สรุปไตรมาสแรกของ “Ferrari” ยอดขายลดลงเพียง 1%

ไตรมาสแรกของปี 2020 นับเป็นด่านแรกของความท้าทายในหลายๆธุรกิจ
โดยมีโควิด-19 เป็นบททดสอบ

แรงกดดันทางเศรษฐกิจ กำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดิ่งลง
ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ ถูกประเมินว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19
ซึ่งยอดขายรถยนต์ของค่ายดังแต่ละค่ายในไตรมาสที่ 1 จะหายไปไม่ต่ำกว่า 20-50%

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤติ ที่ทำให้ค่ายรถต้องดับเครื่องยนต์ลง
Ferrari กลับแสดงให้เห็นผ่านผลประกอบการว่า เครื่องยนต์ตนยังแรงอยู่..

ไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2020
-Ferrari ส่งมอบรถยนต์ได้ 2,738 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5%

แบ่งเป็น ทวีปยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา 1,516 คัน (+25%)
ทวีปอเมริกา 750 คัน (+4%)
จีน, ฮ่องกง และไต้หวัน 37 คัน (-89%)
ประเทศแถบเอเชียที่เหลือ 435 คัน (+23%)

จีนได้รับผลกระทบหนัก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด และปิดเมืองก่อนใคร
ส่วนฮ่องกงก็มีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อ

-Ferrari กวาดรายได้ไป 32,763 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1%

โดยสัดส่วนรายได้มาจาก
รถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ 27,701 ล้านบาท (+7%)
เพิ่มขึ้น เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถรุ่น 88 Pista และ 488 Pista Spider เป็นหลัก
รวมถึงรุ่น F8 Tributo, Monza SP1 และ SP2

เครื่องยนต์ 1,160 ล้านบาท (-44%)
ลดลงเนื่องจาก Ferrari ได้ยุติสัญญาผลิตเครื่องยนต์ให้กับ Maserati

ค่าสปอนเซอร์, ขายสินค้า และแบรนด์ 3,129 ล้านบาท (-30%)
ลดลงเนื่องจากผลกระทบโควิด-19 ทำให้งานแข่งรถ FORMULA 1 และอีเวนต์ต่างๆถูกระงับไป
รวมถึงหน้าร้านขายสินค้าของ Ferrari ถูกปิดชั่วคราวตามนโยบายรัฐ

รายได้อื่นๆ 773 ล้านบาท (+14%)

สรุปแล้วไตรมาสนี้ Ferrari
มีกำไรจากการดำเนินงาน 7,734 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 5%
มีกำไรสุทธิ 5,836 ลดลงจากปีก่อน 8%

ปัจจุบัน Ferrari มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 961,400 ล้านบาท
ซึ่งมูลค่าใกล้เคียงกับบริษัท GM เจ้าของแบรนด์รถ Chevrolet ที่ 962,800 ล้านบาท
และใหญ่กว่า Ford Motor ที่มีมูลค่าบริษัท 626,200 ล้านบาท

อ้างอิง : https://corporate.ferrari.com/en/sound-core-business-growth-q1-2020-guidance-revised-reflect-present-constraints-and-uncertainties