“BLC” ท็อปฟอร์ม! ประกาศผลงานปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง 
กวาดรายได้ 1,557 ล้านบาท เติบโต 10.7% ยาสามัญ และสามัญใหม่หนุนโต
ปักธงปี 2568 ขยายผลิตภัณ์สมุนไพร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง รับดีมานด์พุ่ง

“BLC” ท็อปฟอร์ม! ประกาศผลงานปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง 
กวาดรายได้ 1,557 ล้านบาท เติบโต 10.7% ยาสามัญ และสามัญใหม่หนุนโต
ปักธงปี 2568 ขยายผลิตภัณ์สมุนไพร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง รับดีมานด์พุ่ง

25 ก.พ. 2025
‘บมจ. บางกอกแล็ปแอนด์คอสเมติค หรือ BLC’ ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องมีรายได้จากการขายและให้บริการ 423 ล้านบาทกำไรสุทธิ 54.8 ล้านบาทเติบโต 7.0% และ 9.4% ตามลำดับเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566
จากการร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทยาชั้นนำจากญี่ปุ่นในการนำยาแผนปัจจุบันประเภทยาสามัญและยาสามัญใหม่เข้าสู่ช่องทางโรงพยาบาลและร้านขายยาได้มากขึ้นและความสำเร็จจากการสร้าง Brand Awareness ให้ผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ส่งให้ผลการดำเนินงานปี 2567 ทำรายได้ 1,557 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 176.1 ล้านบาทเติบโต 10.7% และ 16.8% ตามลำดับปักธงปี 2568 โตเพิ่มเฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาทลุยขยายผลิตภัณฑ์สมุนไพรเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงรองรับดีมานด์ Pet Humanization เติบโตมุ่งสู่ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชั้นนำของไทย
ภก.สุวิทย์งามภูพันธ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทบางกอกแล็ปแอนด์คอสเมติคจำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 4 (ตุลาคม - ธันวาคม) ปี 2567 บริษัทฯ สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยมีผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง มีรายได้จากการขายและให้บริการ 423 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 54.8 ล้านบาท เติบโต 7.0% และ 9.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญมาจากการจำหน่ายยาสามัญและยาสามัญใหม่ให้แก่โรงพยาบาลและร้านขายยา และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทยาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง “บริษัท นิชิอิโคะ (ประเทศไทย) จำกัด” ในการกระจายยาเข้าสู่ร้านขายยาเพิ่มมากขึ้น
รวมถึงความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ Clena Ex ที่เริ่มทำตลาดผ่าน Influencer ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวม 1,557 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 176.1 ล้านบาท เติบโต 16.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการทำกำไรสูง และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 10.7% เป็น 11.3% ทั้งนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตโดดเด่นยังคงเป็นยาสามัญและยาสามัญใหม่ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรยังมีแนวโน้มเติบโตสูงเมื่อเทียบกับปีก่อน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2567 ในอัตรา 0.09 บาทต่อหุ้น โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล  ในวันที่ 11 เมษายน 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2568 
ทั้งนี้ สำหรับเป้าหมายปี 2568 บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นสร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ ในปี 2568 ได้แก่
1) การทำการตลาดเชิงรุก ผ่านการสร้าง Brand Awareness ด้วยกลยุทธ์การใช้พรีเซนเตอร์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น และโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์, TVC และสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร
2) ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านออนไลน์ โดยเน้นเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา อาทิ เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
3) พัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องโดยเน้นขยายผลิตภัณฑ์สมุนไพรซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง รวมถึงการขยายสู่อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากเทรนด์ Pet Humanization อาทิ อาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง (แมวเลีย) รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสุขภาพอื่นๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ Deeday และเครื่องสำอาง เป็นต้น
4) ขยายตลาดต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการเดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มประเทศเดิมที่บริษัทฯ มีพันธมิตรทางธุรกิจ และมีความเข้าใจในความต้องการของกลุ่มลูกค้า ผ่านการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับการเติบโตตามแผนการขยายธุรกิจในอนาคต BLC กำลังเดินหน้าก่อสร้างอาคารผลิตยาแห่งใหม่ตามแผนที่วางไว้ พร้อมกับการลงทุนในโซลาร์ฟาร์มแห่งที่ 2 เพื่อใช้พลังงานสะอาด ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอก และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตโดยการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อรองรับการเติบโตของผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“BLC ยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพี่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยา และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจรของไทย ด้วยการขยายตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุน เพื่อให้เราสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเราเสมอมา เราสัญญาว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นทุกท่าน และสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนไทยทุกคน” ภก.สุวิทย์กล่าว
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.
เราได้ปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปกป้องข้อมูลที่สำคัญของคุณ โปรดอ่านและทำความเข้าใจนโยบายความเป็นส่วนตัวของเราเพิ่มเติม หากท่านใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา