หอการค้าไทยจับมือกลุ่มเซ็นทรัลเปิดตัวโครงการ “ฮักโลก” ปลุกสำนึกรักษ์โลกชวนเลือกช้อปสินค้าฉลากสิ่งแวดล้อม
30 ม.ค. 2025
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในความท้าทายระดับโลกที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันรับมือ โดยประเทศไทยได้เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP 26) พร้อมประกาศเป้าหมาย สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065
ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่ความยั่งยืน หนึ่งในแนวทางสำคัญที่ช่วยผลักดันเป้าหมายนี้คือการเลือกใช้สินค้าฉลากรักษ์โลกหรือฉลากสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางการผลิตและการบริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs)
อย่างไรก็ตามด้วยจำนวนและความหลากหลายของฉลากสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่อาจทำให้ผู้บริโภคจดจำและเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้ได้ยากหอการค้าไทยจึงมุ่งหาแนวทางที่ช่วยให้การเข้าถึงสินค้ารักษ์โลกเป็นเรื่องง่ายช่วยให้ผู้บริโภคสามารถมองหาและเลือกซื้อสินค้ารักษ์โลกได้สะดวกยิ่งขึ้น
คณะกรรมการพลังงานหอการค้าไทย ร่วมกับ กลุ่มเซ็นทรัลนำโดย เซ็นทรัลรีเทล พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เปิดตัว โครงการฮักโลก (Hug The Earth) เดินหน้ามุ่งสร้างโลกสีเขียวอย่างยั่งยืน ชวนลูกค้าช้อปสินค้ารักษ์โลกที่มีฉลากสิ่งแวดล้อมหรือฉลากรักษ์โลกได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยสินค้าที่มีฉลากสิ่งแวดล้อมจะถูกคัดสรรและรวบรวมไว้ในพื้นที่จำหน่ายหรือจุดแสดงสินค้าของธุรกิจในเครือเซ็นทรัลรีเทลเพียงสังเกตสัญลักษณ์โครงการ “ฮักโลก” (Hug The Earth) ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้ารักษ์โลกได้ง่ายขึ้น พร้อมมั่นใจได้ว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
โดย เซ็นทรัลรีเทลผู้นำค้าปลีก-ค้าส่งชั้นนำของไทยเป็นรีเทลรายแรกของประเทศไทยที่นำร่องโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ โครงการฮักโลกจะถูกขยายผลความสำเร็จโดยหอการค้าไทยสู่ภาคค้าปลีกและสมาชิกหอการค้าฯรวมทั้งเครือข่ายทั่วประเทศต่อไปเพื่อร่วมขับเคลื่อนให้การเลือกซื้อสินค้าฉลากรักษ์โลกกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของสังคมไทยร่วมกัน
สนั่นอังอุบลกุลประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่า หอการค้าไทยในฐานะองค์กรภาคเอกชนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด “Connect-Competitive-Sustainable”
โดยเฉพาะในมิติของ Sustainableที่เน้นยกระดับมาตรฐานใหม่สำหรับผู้ประกอบการด้วยการให้ความสำคัญกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และ เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ ระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ (Nature Positive Economy)
การริเริ่ม โครงการ “ฮักโลก” (Hug The Earth) ของคณะกรรมการพลังงานหอการค้าไทย ถือเป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ในการสนับสนุนสินค้ารักษ์โลกและตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการถึงความสำคัญของสินค้ารักษ์โลกรวมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายโดยให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมรักษ์โลกได้ง่ายขึ้น ด้วยการเลือกช้อปสินค้าฉลากรักษ์โลก ซึ่งถูกรวบรวมไว้ในพื้นที่จัดจำหน่าย ภายใต้สัญลักษณ์โครงการฮักโลก (Hug The Earth) ทั้งนี้บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือเป็นองค์กรค้าปลีกรายแรกที่นำร่องโครงการดังกล่าวภายในร้านค้าเครือเซ็นทรัล รีเทล
โดย โครงการฮักโลกจะถูกขยายผลความสำเร็จโดยหอการค้าไทยสู่ภาคค้าปลีกอื่นๆทั้งในเครือข่ายของหอการค้าไทยและทั่วประเทศสะท้อนถึงการร่วมใจกันรณรงค์เลือกซื้อสินค้าฉลากรักษ์โลกอย่างเข้มข้นและเป็นรูปธรรม”
พิชัยจิราธิวัฒน์กรรมการบริหารกลุ่มเซ็นทรัลและกรรมการและกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนบริษัทเซ็นทรัลรีเทลคอร์ปอเรชั่นจำกัดกล่าวว่า “"กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงธุรกิจบริการ โดยมีเป้าหมายในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
เราเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน และการสนับสนุนให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายนี้
เซ็นทรัล รีเทล ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งชั้นนำของไทยในเครือกลุ่มเซ็นทรัล มีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า “CRC Care” ซึ่งเป็น Commitment ที่จะดูแลและยกระดับทุกภาคส่วนให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนทั้งอีโคซิสเต็ม จนสามารถก้าวขึ้นเป็น Green & Sustainable Retail and Wholesale อย่างเต็มรูปแบบ
โดยให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ Net Zero ผ่าน กลยุทธ์ CRC ‘ReNEW’ ซึ่งเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ครอบคลุม 4 แนวทาง ได้แก่ Reduce Greenhouse Gas Emissions การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Navigate Environmental Responsibility สร้างทักษะและปลูกฝังความรับผิดชอบด้าน ESG ให้กับพนักงานทุกระดับ Eco-Friendly Materials การส่งเสริมสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Waste Management Solutions การบริหารจัดการขยะมูลฝอย
โครงการ “ฮักโลก” จึงเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สะท้อนถึงแนวทางของ CRC ‘ReNEW’ อีกทั้งคำนึงถึงเรื่อง Responsible Sourcing โดยช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้ารักษ์โลกได้ง่ายขึ้นพร้อมผลักดันให้ผู้ผลิตให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
เซ็นทรัลรีเทลนับเป็นองค์กรค้าปลีกรายแรกของประเทศไทยที่คิกออฟโครงการนี้โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีฉลากรักษ์โลกที่มีอยู่มากมายได้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพียงแค่สังเกต สัญลักษณ์โครงการ “ฮักโลก” (Hug The Earth) ซึ่งเป็นรูปมือกำลังโอบกอดโลก สื่อถึงความใส่ใจต่อโลกอย่างยั่งยืน ถูกรวบรวมไว้ในพื้นที่จำหน่ายหรือจุดแสดงสินค้าของห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล อาทิ ไทวัสดุ เพาเวอร์บาย เซ็นทรัล โรบินสัน ท็อปส์ โก โฮลเซลล์ บีทูเอส ออฟฟิศเมท ซูเปอร์สปอร์ต ซีเอ็มจี เป็นต้น ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อกรีนโปรดักส์ได้ง่ายและมั่นใจได้ว่าสินค้าดังกล่าวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง อีกทั้งยังกระตุ้นให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
จากพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน ในครั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล เชื่อมั่นว่าโครงการฮักโลกจะสร้างแรงขับเคลื่อนให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อและผลิตสินค้าเพื่อโลกได้เป็นอย่างดี เพื่อส่งต่ออนาคตโลกที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนสู่เจเนอเรชันรุ่นต่อไป”
สามารถดูรายละเอียดโครงการฮักโลกเพิ่มเติมได้ที่ www.centralretail.com/hug-the-earth และรับชมวีดีโอโครงการฮักโลกได้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=HBXvsIYPMO4
โครงการ “ฮักโลก” นับได้ว่าโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการค้าปลีกในการแสดงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนด้วยการส่งเสริมและจัดจำหน่ายสินค้าฉลากรักษ์โลกซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่แต่ยังช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมใส่ใจโลกอย่างยั่งยืนระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคทุกคน.