เจาะเบื้องหลัง “โซดาสิงห์” เครื่องดื่มแบรนด์แรกของเอเชีย ที่จับมือกับ “Harley-Davidson” ปั้นบิ๊กแคมเปญ “ซ่าให้สุดทาง”
15 ต.ค. 2024
Collaboration Marketing หรือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่แบรนด์หรือองค์กรจับมือกัน เพื่อสร้างแคมเปญ สินค้า หรือบริการใหม่ ๆ
โดยใช้จุดแข็งและทรัพยากรของแต่ละฝ่ายมาสร้างผลิตภัณฑ์หรือประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการและความสนใจของกลุ่มลูกค้าทั้งสองฝ่าย ยังคงเป็นกลยุทธ์ยอดฮิตตลอดกาล
แต่หนึ่งในปัจจัยวัดความสำเร็จของการทำ Collaboration Marketing คือ ใครจะสร้างโมเมนต์ที่ทั้งว้าวและประทับใจได้มากกว่ากัน
แน่นอนว่าถ้าพูดถึงหนึ่งในแบรนด์ไทยที่มีแคมเปญ Collaboration เก๋ ๆ ต่อเนื่องทั้งปี แถมแต่ละแคมเปญยังชวนให้ว้าว จนผู้บริโภครอคอยทุกปี ว่าจะไปร่วมมือกับใคร หรือแบรนด์ใดเพื่อครีเอตสิ่งใหม่ ๆ ให้กับตลาดและผู้บริโภค ต้องนึกถึงแบรนด์โซดาสิงห์
โดยที่ผ่านมาโซดาสิงห์ได้ Collaboration กับหลายแบรนด์ดัง ที่มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานลงบนฉลากลิมิเต็ดอิดิชัน ซึ่งล้วนสร้างผลตอบรับเป็นอย่างดี อาทิ
โดยที่ผ่านมาโซดาสิงห์ได้ Collaboration กับหลายแบรนด์ดัง ที่มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานลงบนฉลากลิมิเต็ดอิดิชัน ซึ่งล้วนสร้างผลตอบรับเป็นอย่างดี อาทิ
- ALEX FACE ศิลปินไทยผู้สร้างผลงานกราฟฟิตี้ดังไกลทั่วโลก
- มิสเตอร์การ์ตูน (Mr.Cartoon) ศิลปินช่างสักระดับโลก เจ้าของลายสักที่มีเอกลักษณ์บนตัวศิลปินระดับโลกมากมาย
- S.V.S.S. และ Dry Clean Only แบรนด์แฟชั่นสตรีตอาร์ตสัญชาติไทย มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานลงบนฉลากลิมิเต็ดอิดิชัน ซึ่งล้วนสร้างผลตอบรับและความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
- มิสเตอร์การ์ตูน (Mr.Cartoon) ศิลปินช่างสักระดับโลก เจ้าของลายสักที่มีเอกลักษณ์บนตัวศิลปินระดับโลกมากมาย
- S.V.S.S. และ Dry Clean Only แบรนด์แฟชั่นสตรีตอาร์ตสัญชาติไทย มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานลงบนฉลากลิมิเต็ดอิดิชัน ซึ่งล้วนสร้างผลตอบรับและความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
ล่าสุด “โซดาสิงห์” ตอกย้ำแบรนด์โซดาซ่าตัวจริง อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ ด้วยการเป็นแบรนด์เครื่องดื่มแบรนด์แรกในเอเชีย
ที่จับมือกับ Harley-Davidson แบรนด์ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลก สัญชาติอเมริกัน
เปิดตัวแคมเปญ “ซ่าให้สุดทาง” เดินเครื่องกิจกรรมพิเศษแบบจัดเต็มจนถึงสิ้นปี
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมครั้งนี้โซดาสิงห์ ถึงมาจับมือกับ Harley-Davidson ?
เปิดตัวแคมเปญ “ซ่าให้สุดทาง” เดินเครื่องกิจกรรมพิเศษแบบจัดเต็มจนถึงสิ้นปี
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมครั้งนี้โซดาสิงห์ ถึงมาจับมือกับ Harley-Davidson ?
คุณธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด เฉลยว่า
เป้าหมายของแคมเปญนี้ คือ ต้องการนำจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์มารวมกัน เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่าง
เป้าหมายของแคมเปญนี้ คือ ต้องการนำจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์มารวมกัน เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่าง
ในฝ่ายของโซดาสิงห์ เป็นที่รู้กันว่า โดดเด่นเรื่อง “ความซ่า” และความมุ่งมั่นในการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภค พร้อมความแตกต่าง เห็นได้จากการที่โซดาสิงห์ เป็นแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย
ขณะที่ในฝ่าย Harley-Davidson ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับตำนานของโลก ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก เพราะมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน จึงครองใจผู้บริโภคหลากหลายกลุ่มในวงกว้าง
ดังนั้น เพื่อให้แคมเปญนี้ยิ่งใหญ่ สมกับที่โซดาสิงห์ เป็นแบรนด์เครื่องดื่มรายแรกของเอเชีย ที่ได้คอลแลบกับ “Harley-Davidson”
นอกจากจะออกฉลากลิมิเต็ดอิดิชัน “โซดาสิงห์ x Harley-Davidson” และของรางวัลพิเศษ ทั้ง Gift Set และเสื้อออฟฟิเชียลคอลเลกชันจำนวนจำกัด ที่ส่งตรงจาก Harley-Davidson สหรัฐอเมริกา
เพื่อส่งต่อความซ่า โซดาสิงห์ยังปูพรมจัดกิจกรรมในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่องจนถึงปลายปี
ผ่านกิจกรรมโรดโชว์ที่จะเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ต, พิษณุโลก, นครราชสีมา, เชียงใหม่
ผ่านกิจกรรมโรดโชว์ที่จะเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ต, พิษณุโลก, นครราชสีมา, เชียงใหม่
ก่อนจะปิดท้ายที่เชียงราย กับงาน Asia Harley Days(TM) ที่จะจัดคู่กับ คอนเสิร์ต Singha Soda Music Concert 2024 ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย
ความพิเศษของงาน Asia Harley Days(TM) ซึ่งถือเป็นการรวมตัวคนรักฮาร์ลีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย คือ จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่จังหวัดเชียงราย โดยโซดาสิงห์จะได้ร่วมเป็นเจ้าบ้านต้อนรับนักขับขี่จากหลากหลายประเทศทั่วเอเชีย
เห็นมุมมองจากฝ่ายโซดาสิงห์แล้ว ทีนี้มาดูมุมมองของแบรนด์ระดับโลกที่มาจับมือกับแบรนด์ไทยกันบ้าง
คุณ Mark O’Flaherty ผู้บริหารจาก Harley-Davidson, Asia Emerging Markets & India บอกว่า ที่ผ่านมา แบรนด์มีความตั้งใจที่จะทำกิจกรรมกับผู้ขับขี่ทั่วโลกอยู่แล้ว
ดังนั้น การมาร่วมมือกับโซดาสิงห์ในประเทศไทย จึงเป็นโอกาสที่ดี เพราะประเทศไทยเป็นตลาด ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสำคัญในเอเชีย
โดยเชื่อว่า แคมเปญ “ซ่าให้สุดทาง” นอกจากจะเป็นการเชื่อมต่อทางวัฒนธรรมแล้ว จะมอบความสนุกสนานและประสบการณ์ที่ดีไม่ใช่แค่เพียงผู้ขับขี่ในประเทศไทย แต่เป็นผู้ขับขี่ทั่วเอเชียที่จะได้มีโอกาสเข้าร่วมงานรวมตัวประจำปี Asia Harley Days(TM) ที่เชียงรายอีกด้วย
นับว่าเป็นอีกมูฟเมนต์การตลาดจากโซดาสิงห์ ที่วินทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายแบรนด์ และผู้บริโภคอย่างเรา ๆ เรียกได้ว่า โซดาสิงห์ยังคงท็อปฟอร์มในการสร้างสีสันในการ Collaboration ที่ครั้งนี้ยังคงกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ สมการรอคอย ตอกย้ำการเป็นเจ้าแห่งการ Collaboration อย่างแท้จริง