รวม 7 ไอเดียการตลาดเบสิก ช่วยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เพิ่มยอดขาย แบบใช้ได้จริง

รวม 7 ไอเดียการตลาดเบสิก ช่วยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เพิ่มยอดขาย แบบใช้ได้จริง

7 มี.ค. 2025

1. Viral Marketing
หรือ การตลาดไวรัล เป็นกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการกระจายข้อมูลออกไปเป็นวงกว้าง ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ช่วยสร้างทั้ง Awareness และ Engagement ให้กับแบรนด์ได้อย่างมหาศาล ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
โดย Viral Marketing จะเกิดขึ้นได้ด้วยคอนเทนต์ที่มีความน่าสนใจ จนไปกระตุ้นการแชร์ต่อของผู้คนในโลกโซเชียลมีเดีย คล้ายกับการตลาดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth Marketing)
ตัวอย่าง วิธีใช้กับการขายของออนไลน์
- ทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ให้เกิดการแชร์ต่อบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย จนทำให้เกิดความรู้สึกอยากลองซื้อสินค้านั้นด้วยตัวเอง
เช่น คอนเทนต์รีวิวอาหาร หรือขนมอร่อย ๆ บน TikTok ที่ทำให้คนดูแชร์ต่อให้เพื่อน ๆ หรือเกิดความรู้สึกอยากลองชิมด้วยตัวเอง
_______________________________
2. Influencer Marketing
หรือ การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ เป็นการตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ ในการสร้างผลลัพธ์ทางด้านการตลาด ตามที่แบรนด์ต้องการ ทั้งการสร้าง Awareness, Engagement และ Conversion
ผ่านการทำคอนเทนต์ที่มีความน่าสนใจบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และนำเสนอผ่านตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ของอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น การรีวิวสินค้า หรือแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว
ตัวอย่าง วิธีใช้กับการขายของออนไลน์
- ใช้อินฟลูเอนเซอร์ รีวิวสินค้าจากการใช้งานจริงแบบเรียล ๆ โดยเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเดียวกับประเภทของสินค้าที่ขาย
_______________________________
3. Content Marketing
หรือ การตลาดผ่านคอนเทนต์ เป็นการทำคอนเทนต์ที่มีวัตถุประสงค์ทางด้านการตลาด เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยคอนเทนต์ที่มีความน่าสนใจ จนกลุ่มเป้าหมายกลายเป็นลูกค้า
โดยตัวอย่างของคอนเทนต์ที่ทำได้ ก็มีทั้ง การเขียนบล็อกบนเว็บไซต์ การโพสต์ข้อความ รูปภาพ อัลบั้ม คลิปวิดีโอ ไลฟ์ หรืออินโฟกราฟิก ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
ตัวอย่าง วิธีใช้กับการขายของออนไลน์
- การทำคอนเทนต์ของร้านค้าในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
เช่น การไลฟ์ผ่านฟีเชอร์ Shopee Live เพื่อแนะนำสินค้า ทำให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าจริง ๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
หรือจะเป็นการสร้างกลุ่ม Facebook เพื่อรวบรวมผู้ที่มีความสนใจในแบรนด์ หรือสินค้าเดียวกัน แล้วทำคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ก็ได้เช่นกัน
_______________________________
4. User Generated Content (UGC)
คือ คอนเทนต์ที่สร้างขึ้นโดย “ลูกค้า” ตัวจริงของแบรนด์ด้วยความเต็มใจ โดยไม่ได้มีการจ่ายเงินเพื่อจ้างให้ลูกค้าทำคอนเทนต์ เหมือนอย่างการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ เป็นกลยุทธ์การตลาดรูปแบบหนึ่ง ที่แยกย่อยออกมาจาก Content Marketing
โดยข้อดีของ UGC ก็คือ เป็นคอนเทนต์ที่มีความเป็นธรรมชาติ และน่าเชื่อถือกว่าคอนเทนต์ที่แบรนด์ทำขึ้นเอง และมีส่วนสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้า
รวมถึงแบรนด์ที่มีการจูงใจให้ลูกค้าสร้างคอนเทนต์แบบ UGC ขึ้นมา จะช่วยกระตุ้นให้เกิด Brand Loyalty ได้อีกด้วย
ตัวอย่าง วิธีใช้กับการขายของออนไลน์
- กระตุ้นให้ลูกค้าทำ UGC เช่น การรีวิวให้ดาว บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลังกดรับสินค้า หรือคอมเมนต์ความประทับใจจากการใช้สินค้า ลงบนโพสต์ Facebook ของแบรนด์
โดยแบรนด์ หรือร้านค้า ต้องกระตุ้นให้ลูกค้าทำ UGC ด้วยการให้ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม เป็นการตอบแทน ยกเว้นว่าสินค้าชิ้นนั้นดีมาก จนลูกค้าอยากทำคอนเทนต์บอกต่อด้วยตัวเอง
_______________________________
5. Affiliate Marketing
คือ กลยุทธ์การตลาด ที่มีวิธีในการสร้างยอดขาย โดยอาศัยบุคคลอื่น ๆ ให้ช่วยทำการตลาดและโปรโมตสินค้าแทนแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยบุคคลที่ทำการตลาดแทนแบรนด์ จะได้รับค่าตอบแทนในลักษณะของค่าคอมมิชชัน ตามสัดส่วนที่กำหนดไว้
ตัวอย่าง วิธีใช้กับการขายของออนไลน์
- การเปิดให้อินฟลูเอนเซอร์ หรือคนทั่วไป ที่มียอดผู้ติดตามในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสูงระดับหนึ่ง นำสินค้าของแบรนด์ไปทำการตลาด ด้วยการสร้างลิงก์ Affiliate แล้วนำลิงก์นี้ไปใส่ไว้ในคอนเทนต์ที่มีความน่าสนใจ ในรูปแบบใดก็ได้
เช่น การทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าชิ้นนั้นแบบตรง ๆ หรือจะเป็นการใส่ไว้ในคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจสูงก็ได้ แม้จะไม่ใช่คอนเทนต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวสินค้าเลยก็ตาม
_______________________________
6. Fear of Missing Out (FOMO)
FOMO คือ คำที่ใช้อธิบายพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่กลัวว่าตัวเองจะพลาดกระแสสังคม หรือพลาดอะไรบางอย่างที่กำลังได้รับความนิยม จนรู้สึกว่าไม่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม
เช่น กิจกรรมสนุก ๆ ข้อมูลข่าวสารที่อัปเดต ของเล่นของสะสมที่คนอื่นมี เทรนด์ หรือร้านอาหารที่กำลังฮิต
ตัวอย่าง วิธีใช้กับการขายของออนไลน์
- ผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมแบบ FOMO แบรนด์หรือผู้ที่ขายของออนไลน์ ควรใช้การตลาดที่กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว
เช่น การใช้ข้อความ “ลดราคาวันสุดท้าย”, “หมดแล้วหมดเลย”, “สินค้ามีจำนวนจำกัด” หรือ “สินค้าขายดี”
หรือการออกสินค้า Limited Edition ที่มีจำนวนจำกัด เพื่อสร้างความหายากให้กับตัวสินค้า จนผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมแบบ FOMO รู้สึกไม่อยากพลาดสินค้าชิ้นนี้
_______________________________
7. SEO และ Keyword Marketing
โดยส่วนใหญ่แล้ว SEO และ Keyword Marketing จะหมายถึง การทำให้เว็บไซต์ของแบรนด์ ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาบน Search Engine
แต่จริง ๆ แล้ว SEO และ Keyword Marketing สามารถนำมาใช้กับการขายสินค้าออนไลน์ได้เช่นกัน
ตัวอย่าง วิธีใช้กับการขายของออนไลน์
- การตั้งชื่อสินค้าให้มีความเฉพาะเจาะจงมากพอ จะทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าเจอได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการตั้งชื่อสินค้าควรมีทั้ง ชื่อแบรนด์ ชื่อรุ่น สี รวมถึงประเภทของสินค้าแบบคร่าว ๆ รวมอยู่ในชื่อด้วย
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.