เจาะธุรกิจ CHICHA San Chen ชาที่ได้รางวัลเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาว ปักหมุดสาขาแรกในไทย 31 ต.ค. นี้

ถ้าพูดถึงสุดยอดอาหารที่เหล่านักชิมต้องไปลิ้มลองให้ได้
คงหนีไม่พ้นร้านอาหารที่ได้รับ Michelin Star โดยเฉพาะร้านที่ยิ่งได้ 3 ดาว ก็ยิ่งทำให้หลาย ๆ คนอยากไปลิ้มลองสักครั้งในชีวิต

รู้หรือไม่ ? ในวงการชา “CHICHA San Chen” (อ่านว่า ชิชา ซาน เชน) คือแบรนด์ชาพรีเมียมสัญชาติไต้หวันเพียงแบรนด์เดียวในโลก ที่ได้รับรางวัลการันตี ITI ติดต่อกันเป็นเวลา 6 ปีซ้อน หรือเทียบกับได้รับรางวัลมิชลิน 3 ดาว

ที่น่าสนใจคือ CHICHA San Chen กำลังจะเข้ามายกระดับวงการชานมในไทย
เตรียมปักหมุดใจกลางกรุงเทพฯ ณ ศูนย์การค้า centralwOrld ให้คนไทยได้ลิ้มลองในช่วงวันที่ 31 ตุลาคมนี้

แล้ว CHICHA San Chen ดีอย่างไร ?
ทำไมถึงเป็นแบรนด์ชาแบรนด์เดียวในโลก ที่ได้รับรางวัลเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาว ?

เมื่อพูดถึงไต้หวัน ภาพจำที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ในความคิดของหลายคนคือ ชานมไข่มุก
CHICHA San Chen เองก็นับว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ถือกำเนิดในเมืองไถจง ประเทศไต้หวัน ตั้งแต่ปี 1998 หรือกว่า 26 ปีแล้ว

โดยตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปีที่ผ่านมา CHICHA San Chen ได้ทำการศึกษาวิถีการดื่มชา พร้อมกับมีความมุ่งมั่นในการผลิตและพัฒนาคุณภาพชาให้ดีอยู่เสมอ

จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบัน CHICHA San Chen ได้ขยายสาขาไปหลายประเทศทั่วโลก
ไม่ว่าจะเป็น จีน, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, รัสเซีย, แคนาดา และสหรัฐอเมริกา

อย่างในสิงคโปร์และฮ่องกง CHICHA San Chen เรียกว่าเป็นจุดเช็กอินของนักท่องเที่ยวก็ว่าได้
เพราะแม้จะเข้าไปทำการตลาดได้เพียงเกือบ 5 ปี แต่ก็ขึ้นเป็นแบรนด์ชาอันดับ 1 และยังต้องต่อแถวรอนานกว่าครึ่งชั่วโมง สะท้อนถึงความต้องการที่ไม่ได้ลดน้อยลงเลย

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะชาของ CHICHA San Chen มีจุดขายเฉพาะ (Unique Selling Point) ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ทำให้ใคร ๆ ก็อยากลิ้มลอง ได้แก่

1. นวัตกรรม AI ในเครื่องสกัดชา Teapresso แบรนด์แรกของโลก

ถ้าพูดถึงเครื่องชงในวงการเครื่องดื่ม หลาย ๆ คนน่าจะรู้จัก เครื่องชงกาแฟอย่าง เอสเปรสโซ
รู้หรือไม่ ? สำหรับวงการชา CHICHA San Chen ก็มีนวัตกรรม “Teapresso” เครื่องชงที่ทางแบรนด์คิดค้น และถือลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว

โดย Teapresso เป็นเครื่องที่ทางแบรนด์ใช้สกัดชาแบบแก้วต่อแก้ว แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ในตลาดที่มักจะชงไว้ก่อนแล้ว เพื่อความรวดเร็วในการเสิร์ฟ

ที่น่าสนใจ Teapresso ยังมีนวัตกรรม AI ที่เข้ามาช่วยประมวลผล ทั้งคำนวณแรงดัน อุณหภูมิของน้ำ ด้วยพารามิเตอร์ที่มากกว่า 1,000 รายการ ซึ่งจะแปรผันตามประเภทของใบชา รสชาติ ท็อปปิง ระดับความหวาน และปริมาณน้ำแข็งที่ลูกค้าเลือก

ทำให้ชาของ CHICHA San Chen แต่ละแก้วออกมามีรสชาติสมบูรณ์แบบมากที่สุด

2. รสชาติแห่งความอร่อย

นับว่าเป็นครั้งแรกของวงการชา ที่ลูกค้าสามารถ Customization ชาแต่ละแก้วได้ด้วยตัวเอง ตามความชอบ

เริ่มตั้งแต่ใบชา ทางแบรนด์มีเบสชาที่นำเข้าจากไต้หวันให้เลือก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

- ชาสีอ่อน เป็นชาที่มีรสชาติอ่อน ให้ความสดชื่น เหมาะสำหรับทำชาผลไม้ มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ ชาเขียว มีกลิ่นมะลิเข้มข้น ให้รสหวาน, ชา Osmanthus Oolong หรือชาหอมหมื่นลี้ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์

และที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดคือ ชา High Mountain Pouchong เป็นชาธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์ ต้องปลูกบนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 1,000 เมตรขึ้นไป ซึ่งเอกลักษณ์ของตัวใบคือ มีกลิ่นหอมครีม และมีความหวานในตัว

- ชาเข้มหรือชาดำ เป็นชาที่มีรสชาติเข้มข้น เหมาะสำหรับชานม มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ ชาดำ, ชาดำแคสเซีย, ชาอูหลงตุ้งติ่ง เป็นชาคั่วเข้มที่มาพร้อมกลิ่นหอมของเตาถ่าน และมีรสชาติเข้มข้น

และชาที่หาได้เฉพาะ CHICHA San Chen เท่านั้นอย่าง ชาดำแคสเซีย เป็นการนำเมล็ดแคสเซียและชาดำมาคั่วให้เข้ากัน จนเกิดเป็นกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์

เมื่อเลือกชาได้แล้ว ต่อมาก็คือ เลือกรสชาติ
เช่น เสาวรสที่มีรสหวานอมเปรี้ยว มีรสชาติกลมกล่อมแบบ Signature ของทางแบรนด์ หรือจะเป็น มะนาวจากผิงตง ที่คงความสด ส่งตรงจากไต้หวัน

ตามด้วยการเลือกท็อปปิง
ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ “ไข่มุก” เป็นสูตรพิเศษของทางแบรนด์ ที่ทำสดใหม่ทุกวัน เป็นเวลา 90 นาที และต้มสดทุก 3 ชั่วโมง

ทำให้ได้ไข่มุกที่สมบูรณ์แบบ เมื่อบีบแล้ว ไข่มุกยังทำมุม 45 องศา ซึ่งสะท้อนว่า ไข่มุกมีความหนุบหนับ ทำให้เคี้ยวเพลินในทุก ๆ คำ

ปิดท้ายด้วยการเลือกระดับความหวาน และปริมาณน้ำแข็ง

จากขั้นตอนทั้งหมดนี้ หมายความว่า CHICHA San Chen เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์เครื่องดื่มนับพันคอมบิเนชันได้ด้วยตัวเอง..

3. การเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียม นำเข้าจากไต้หวัน 90%

เนื่องจาก CHICHA San Chen มุ่งมั่นในการส่งมอบชาที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า จึงเลือกใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียมจากไต้หวัน

ซึ่งถึงแม้จะเปิดในต่างประเทศ อย่างในไทย แต่กว่า 90% ล้วนเป็นวัตถุดิบที่นำเข้าจากไต้หวันด้วยเช่นกัน

อย่างในกรณีของใบชา CHICHA San Chen เลือกปลูกเอง โดยมีทั้งไร่ชาและโรงงานชา
ซึ่งชาแต่ละชนิด ทางแบรนด์ก็เลือกปลูกในระดับความสูงที่แตกต่างกัน เช่น ชา High Mountain Pouchong ที่ปลูกในความสูงระดับ 1,000 เมตรขึ้นไป และยังเก็บเกี่ยวชาในฤดูที่แตกต่างกัน

ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้ชามีคุณภาพและคงกลิ่นหอมเฉพาะตัวไว้ให้ได้มากที่สุด

4. การันตีด้วยรางวัลเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาว พร้อมมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

CHICHA San Chen นับว่าเป็นแบรนด์ชาแบรนด์เดียวในโลก ที่ได้รับรางวัลสูงสุดจาก International Taste Institute (ITI) หรือที่เทียบเท่ากับรางวัล “มิชลิน 3 ดาว” เป็นเวลา 6 ปีซ้อน

ซึ่งรางวัลนี้ก็ไม่ใช่รางวัลที่ได้มากันง่าย ๆ เพราะต้องผ่านการชิมจากกรรมการที่เป็นเชฟมิชลินกว่า 200 ชีวิต

นอกจากจะการันตีด้วยรางวัลแล้ว CHICHA San Chen ยังเป็นแบรนด์ที่เข้ามายกระดับวงการชาในไทย ด้วยการส่งมอบประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาที่ไหนในไทยได้ ผ่านโซน “Tea Testing Area”

โซนนี้เป็นโซนที่ให้ลูกค้าระหว่างที่รอออร์เดอร์ เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ชิมชาที่ได้ระดับมาตรฐานสากล ที่หาไม่ได้จากที่ไหนในประเทศไทยแบบฟรี ๆ

ยกตัวอย่างเช่น ชาอูหลงหลี่ซาน (Lishan Oolong Tea) ชาหายากและมีค่ามาก
เป็นชาที่ปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,000-2,200 เมตร มีสภาพเป็นหมอกหนา เป็นชาที่เก็บเกี่ยวได้ปีละ 2 ครั้ง เฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาวเท่านั้น

ด้วยความพรีเมียม ไม่เหมือนใคร และหาไม่ได้จากที่ไหน ทำให้หลาย ๆ คนเปรียบเทียบว่า CHICHA San Chen เป็น Hermès แห่งวงการชา..

5. ดีต่อสุขภาพ

นอกจากใบชาจาก CHICHA San Chen จะปลูกเอง โดยไม่ใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงแล้ว

เมื่อนำใบชามาสกัดผ่านเครื่อง Teapresso ของทางแบรนด์ที่มี AI ช่วยคำนวณความร้อนและความดันต่าง ๆ ทำให้ยังสามารถคงคุณประโยชน์จากใบชา และดึงคุณประโยชน์เหล่านั้นออกมา เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าได้อย่างดีที่สุด

ซึ่งคุณประโยชน์ของชาแต่ละชนิดก็แตกต่างกัน เช่น ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ, มีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือช่วยลดไขมัน เป็นต้น

ที่สำคัญทางแบรนด์บอกว่า แต่ละเมนูยังมีระดับน้ำตาลที่น้อยกว่าแบรนด์อื่น ๆ โดยที่ยังคงความเป็นชาที่หอมหวานละมุนได้อย่างดี

ทั้งหมดนี้คือ 5 จุดเด่นและความพรีเมียม ที่ทำให้ CHICHA San Chen แตกต่างจากแบรนด์ชาอื่น ๆ และกำลังจะเป็นแบรนด์ชาที่เข้ามายกระดับวงการชาของไทย

ซึ่งถ้าให้แนะนำ บอกเลยแบรนด์นี้มีชาเด็ด ๆ หลายเมนู เช่น

- Bubble Milk Tea

ชานมไข่มุกที่ปรุงสดใหม่ทุกวัน เป็นเวลา 90 นาที จนได้เนื้อสัมผัสนุ่ม เคี้ยวเพลิน
ส่วนตัวชาดำคัดสรรมาเป็นพิเศษ มีรสเข้มข้น กลมกล่อม เมื่อนำมาผสานกันจึงออกมาเป็นชานมสูตรพิเศษ Signature ของทางแบรนด์

- Honey Osmanthus Oolong Tea

ชาอูหลงหอมหมื่นลี้ ที่มีกลิ่นหอมของดอกหอมหมื่นลี้ ซึ่งผสมผสานอย่างลงตัวกับน้ำผึ้ง ทำให้เป็นเครื่องดื่มหอม ละมุน และสดชื่น

- Dong Ding Oolong Tea Latte

ชาอูหลงตุ้งติ่ง เป็นชา High Mountain ที่มีชื่อเสียงของไต้หวัน ซึ่งทางแบรนด์นำมาผ่านกระบวนการคั่วที่ซับซ้อนด้วยถ่าน ทำให้ได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ หอมฟุ้งทั่วทั้งปาก เมื่อนำมารวมกับนมสด จึงออกมาเป็นเมนูที่ Best Combination มากที่สุด

สุดท้ายนี้สำหรับใครที่อยากลอง CHICHA San Chen ต้องห้ามพลาดปักหมุดเช็กอินที่ centralwOrld ชั้น 5 Zone: Urban Balance วันที่ 31 ตุลาคมนี้..

#ChiChaSanChen #ChiChaSanChenBKK
#ChiChaSanChenTH
#ChiChaSanChenThailand