที่จะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน ผู้ประกอบการไทย

เตรียมตัวให้พร้อม LINE Certified Coach 2026 อาจเป็นคุณ..

ส่วนผู้ประกอบการที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ LINE Certified Coach 2025 และต้องการรับคำปรึกษาเพื่อยกระดับธุรกิจ สามารถติดตามข้อมูลของโคชทั้ง 34 ท่านได้ที่ลิงก์ https://lin.ee/XqwtG3e/wcvn

พร้อมทั้งอัปเดตข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทยได้ทาง LINE Official Account : LINE for Business (@linebizth) หรือทางเพจ LINE for Business