เจาะลึกแนวคิด “โออาร์ โอกาสเพื่อสังคมสะอาด” รวมพลังคนไทยบิ๊กคลีนนิงสังคมให้น่าอยู่
6 ส.ค. 2024
“ใครกันนะที่ทำให้สังคมเราสะอาดขึ้นในทุก ๆ วัน ?”
คำถามที่เรียบง่าย แต่กลับหาคำตอบได้ไม่ง่าย
คำถามที่เรียบง่าย แต่กลับหาคำตอบได้ไม่ง่าย
เพราะพอเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับสังคม หลายคนมักมองว่าเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คนตัวเล็ก ๆ หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง จะทำได้สำเร็จ
อินไซต์นี้เอง ก็ตรงกับความเชื่อของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่มองว่า “สังคมสะอาด” ไม่ใช่แค่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง
แต่หัวใจหลักของความยั่งยืน คือการช่วยกันคนละไม้คนละมือ ในทุก ๆ วันต่างหาก
ดังนั้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในพลังที่ก่อให้เกิดการร่วมมือของคนในสังคมในปีนี้ OR จึงได้ขยายแนวคิดที่จะทำให้สิ่งที่อยู่รอบตัวทุกคนมีความ Green ด้วยการเปิดตัวโฆษณาในธีม “โออาร์ โอกาสเพื่อสังคมสะอาด”
ที่ต้องบอกว่า แค่เปิดประโยคแรกด้วยการตั้งคำถามว่า “ใครกันนะที่ทำให้สังคมเราสะอาดขึ้นในทุก ๆ วัน ?” ก็ทำเอาหลายคนสะดุด และอยากตามไปหาคำตอบ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของ OR ดูได้เลยที่นี่ https://youtu.be/2xM2vszkjp0
แต่ใครที่ดูแล้ว อาจจะคิดตรงกันว่า หนังโฆษณาชุดนี้ของ OR มีความน่าสนใจในหลายมุม โดยเฉพาะวิธีการนำเสนอ ที่เริ่มจากการตอบคำถามที่หลายคนอยากรู้ ผ่านมุมมองของบุคคลที่ 3 ที่มองเห็นว่า แม้คนเราจะมีไลฟ์สไตล์ ความชอบ บุคลิก ที่แตกต่างกันแค่ไหน แต่คนไทยทุกคนช่วยกันทำสิ่งดี ๆ ได้อีกมากมายในทุก ๆ วัน
คำตอบที่ชวนให้ใจฟูนี้ เหมือนเป็นการเปิดใจให้ทุกคนรู้ว่า จริง ๆ แล้วทุกคนก็มีโอกาส ช่วยทำให้สังคมสะอาดได้ไม่ยาก โดยโอกาสที่ว่า ก็อยู่รอบ ๆ ตัวคนไทย
อย่างในหนังโฆษณา ก็นำเรื่องราวความน่ารัก เรียบง่ายของลูกค้าที่แวะเวียนมาใช้บริการต่าง ๆ ของ OR ไม่ว่าจะเป็น PTT Station, Café Amazon หรืออุดหนุนสินค้าจากโครงการไทยเด็ด ก็เท่ากับว่าพวกเขาได้มีโอกาสช่วยกันคนละไม้คนละมือในการสร้างสังคมสะอาด
เพราะหนึ่งในหมุดหมายสำคัญในการทำธุรกิจของ OR ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ก็คือ การพัฒนาทุกธุรกิจให้ก้าวไปอีกขั้น โดยไม่ได้โฟกัสแค่ในเรื่องของคุณภาพ หรือความเชื่อมั่น แต่มุ่งเน้นที่ทำให้สังคมของคนไทยทุกคน “สะอาดขึ้น” ในทุก ๆ วัน
ด้วยแนวคิดที่ถูกนำไปใช้เป็นแก่นของทุก ๆ เครือข่ายธุรกิจและโครงการของ OR นี้เอง จึงนำไปสู่การขับเคลื่อนทั้งธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมชุมชนให้เดินหน้าไปพร้อมกัน
หนึ่งในปัญหาใหญ่ใกล้ตัว คือ มลภาวะทางอากาศ และ PM2.5 ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ชี้ชัดว่าคุณภาพอากาศของประเทศไทยย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ
ตั้งแต่เริ่มปี 2567 เป็นต้นมา มีรายงานการเผาตอซังข้าวและไฟป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนเหนือของไทย ก่อให้เกิดควันพิษ กระจายไปยังหลายพื้นที่ รวมถึงกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ยังพบว่าคนไทยกว่า 10.5 ล้านคน ป่วยด้วยโรคที่เชื่อมโยงกับมลพิษทางอากาศในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 116%
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาดังกล่าว OR ได้เดินหน้าโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนนำร่องในพื้นที่ภาคเหนือของไทย ทั้งจังหวัดน่าน เชียงใหม่ เชียงราย
เป้าหมายหลัก ๆ ก็เพื่อสนับสนุนเกษตรกรภาคเหนือให้หันมาปลูกกาแฟที่มีคุณภาพ พร้อมกับช่วยลดปัญหามลภาวะฝุ่น PM2.5 ให้กับประเทศไทย
ความน่าสนใจของโครงการนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของธุรกิจ Café Amazon จึงมีการลงพื้นที่ศึกษาปัญหาจริง จนพบว่า เดิมชาวบ้านในชุมชน ต.ท่าผา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เคยได้รับการส่งเสริมให้ปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิกากันเกือบทุกครัวเรือน
แต่ด้วยอุปสรรคด้านการเดินทาง ที่เข้าถึงหมู่บ้านได้ค่อนข้างลำบาก จึงไม่ค่อยมีพ่อค้าและตลาดเข้าไปรับซื้อผลผลิตในพื้นที่โดยตรง ต้องขายผ่านพ่อค้าคนกลาง จึงมักจะถูกกดราคา
ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงหันไปทำไร่ข้าวโพด ฟักทอง หอมแดง และข้าวไร่แทน จนเกิดการถางป่าในพื้นที่ป่าต้นน้ำเป็นจำนวนมาก แถมยังมีการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงอย่างรุนแรง เพื่อเร่งปริมาณผลผลิต ส่งผลต่อการสะสมของสารเคมีในดิน และตามมาด้วยปัญหาด้านสุขภาพของตัวเกษตรกร
พอเห็นปัญหาแบบนี้ ทาง OR โดย Café Amazon จึงเข้าไปพัฒนาโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การเข้าไปช่วยพัฒนาและสอนวิธีปลูกกาแฟ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ที่ยังขาดโอกาสในการพัฒนาทักษะความรู้ ได้มีองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ป่า ผ่านการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรให้ปลูกและผลิตกาแฟให้ได้ผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน
ที่สำคัญ ยังได้สนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยนำต้นแบบการปลูกกาแฟภายใต้ไม้ร่มเงา (ไม้เศรษฐกิจ) มาส่งเสริมในพื้นที่ ช่วยลดการเผาป่าทำไร่เลื่อนลอย ลดการใช้สารเคมียาฆ่าแมลง ทำให้ลดมลพิษต่าง ๆ ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น
พร้อมกันนี้ยังจัดตั้งโรงแปรรูปเมล็ดกาแฟ Café Amazon ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดรับซื้อผลผลิตเมล็ดกาแฟกะลาอะราบิกาในพื้นที่ภาคเหนือ จากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโดยตรงในราคาที่เป็นธรรม และเป็นสถานที่แปรรูปเป็นกาแฟสารที่มีคุณภาพ ก่อนที่จะจัดส่งให้โรงคั่วกาแฟ Café Amazon เพื่อคั่วและจำหน่ายไปยังร้าน Café Amazon ทั่วประเทศ
ที่สำคัญ ยังเป็นศูนย์พัฒนาทักษะความรู้ในการปลูก ผลิต และแปรรูปกาแฟให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย
นอกจากโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน OR ยังมีโครงการอื่น ๆ อาทิ
- EV Station PluZ ที่นอกจากจะเป็นการตอบโจทย์กระแสรถไฟฟ้าที่กำลังบูม
โจทย์ที่ใหญ่กว่าคือ การรองรับเมกะเทรนด์เรื่องพลังงานสะอาด OR จึงมุ่งมั่นขยายจุดชาร์จไปให้ไกล ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทั้ง 77 จังหวัด
โจทย์ที่ใหญ่กว่าคือ การรองรับเมกะเทรนด์เรื่องพลังงานสะอาด OR จึงมุ่งมั่นขยายจุดชาร์จไปให้ไกล ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทั้ง 77 จังหวัด
- การดื่มกาแฟใน Café Amazon นอกจากจะได้เพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ยังได้ช่วยรักษ์โลก เพราะด้วยหลักการคิดแบบ Circular Economy ทำให้ Café Amazon เป็นมากกว่าแค่ร้านกาแฟ แต่คือจุดศูนย์รวมของความ Green ที่กระจายตัวอยู่ในทุก ๆ พื้นที่
- โครงการไทยเด็ด อีกหนึ่งโครงการดี ๆ ที่นำสินค้าชุมชน ที่มุ่งเน้นความ Sustainability ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น มาต่อยอดเพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับชุมชน เช่น กระเป๋ากาบกล้วยตานี จ.ราชบุรี กล้วยตากไฮโซ จ.พิจิตร เป็นต้น
- โครงการ แยก แลก ยิ้ม ที่ชวนทุกคนมา ร่วมสร้างจิตสำนึกและสร้างพฤติกรรมในการแยกขยะให้กับผู้คนไม่พอ ยังขยายเป็นโอกาสนำรายได้จากการขายขยะเหล่านั้น มาสร้างรอยยิ้มให้ชุมชนอีกด้วย
โดยโอกาสที่อยู่รอบตัวนี้ รวมศูนย์อยู่ที่ PTT Station ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์รวมโครงการต่าง ๆ ที่ OR ลงมือทำ มารวมไว้ให้ใกล้ชิดกับคนไทยมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และยังใช้พลังงานบางส่วนจาก Solar Rooftop มาขับเคลื่อน PTT Station ให้เป็นต้นแบบแห่งความ Green อย่างยั่งยืน
ทั้งหมดนี้ ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OR ในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมร่วมกับคนไทยทุก ๆ คน ซึ่ง OR ถือเป็นบริษัทชั้นนำอันดับต้น ๆ ของไทยที่เริ่มขยับและปรับเปลี่ยนทิศทางอย่างจริงจัง
เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า OR เชื่อว่า พลังของคนไทยเท่านั้น ที่จะสร้างสังคมไทยให้สะอาดได้
ดังนั้น เพื่อเป็นหนึ่งในประตูแห่งโอกาสที่จะสร้างสังคมไทยให้สะอาด
OR จึงตั้งใจเดินหน้าธุรกิจและผลักดันโครงการต่าง ๆ ไปในทิศทางที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นไม่พอ ยังกระจายโครงการไปอยู่รอบตัวคนไทย ในทุกพื้นที่ของประเทศ เพื่อรวมพลังคนไทยทุกคน เพื่อสร้างสังคมที่สะอาดน่าอยู่
จากนี้ก็น่าติดตามว่า ความหวังที่จะสร้างสังคมให้สะอาด จะเป็นจริงได้เมื่อไแต่ที่แน่ ๆ วันนี้โอกาสของทุกคน ที่จะได้ร่วมสร้างสังคมสะอาด ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมี OR เป็นหนึ่งในการผลักดันโอกาสครั้งนี้ ให้เป็นโอกาสของพวกเราทุกคน