ชายผู้เห็น แคมเปญของ Subway แล้วลดน้ำหนักได้ 111 กก.
9 พ.ค. 2020
เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จักกับร้าน Subway ฟาสต์ฟู้ดเชนชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา
ในช่วงปี ค.ศ. 2000 มีแคมเปญหนึ่งของ Subway ที่น่าสนใจและทำให้เป็นจุดเปลี่ยนของ Subway
เพราะในตอนนั้น Subway เคยถูกมองว่าเป็นอาหารขยะ ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ในช่วงปี ค.ศ. 2000 มีแคมเปญหนึ่งของ Subway ที่น่าสนใจและทำให้เป็นจุดเปลี่ยนของ Subway
เพราะในตอนนั้น Subway เคยถูกมองว่าเป็นอาหารขยะ ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
เพื่อลบคำครหาดังกล่าว Subway จึงได้ออกแคมเปญ “7 น้อยกว่า 6”
ซึ่งนำเสนอแซนด์วิชของ Subway 7 แบบที่มีไขมันน้อยกว่า 6 กรัม
เพื่อแสดงออกว่า Subway ก็เป็น Healthy Fast Food ได้
ซึ่งนำเสนอแซนด์วิชของ Subway 7 แบบที่มีไขมันน้อยกว่า 6 กรัม
เพื่อแสดงออกว่า Subway ก็เป็น Healthy Fast Food ได้
ถ้าหากเราเป็นเหมือนลูกค้าส่วนใหญ่ เราก็คงจะไม่ได้สนใจแคมเปญนี้เท่าไรนัก
เราแค่รับรู้ว่า Subway มีแซนด์วิชไขมันต่ำให้เลือกถึง 7 แบบ
เราแค่รับรู้ว่า Subway มีแซนด์วิชไขมันต่ำให้เลือกถึง 7 แบบ
แต่นั่นก็ไม่ได้ชวนให้เรารู้สึกอยากทานมันมากขึ้นเท่าไร
และยอดขายของ Subway เองก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นหลังมีแคมเปญนี้แต่อย่างใด
และยอดขายของ Subway เองก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นหลังมีแคมเปญนี้แต่อย่างใด
จนกระทั่งมีนักศึกษาคนหนึ่งที่ชื่อ Jared Fogle
Jared เป็นคนอ้วนมาก เขามีน้ำหนักถึง 192 กก.
ใส่เสื้อไซส์ XXXXXXL(6XL) และมีรอบเอวถึง 60 นิ้ว
Jared เป็นคนอ้วนมาก เขามีน้ำหนักถึง 192 กก.
ใส่เสื้อไซส์ XXXXXXL(6XL) และมีรอบเอวถึง 60 นิ้ว
พ่อของ Jared กังวลเกี่ยวกับสุขภาพของเขา
จึงพาเขาไปพบแพทย์ และแพทย์ลงความเห็นถึงเรื่องน้ำหนักและสุขภาพของเขาว่า
เขามีอาการบวมน้ำ และนั่นอาจทำให้เขาเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ
ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสเสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม ถ้าหากยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม..
จึงพาเขาไปพบแพทย์ และแพทย์ลงความเห็นถึงเรื่องน้ำหนักและสุขภาพของเขาว่า
เขามีอาการบวมน้ำ และนั่นอาจทำให้เขาเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ
ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสเสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม ถ้าหากยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม..
Jared จึงตัดสินใจจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง
และเขาได้เห็นโฆษณาแซนด์วิช “7 น้อยกว่า 6” ของ Subway
เขาจึงลองทานแซนด์วิชไขมันต่ำของ Subway ดู
และเขาได้เห็นโฆษณาแซนด์วิช “7 น้อยกว่า 6” ของ Subway
เขาจึงลองทานแซนด์วิชไขมันต่ำของ Subway ดู
ปรากฏว่าเขาชอบมันมาก จนอยากจะทำแผนลดน้ำหนักด้วยการกินแซนด์วิช Subway
จึงออกแบบแผนลดน้ำหนัก และเรียกมันว่า “Subway Diet”
จึงออกแบบแผนลดน้ำหนัก และเรียกมันว่า “Subway Diet”
โดยแผนนี้มีอยู่ว่า
เขาจะกินแซนด์วิชไขมันต่ำของ Subway วันละสองชิ้น
และออกกำลังกายด้วยการเดินมากขึ้น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีน้ำหนักเกิน
วิธีของเขาฟังดูธรรมดามากๆ
เขาจะกินแซนด์วิชไขมันต่ำของ Subway วันละสองชิ้น
และออกกำลังกายด้วยการเดินมากขึ้น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีน้ำหนักเกิน
วิธีของเขาฟังดูธรรมดามากๆ
แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันได้ผลเกินคาด!
ในระยะเวลา 11 เดือน Jared ลดน้ำหนักได้เกินครึ่งหนึ่งจากเดิม
น้ำหนักของเขาลดไปถึง 111 กก. ซึ่งทำให้น้ำหนักของเขาเหลือเพียง 81 กก. เท่านั้น
ในระยะเวลา 11 เดือน Jared ลดน้ำหนักได้เกินครึ่งหนึ่งจากเดิม
น้ำหนักของเขาลดไปถึง 111 กก. ซึ่งทำให้น้ำหนักของเขาเหลือเพียง 81 กก. เท่านั้น
เรื่องราว Subway Diet จึงถูกพูดถึงกันอย่างหนาหูในช่วงนั้น
จนนิตยสาร Men’s Health ได้ไปสัมภาษณ์ Jared
และนำเรื่องราวของ Jared ไปลงคอลัมน์ “วิธีลดน้ำหนักบ้าๆ ที่ได้ผล”
จนนิตยสาร Men’s Health ได้ไปสัมภาษณ์ Jared
และนำเรื่องราวของ Jared ไปลงคอลัมน์ “วิธีลดน้ำหนักบ้าๆ ที่ได้ผล”
พอทางสำนักงานใหญ่ของ Subway เห็นเรื่องนี้เข้า
พวกเขาจึงรีบติดต่อขอทำสัญญากับ Jared
เพื่อที่จะนำเรื่องราวของเขามาออกโฆษณาไปทั่วประเทศ
และ..เปรี้ยง!
พวกเขาจึงรีบติดต่อขอทำสัญญากับ Jared
เพื่อที่จะนำเรื่องราวของเขามาออกโฆษณาไปทั่วประเทศ
และ..เปรี้ยง!
กระแสตอบรับที่ดีเกินคาดบ่งบอกถึงความสำเร็จในการโฆษณาเรื่องราวของพ่อหนุ่ม Jared
โดยในปีนั้นยอดขายของ Subway สูงขึ้นถึง 18% และยังสูงขึ้นอีกในปีถัดไปถึง 16%
โดยในปีนั้นยอดขายของ Subway สูงขึ้นถึง 18% และยังสูงขึ้นอีกในปีถัดไปถึง 16%
Jared เปรียบเสมือนเป็น Presenter ของ Subway จนได้รับฉายาว่า Subway guy
Subway ยังผลิตโฆษณาที่มีเขาเป็นนักแสดงอีกกว่า 300 ชิ้นหลังทำสัญญา
Subway ยังผลิตโฆษณาที่มีเขาเป็นนักแสดงอีกกว่า 300 ชิ้นหลังทำสัญญา
โฆษณาของ Jared ไม่เพียงสร้างรายได้ให้กับ Subway อย่างถล่มทลาย
แต่มันยังสร้าง Brand Awareness ให้กับผู้บริโภคถึงความเป็น Healthy Fast Food
ตามที่ Subway หวังไว้ในตอนแรกอีกด้วย
แต่มันยังสร้าง Brand Awareness ให้กับผู้บริโภคถึงความเป็น Healthy Fast Food
ตามที่ Subway หวังไว้ในตอนแรกอีกด้วย
เราจะเห็นได้ว่า เพียงแค่ Subway หยิบยกเรื่องราวการลดน้ำหนักของ Jared มาเผยแพร่ ก็เพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาสนใจ
น่าสนใจมากกว่าโฆษณาแซนด์วิช 7 แบบที่มีไขมันน้อยกว่า 6 กรัมมากๆ
อาจเพราะว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่เราจะไดเอตด้วยการกิน Fast Food
แต่ก็มีคนที่ทำได้ และเขาเป็นคนที่มีน้ำหนักมากถึง 192 กก. ด้วย
แต่ก็มีคนที่ทำได้ และเขาเป็นคนที่มีน้ำหนักมากถึง 192 กก. ด้วย
บทเรียนอันล้ำค่าของ Subway ที่ได้รับจากเรื่องนี้คือ
การโฆษณาที่ดีนั้น ไม่ใช่การโฆษณาออกมาได้ในความหมายที่แบรนด์ต้องการ
อย่าง “7 น้อยกว่า 6”
อย่าง “7 น้อยกว่า 6”
แต่การโฆษณาที่ดี คือการนำเสนอในสิ่งที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ และเห็นภาพได้อย่างชัดเจน..
อ้างอิง:
Tag:Subway