อธิบายศัพท์ใหม่ “สมองพ็อปคอร์น” สมาธิสั้นแบบคนสมัยนี้ โอกาสใหม่ ของนักการตลาด
6 ก.ค. 2024
เคยไหม ? ตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง แต่ดันมีสิ่งอื่น ๆ มารบกวน จนเสียความตั้งใจที่จะทำสิ่งก่อนหน้า
ยกตัวอย่างเช่น ตั้งใจจะทำงานให้เสร็จในช่วงเช้า แต่พอเปิดคอมพิวเตอร์กลับมีสิ่งอื่นมารบกวนมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น แจ้งเตือนให้อวยพรวันเกิดเพื่อนบน Facebook, แจ้งเตือน Flash Sale จากแอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซ หรือแม้กระทั่งแจ้งเตือนจากเพื่อนที่ตั้งวงคุยกันใน LINE
ไม่ว่าจะเป็น แจ้งเตือนให้อวยพรวันเกิดเพื่อนบน Facebook, แจ้งเตือน Flash Sale จากแอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซ หรือแม้กระทั่งแจ้งเตือนจากเพื่อนที่ตั้งวงคุยกันใน LINE
ทำให้เราสลับการใช้งานแอปพลิเคชันเหล่านี้ไปมา จนรู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไปหลายชั่วโมง โดยที่ลืมเรื่องทำงานไปเสียแล้ว..
หากใครที่เคยเป็นแบบนี้ แปลว่า อาจกำลังตกอยู่ในภาวะ “Popcorn Brain” หรือ สมองพ็อปคอร์น คำศัพท์ใหม่ที่เพิ่งถูกพูดถึงเมื่อไม่นานมานี้
แล้ว Popcorn Brain คืออะไร ? สมอง กับ พ็อปคอร์น เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมดังกล่าวอย่างไร ?
บทความนี้ MarketThink จะพาไปหาคำตอบ พร้อมถอดบทเรียนในมุมการตลาดกัน
บทความนี้ MarketThink จะพาไปหาคำตอบ พร้อมถอดบทเรียนในมุมการตลาดกัน
Popcorn Brain ถูกพูดถึงเป็นครั้งแรกในปี 2011 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้ว โดยคุณ David Levy นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน
ซึ่งให้นิยาม Popcorn Brain ไว้ว่าหมายถึง “ภาวะสมาธิสั้น” หรือการที่เราไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ ได้นาน โดยเกิดจากการที่สมองของเราถูกกระตุ้นด้วยเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ตาม ในอดีตคำว่า Popcorn Brain ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก อาจเพราะเมื่อก่อนยังไม่เกิดภาวะ Popcorn Brain มากหรือหนักเท่าทุกวันนี้
หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ในปี 2011 เพิ่งเป็นปีที่ iPhone 4S เปิดตัวเป็นครั้งแรก จึงอาจจะยังไม่มีอะไรมากระตุ้นความสนใจของผู้คนได้มากพอ
แต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Popcorn Brain เริ่มเป็นที่พูดถึงในนิตยสารและเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศมากขึ้น
เพราะในปัจจุบัน นอกจากจะมีสมาร์ตโฟนที่ถูกพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้นแล้ว
ยังมีแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่พร้อมจะกระตุ้นความสนใจ และขโมยเวลาในชีวิตประจำวัน จนทำให้เราตกอยู่ในภาวะ Popcorn Brain ได้ง่ายขึ้น
ยังมีแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่พร้อมจะกระตุ้นความสนใจ และขโมยเวลาในชีวิตประจำวัน จนทำให้เราตกอยู่ในภาวะ Popcorn Brain ได้ง่ายขึ้น
ซึ่งวิธีกระตุ้นความสนใจของเรา จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น
- การที่แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันต่าง ๆ พร้อมใจกันยิง Notification ทั้งเสนอสินค้าใหม่ อัปเดตเรื่องราวใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นความสนใจจากเราตลอดเวลา
- แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่พัฒนาหน้าฟีดแบบ “Infinite Scrolls” หรือก็คือ หน้าฟีดที่เลื่อนเท่าไรก็ไม่เจอจุดสิ้นสุด แถมเมื่อรีเฟรชหน้าฟีด ก็มักจะเจอแต่คอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่อัลกอริทึมคัดมาให้แบบถูกใจเรา
ซึ่งการที่เราถูกกระตุ้นด้วยแพลตฟอร์มต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ทำให้เราติดอยู่ในวังวนแห่งการสลับการใช้งานแอปพลิเคชันเหล่านี้ไปมา ทำให้ความคิด ความสนใจของเรากระจัดกระจาย
จนท้ายที่สุด ทำให้เราไม่สามารถโฟกัสในสิ่งที่ต้องการจะทำได้
จนท้ายที่สุด ทำให้เราไม่สามารถโฟกัสในสิ่งที่ต้องการจะทำได้
จุดนี้เองที่ ความคิด ความสนใจของเรากระจัดกระจาย ก็เปรียบเสมือนกับ เมล็ดข้าวโพด ที่กำลังถูกกระตุ้นด้วยความร้อน จนแตกออกทีละเม็ด ๆ กลายเป็นพ็อปคอร์น อย่างรวดเร็วและกระจัดกระจาย
จึงกลายเป็นที่มาของการเรียกภาวะนี้ว่า “Popcorn Brain” นั่นเอง..
ซึ่งถ้าถามว่า แพลตฟอร์มต่าง ๆ กระตุ้นความสนใจของเรา และทำให้เกิด Popcorn Brain หนักขึ้นแค่ไหน ?
คุณ Gloria Mark นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ได้ทำการวิจัยเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี
เพื่อเปรียบเทียบว่า เมื่อคนเราอยู่กับหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน เราจะจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น ๆ นานแค่ไหน
เพื่อเปรียบเทียบว่า เมื่อคนเราอยู่กับหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน เราจะจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น ๆ นานแค่ไหน
ผลการวิจัยปรากฏว่า
ในปี 2004 พบว่า ผู้คนใช้เวลาอยู่กับหน้าจอ เฉลี่ย 2.5 นาที
แต่ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ผู้คนใช้เวลาอยู่กับหน้าจอ เฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 47 วินาที
ในปี 2004 พบว่า ผู้คนใช้เวลาอยู่กับหน้าจอ เฉลี่ย 2.5 นาที
แต่ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ผู้คนใช้เวลาอยู่กับหน้าจอ เฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 47 วินาที
หมายความว่า ในปัจจุบัน ผู้คนใช้เวลาในการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งสั้นลง
เช่น ไถฟีด Facebook ได้เพียงแป๊บเดียว ก็เปลี่ยนไปเลื่อนดูสตอรี IG จากนั้นเพียงแป๊บเดียวก็เปลี่ยนไปเล่นแอปพลิเคชันอื่นแทน
เช่น ไถฟีด Facebook ได้เพียงแป๊บเดียว ก็เปลี่ยนไปเลื่อนดูสตอรี IG จากนั้นเพียงแป๊บเดียวก็เปลี่ยนไปเล่นแอปพลิเคชันอื่นแทน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าหลายคนจะมีสมาธิจดจ่อสั้นลง
แต่โดยรวมแล้ว ข้อมูลจาก DataReportal ระบุว่า คนทั่วโลกก็ยังถูกสมาร์ตโฟน หรือคอมพิวเตอร์ ดึงดูดเวลาในชีวิตประจำวันไป เฉลี่ย 6 ชั่วโมง 35 นาทีต่อวัน อยู่ดี..
แต่โดยรวมแล้ว ข้อมูลจาก DataReportal ระบุว่า คนทั่วโลกก็ยังถูกสมาร์ตโฟน หรือคอมพิวเตอร์ ดึงดูดเวลาในชีวิตประจำวันไป เฉลี่ย 6 ชั่วโมง 35 นาทีต่อวัน อยู่ดี..
ทีนี้หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วทำไมถึงเป็น Popcorn Brain กันมากขึ้น ?
ต้องอธิบายก่อนว่า โดยปกติแล้วสมองของเราจะมีวงจรการให้รางวัลตัวเอง (Brain Reward Circuit)
หมายถึง การที่เรารู้สึกพึงพอใจหรือมีความสุข เมื่อได้รับสิ่งกระตุ้น จึงทำให้เกิดความต้องการในการได้รับสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นซ้ำ ๆ
อย่างที่รู้กันว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ต่างก็มีอัลกอริทึมหรือมีวิธีที่จะเสิร์ฟคอนเทนต์ เสิร์ฟโปรโมชันให้ตรงใจเรามากขึ้น
ซึ่งเมื่อแพลตฟอร์มเหล่านี้ กระตุ้นเราด้วยการยิง Notification หรือการที่เราเข้าแอปพลิเคชันไปแล้วเจอคอนเทนต์ที่ถูกใจ ก็จะทำให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟินและโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข และรู้สึกดี
เมื่อเป็นแบบนี้ สมองของเราเลยเรียนรู้ว่า การได้รับ Notification ใหม่ ๆ หรือการใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้มีความสุข
จึงกลายเป็นวงจรความเสพติด ที่ทำให้เราอยากทำสิ่งเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ นั่นเอง..
อย่างไรก็ตาม หากใครที่เกิดภาวะ Popcorn Brain ในระยะยาว ก็อาจส่งผลเสียในหลาย ๆ ด้าน
นอกจากสมาธิที่ลดลง เช่น ประสิทธิภาพการทำงานลดลง มีความเครียดเพิ่มขึ้น มีความเหนื่อยล้า เพราะสมองต้องทำงานหนักในการสลับความสนใจไปมา
แต่ถ้าในเมื่อพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ๆ กำลังเป็นแบบนี้
แล้วนักการตลาดจะคว้าโอกาสจากยุค Popcorn Brain ได้อย่างไร ?
แล้วนักการตลาดจะคว้าโอกาสจากยุค Popcorn Brain ได้อย่างไร ?
- คอนเทนต์ย่อยง่าย เช่น วิดีโอสั้น Reels
หากแบรนด์คิดจะทำการตลาดด้วยคอนเทนต์ (Content Marketing) ก็ควรเลือกทำคอนเทนต์ที่ย่อยง่าย สั้น กระชับ เช่น วิดีโอสั้นอย่าง Reels หรือ Shorts ที่ความยาวไม่เกิน 60-90 วินาที
เพื่อตอบสนองความสนใจของลูกค้าที่มีสมาธิจดจ่อต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งสั้นลง
- การตลาดที่สร้างความสุขให้ลูกค้าได้แบบเร่งด่วน (Instant Gratification)
ยกตัวอย่าง การยิง Notification หรือยิง LINE Ads เพื่อเสนอโปรโมชัน เช่น ส่วนลด, Flash Sale ที่กำลังจัดอยู่ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจภายในไม่กี่วินาที
- การเพิ่มช่องทางการสื่อสาร และช่องทางการขายแบบ Multi-Channel
เพราะลูกค้าในยุค Popcorn Brain ไม่ได้ใช้งานแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ แค่ช่องทางเดียว แต่จะมีพฤติกรรมสลับการใช้งานแอปพลิเคชันไปมา
แบรนด์จึงควรมีช่องทางการสื่อสาร หรือช่องทางการขายที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มโอกาสและให้เข้าถึงลูกค้าได้ในทุก ๆ ช่องทาง
ทั้งหมดนี้คือ Popcorn Brain ภาวะสมาธิสั้น หรือการที่เราไม่สามารถจดจ่อกับอะไรได้นาน ๆ ในยุคดิจิทัล
โดยพฤติกรรมที่พบเห็นได้บ่อย ๆ เช่น การสลับการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ไปมา, การหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาดูทุก ๆ ไม่กี่นาที เพื่อส่องแจ้งเตือน หรือไถดูอะไรใหม่ ๆ ในหน้าฟีด
ซึ่ง Popcorn Brain กำลังเป็นภาวะที่หลาย ๆ คนเป็นโดยไม่รู้ตัว..
อ้างอิง:
-https://www.forbes.com/sites/traversmark/2024/04/04/a-psychologist-explains-the-rise-of-popcorn-brain/
-https://nypost.com/2024/02/18/lifestyle/popcorn-brain-explained-how-social-media-can-ruin-attention-spans/
-https://www.glamourmagazine.co.uk/article/popcorn-brain
-https://datareportal.com/global-digital-overview
-https://www.popsugar.com/health/popcorn-brain-49360469
-https://redcliffelabs.com/myhealth/news/popcorn-brain-how-being-always-online-is-sabotaging-your-focus-and-how-to-take-back-control/
-https://www.forbes.com/sites/traversmark/2024/04/04/a-psychologist-explains-the-rise-of-popcorn-brain/
-https://nypost.com/2024/02/18/lifestyle/popcorn-brain-explained-how-social-media-can-ruin-attention-spans/
-https://www.glamourmagazine.co.uk/article/popcorn-brain
-https://datareportal.com/global-digital-overview
-https://www.popsugar.com/health/popcorn-brain-49360469
-https://redcliffelabs.com/myhealth/news/popcorn-brain-how-being-always-online-is-sabotaging-your-focus-and-how-to-take-back-control/