จากฝันที่เป็นจริง สู่ครัวคุณต๋อย
15 ก.ค. 2019
“ผมเชื่อว่าไม่มีเชฟคนไหนในโลก ที่ทำอาหารอร่อยได้ทุกเมนู ก็เลยเอาไอเดียไปเสนอสถานี”
“ซึ่งตอนที่เกิดครัวคุณต๋อย ก็มีคนบอกว่าผมไม่ได้เป็นพ่อครัวมาทำรายการได้ไง แต่เรามีลิ้นชิมได้ไงว่าอะไรอร่อย ไม่อร่อย”
นี่เป็นคำตอบของคุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ ถึงที่มาของครัวคุณต๋อย ที่เวลานี้กลายเป็นรายการที่สร้างรายได้หลักให้บริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอดท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของเขาเอง
เพราะปัจจุบันบริษัทแห่งนี้ผลิตอยู่ 2 รายการ ออกอากาศทางช่อง 3
ทูเดย์โชว์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 15.00 - 16.00 น
ครัวคุณต๋อย ออกอากาศทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ เวลา 13.15 - 13.45 น.
ใน 1 สัปดาห์ ครัวคุณต๋อยมีเวลาออนแอร์รวมเวลาโฆษณา 150 นาที ขณะที่ ทูเดย์โชว์ 60 นาที ซึ่งนั่นหมายความว่า ครัวคุณต๋อย อาจมีโอกาสหารายได้จากค่าโฆษณาที่มากกว่ารายการ ทูเดย์โชว์
แต่ใช่ว่า โมเดลธุรกิจ ครัวคุณต๋อย จะหารายได้แค่ค่าโฆษณาผ่านจอ TV อย่างเดียว แม้คุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ จะประกาศชัดเจนว่า ร้านอาหารต่างๆ ที่มาออกรายการเขานั้น ไม่มีการเรียกร้องเงินจากใครสักบาท
“เราทำไม่ได้ ถ้าคุณไม่อร่อยจริง ออกไปก็อายชาวบ้านเขา”
แล้วรายได้นอกจอ TV มาจากไหน ?
การจัดงาน Event "ครัวคุณต๋อย Expo" ที่สามารถเก็บค่าสถานที่ออกบูทของร้านอาหารและแบรนด์สินค้าที่เป็นผู้สนับสนุน โดยจัดขึ้นมาแล้วถึง 4 ครั้ง
การจัดทริป ครัวคุณต๋อย ออนทัวร์ ซึ่งพาลูกทัวร์ไปชิมร้านอาหารชื่อดังในแต่ละประเทศ
นิตยสารรายเดือน ครัวคุณต๋อย ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 แต่ล่าสุดได้ยุติการพิมพ์ในช่วงเดือน เมษายน ที่เพิ่งผ่านมา โดยเหตุผลที่คุณไตรภพ ให้ไว้น่าสนใจไม่น้อยก็คือ
“โลกมันเปลี่ยนไป คนไทยอ่านหนังสือเป็นเล่มน้อยลง”
“โลกมันเปลี่ยนไป คนไทยอ่านหนังสือเป็นเล่มน้อยลง”
เมื่อโลกแห่งความบันเทิงเปลี่ยนไป คนทำสื่อ TV ก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการทำธุรกิจที่ไม่ได้ยึดติดอยู่แค่ผลิต Content อยู่ในจอทีวีอีกต่อไป
ครัวคุณต๋อย จึงมีอาวุธทางออนไลน์ครบมือทั้ง Facebook, Line, YouTube และ Application ครัวคุณต๋อยที่ร่วมมือกับ LALAMOVE ซึ่งเราสามารถสั่งอาหารร้านดังๆ ผ่าน App นี้ได้เลย
ต้องบอกว่าสามารถปรับตัวได้ดีในยุคที่สื่อ TV กำลังถดถอย จนทำให้หลายบริษัททั้งผู้ผลิตรวมไปถึงสถานีทีวีหลายแห่ง ณ วันนี้ต่างขาดทุนเป็นจำนวนมาก
แล้วสถานการณ์ บริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอดท์ จำกัด ของคุณไตรภพ ณ เวลานี้ขาดทุนหรือกำไร ?
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า
ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 112 ล้านบาท กำไร 23 ล้านบาท
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 134 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 134 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท
ถึงจะกำไรน้อยลง แต่ก็ถือว่ายังทำได้ดี เพราะยังสามารถมีกำไรในยุคที่ธุรกิจทีวีอยู่ในช่วงขาลง
แต่...นั่นอาจไม่น่าสนใจเท่ากับเส้นทางชีวิตพิธีกรของคุณไตรภพ เพราะเชื่อหรือไม่ หากให้เรานั่งคิดในเวลานี้ ก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะมีใครที่ทำงานเป็นพิธีกรรายการทีวีในเมืองไทยได้นานถึง 37 ปีเทียบเท่าคุณไตรภพ ที่สามารถผ่านร้อนผ่านหนาวได้มาจนถึงทุกวันนี้
ปิดท้ายข้อมูลที่น่าสนใจ
ก่อนเข้าสู่ทำเนียบตำนานพิธีกรเมืองไทย คุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ ทำอาชีพทนายความ แล้วได้ไปออกรายการเกมโชว์ “ล้มเค้า” ทางช่อง 5 และ ไปฉายแววเตะตาผู้บริหารบริษัท เจเอสแอล จำกัด
ทำให้เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพพิธีกร โดยงานแรกคือรายการ พลิกล็อก ในปี พ.ศ. 2525 ทางช่อง 5
และ รายการของคุณไตรภพที่ทำให้ผู้ชมทั่วประเทศสามารถ “ยิ้มทั้งน้ำตา” และโด่งดังถึงขีดสุดก็คือ “ฝันที่เป็นจริง” ที่ออนแอร์ทางช่อง 3 ในช่วงปี พ.ศ. 2531 - พ.ศ. 2538
รายการนี้เป็นสารคดีกึ่งละคร และทอล์กโชว์ ที่นำเสนอละครสั้นจำลองชีวิตจริงที่ยากลำบากในช่วงแรก ส่วนช่วงหลังเป็นทอล์กโชว์คุยกับเจ้าของเรื่อง และจบรายการด้วยการมอบรถเข็นให้กับคนๆ นั้น