เหตุผลที่แนวคิด “ความสม่ำเสมอ เป็นของคุณ” กำลังทำให้ Hop Inn ก้าวสู่เบอร์หนึ่งธุรกิจโรงแรมบัดเจ็ท ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

“หากเคยพัก Hop Inn สัก 2-3 ครั้ง จะมั่นใจได้ว่าไปที่ไหน เมื่อไร จะได้รับมาตรฐานที่ดีแบบเดียวกัน” น่าจะเป็นความรู้สึกในใจของคนเคยพัก Hop Inn

ตรงนี้เอง ที่ทำให้ Hop Inn แบรนด์โรงแรมบัดเจ็ทสัญชาติไทย ที่มีกว่า 70 สาขา และมีจำนวนห้องพักรวมกว่า 7,000 ห้อง ใน 3 ประเทศ คือ ไทย, ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น มั่นใจเลือกเป็น Positioning ในการสื่อสารแนวคิดหลักของการทำธุรกิจที่มอบความสม่ำเสมอในคุณภาพให้แก่ลูกค้า เพื่อมุ่งสู่การเป็น เบอร์หนึ่งธุรกิจโรงแรมบัดเจ็ท ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

การนำภาพสะท้อนด้านบริการตลอด 10 ปี ที่นำมาสู่ คำว่า Consistency is Yours หรือ “ความสม่ำเสมอ เป็นของคุณ” ก็เพื่อต้องการสื่อสารว่า ไม่ว่าจะพัก Hop Inn ที่สาขาไหนก็จะได้คุณภาพอาคารและห้องพัก จนถึงบริการที่ดีเหมือนกันหมด ที่อยู่ในโหมด “ราคาที่เข้าถึงง่าย” 

ที่สำคัญแนวคิดนี้ถือเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของ Hop Inn เลยก็ว่าได้ เมื่อการแข่งขันในภาคธุรกิจโรงแรมบัดเจ็ท ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เลือกจะอยู่ในโหมดสงครามราคาอย่างสมบูรณ์แบบ จนอาจหลงลืมไปว่า ความคุ้มค่าที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เรื่องราคาอย่างเดียว แต่ยังหมายถึง “คุณภาพห้องพัก” 

คุณนลินี กฤษฎาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบริหารธุรกิจ โรงแรมฮ็อป อินน์ เล่าถึงเบื้องหลังการวาง Positioning ครั้งใหม่นี้ไว้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

โดยเธอบอกว่า Hop Inn นั้นแตกต่างจากเครือข่ายโรงแรมอื่น ๆ เพราะจากข้อมูลสำรวจพบว่าลูกค้าจำนวนมากที่เคยเข้าพัก 2-3 ครั้ง มักจะกลับมาใช้บริการซ้ำ ๆ

เพราะเขาจะมั่นใจว่าต่อให้พัก Hop Inn สาขาไหน จะได้ประสบการณ์ดี ๆ เหมือนกันหมด ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะไปเจอเหตุการณ์แย่ ๆ เพราะเราเซตพื้นฐานที่ดีของห้องพักทุกห้อง จนถึงส่วนกลางที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้พักให้มีมาตรฐานเดียวกันหมด

เรื่องนี้ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องยากเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับตลาดโรงแรมบัดเจ็ท ที่อาจมีข้อจำกัดในเรื่องการคุมงบประมาณและการดูแลสภาพของโรงแรม

แต่สำหรับ Hop Inn ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็น Core Value ในการทำธุรกิจ โดยบริษัทเป็นเจ้าของโรงแรมเองและบริหารโรงแรมด้วยทีมงานของตัวเองทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจว่า สามารถควบคุมมาตรฐานคุณภาพของทุกสาขาโรงแรม

ส่วนอีกหนึ่งจุดแข็งของ Hop Inn ที่ใช้แข่งขันในตลาดนี้ คือ “ความสะดวก” ไม่ว่าจะเป็น วิธีการจองที่ง่าย หาโรงแรมเจอง่าย ด้วยทำเลที่ดีในทุกสาขาที่เปิดให้บริการ

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ กลายเป็น “จุดขายที่แตกต่าง” ที่สร้างการเติบโตให้แก่ Hop Inn มาตลอดเวลา 10 ปี พร้อมกับมีลูกค้าเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีมากกว่า 2.5 ล้านคน ใน 3 ประเทศ

ขณะเดียวกันหลังการระบาดของโควิด 19 ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในหลาย ๆ ประเทศเอเชียกลับมาคึกคัก ทำให้ทาง Hop Inn ให้ Membership ใน 3 ประเทศ สามารถสะสม Point ที่สามารถใช้ข้ามประเทศกันได้ และเมื่อบวกกับพลัง Branding ของ Hop Inn ที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทมั่นใจตั้งเป้าในการลงทุน ขยายเครือข่ายโรงแรมเพิ่มอย่างน้อย 3 ประเทศใหม่ในเอเชียแปซิฟิก

คุณพิชานันท์ บุญพร้อมกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ โรงแรมฮ็อป อินน์ โดยจะดูแลเรื่องการลงทุนและขยายธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้เปิดเผย Big Move ครั้งใหม่ ที่จะพา Hop Inn โรงแรมบัดเจ็ทสัญชาติไทย ก้าวสู่เบอร์หนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายในปี 2030 

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา Hop Inn เติบโตทั้งจำนวนสาขาและจำนวนผู้เข้าพักอย่างต่อเนื่อง โดยต้นปีที่ผ่านมา เราได้เปิดสาขา Hop Inn ในประเทศญี่ปุ่น ครบ 4 สาขา ในโตเกียวและเกียวโต ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาดจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนไทย, ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวนานาชาติ รวมถึง Hop Inn ในประเทศฟิลิปปินส์ เปิดบริการครบ 10 สาขา ใน 3 เกาะหลัก กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่ทำให้ผลประกอบการครึ่งปีแรก EBITDA อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เลยทีเดียว

ปัจจุบันแบรนด์ Hop Inn เป็นของบริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 

และจากการเติบโตอย่างมั่นคงตลอด 10 ปีของ Hop Inn ทำให้ทางบริษัทได้วางแผนที่จะให้ บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด Spin-off ออกจากการเป็นบริษัทในเครือ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนจากบริษัท “จำกัด” มาเป็น “มหาชน” โดยเตรียมจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ 

โดยความเคลื่อนไหวล่าสุด Hop Inn ได้ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เพื่อให้บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการแยกส่วนบริหารงานออกมาจากบริษัทแม่ พร้อมกับวางแผนธุรกิจในการทำงานแต่ละปีอย่างชัดเจนเพื่อสร้างการเติบโต

ทั้งนี้คาดว่าทาง Hop Inn จะยื่นเรื่องเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในปี 2027 และดำเนินการเพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO ต่อไป

จึงไม่ต้องแปลกใจที่ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคตต่อจากนี้ เราจะเห็น Hop Inn พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานห้องพัก และบริการคุณภาพที่ลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะพัก Hop Inn สาขาไหน ก็จะได้รับเหมือนกันหมด

และถ้าเป็นแบบนี้ ก็น่าจะเห็นอีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่ก้าวสู่ระดับ Regional Brand หรือแบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จในตลาดเอเชียแปซิฟิก ได้ในอนาคต เป็นเป้าหมายที่ Hop Inn เชื่อว่าตัวเองจะทำได้และคงไม่ไกลเกินเอื้อม..

นอกจากที่กล่าวไปข้างต้น ฮ็อป อินน์ ก็ยังส่งแคมเปญเพื่อส่งเสริมการขายและฉลองครบรอบ 10 ปี ทั้งแคมเปญลุ้นทองและลุ้นบินลัดฟ้าสู่ประเทศญี่ปุ่นน และ แคมเปญส่งเสริมระบบสมาชิก เพียงสมัครสมาชิก https://www.hopinnhotel.com/sign-up-page รับฟรี 200 points ตั้งแต่ 15 ต.ค. - 15 พ.ย. 2024 เพื่อขยายฐานลูกค้าให้แข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย