เจาะลึก “Melts” อาวุธลับ พิซซ่าฮัท ตอบโจทย์อินไซต์ สังคมอิ่มเดี่ยว อร่อยละลายด้วย 3 รสชาติใหม่

หากพูดถึงพิซซ่า ในอดีตคงเป็นเมนูที่ต้องทานร่วมกันเป็นกลุ่ม เพื่อความอิ่มคุ้ม
แต่รู้หรือไม่ ? ปัจจุบันกำลังมีเทรนด์แบบใหม่ที่เรียกว่า “Individual Meal” หรือเทรนด์อิ่มเดี่ยวด้วยการทานคนเดียว ก็มาแรงไม่แพ้กัน

เรื่องนี้จึงกลายเป็นไอเดียให้ Pizza Hut ฉีกกฎพิซซ่าถาดกลม ๆ ที่ต้องทานหลายคน ด้วยการออกอาวุธลับอย่าง “เมลทส์ (Melts)” เมนูที่ปฏิวัติวงการพิซซ่า ด้วยการตอบโจทย์อินไซต์การทานคนเดียวได้แบบอิ่มอร่อย

ซึ่งหลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้รับเสียงตอบรับจากคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z เป็นอย่างดี

สร้างยอดขายถล่มทลายกว่า 1,000,000 ชิ้น

ล่าสุด Pizza Hut นำ Melts เมนูขายดีกลับมาอีกครั้ง แต่กลับมาทั้งที จะให้มีหน้าตาเหมือนเดิมก็คงไม่ได้.. คราวนี้เลยเล่นใหญ่ กลับมาพร้อมกับ “3 รสชาติใหม่” ใน 3 สไตล์ที่อร่อยละลายมากกว่าเดิม

แล้ว Melts 3 รสชาติใหม่ จาก Pizza Hut จะอร่อยละลายกว่าเดิมแค่ไหน ?
และเป็นเมนูที่ตอบโจทย์สังคมอิ่มเดี่ยวได้อย่างไร ?

Melts คือพิซซ่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งดัดแปลงมาจากพิซซ่าแบบดั้งเดิม
ด้วยหน้าตาที่โดดเด่น อย่างการเป็นพิซซ่า “สามเหลี่ยม”
ด้านในสอดไส้ด้วยเครื่องและชีสเยิ้ม ๆ แทนการวางไว้ด้านบน

แม้ว่าหน้าตาอาจจะเปลี่ยนแปลง แต่ต้องบอกว่า องค์ประกอบอื่น ๆ ถูกต้องตามหลักพิซซ่าเหมือนเดิมทุกประการ ไม่ว่าจะเป็น

- แป้งกรอบ มีความ Crispy ที่ทำถึงมากกว่าพิซซ่าทั่ว ๆ ไป
- ไส้ล้นทะลัก ด้วยเครื่องเยอะจุใจในทุกคำที่กัด
- ปิดท้ายด้วย ชีสเยิ้ม ๆ ยืดละลาย หอมอร่อย ฟินแบบเต็มคำ

อย่างที่เล่าไปว่า กลับมาทั้งที Pizza Hut ต้องเล่นใหญ่ให้ถูกใจคนรุ่นใหม่มากกว่าเดิม จึงเป็นที่มาของ 3 รสชาติใหม่ ได้แก่

1. เมลทส์ โคตรชีสสส สไตล์อเมริกัน

ย้อนกลับไปปีที่แล้ว หนึ่งในเมนู Melts ที่ขายดีที่สุดคือ “9Cheese Pizza” เมนูที่จัดเต็มด้วยชีส 9 อย่าง จึงถูกใจคนไทยสายชีสเลิฟเวอร์แบบสุด ๆ

กลับมาคราวนี้ Pizza Hut ต่อยอดความสำเร็จด้วยเมนูใหม่ “เมลทส์ โคตรชีสสส” ที่เอาใจสายชีสเลิฟเวอร์มากกว่าที่เคย ด้วยการใส่เต็ม “ชีส 5 ชนิด” ซึ่งเป็นชีสตัวเด่นตัวดังจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น

ชีสที่ให้ความหอม นุ่มละมุนลิ้น
- มอสซาเรลล่าชีส ชีสนำเข้าจากนิวซีแลนด์ ให้สัมผัสนุ่มละมุน มาพร้อมความยืด
- ฮอกไกโดชีส ชีสขึ้นชื่อจากทางเหนือของญี่ปุ่น เพิ่มความหอมของนมแบบชัดเจน

ชีสที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อย มัน นัว
- พาร์เมซานชีส ชีสที่ช่วยเพิ่มรสชาติเค็ม และสัมผัสมัน ๆ เพิ่มความอร่อยนัว
- ครีมชีส ชีสเนื้อนุ่ม ที่โดดเด่นเรื่องการให้ความมัน

ปิดท้ายด้วยชีสจากออสเตรเลียอย่าง เกาดาร์ชีส ที่มาเป็นชีสกรอบที่โรยอยู่ด้านบนของ Melts เป็นตัวช่วยเพิ่มสัมผัสให้ได้เคี้ยวได้แบบเพลิน ๆ

เมื่อใครได้ลองทานเมนูนี้คู่กับซอสมะเขือเทศ ก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไส้ล้นด้วย ชีสยืดเยิ้ม ละลายในปาก สมกับชื่อเมนู โคตรชีสสส”

2. เมลทส์ แคลิฟอร์เนีย มากิ สไตล์ญี่ปุ่น

ไม่บอกหลายคนก็คงรู้ว่า คนไทยชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นมากแค่ไหน เมื่อเป็นแบบนี้ Pizza Hut ก็ไม่ปล่อยโอกาส หยิบอินไซต์นี้มาพัฒนาต่อยอดความสำเร็จจาก “พิซซี่ซูชะ” สู่ “เมลทส์ แคลิฟอร์เนีย มากิ”

โดย เมลทส์ แคลิฟอร์เนีย มากิ อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ไข่หวาน, แตงกวา, ข้าวญี่ปุ่น, กุ้งเอบิ, สาหร่าย พร้อมโรยหน้าด้วยไข่กุ้ง ทานคู่กับซอสโชยุวาซาบิ

ซึ่งนอกจากจะจัดเต็มด้วยความเป็นญี่ปุ่นแล้ว เมนูนี้ยังเข้ากันได้ดีกับแป้งกรอบ ๆ พร้อมชีสที่ใส่มาเยิ้ม ๆ ไม่ทิ้งความเป็นพิซซ่าให้จางหายไป

จึงทำให้เมนูนี้เป็นเมนู East Meets West หรือผสมผสานระหว่างตะวันตกเข้ากับตะวันออกได้อย่างลงตัว

3. เมลทส์ ลาซานญ่า สไตล์อิตาลี

นอกจากพิซซ่าที่เป็นอาหารขึ้นชื่อจากอิตาลีแล้ว ก็ยังมี “ลาซานญ่า” ที่โด่งดังไม่แพ้กัน กลับมาครั้งนี้ Pizza Hut จึงจับ ลาซานญ่า มามิกซ์รวมกับ พิซซ่า ออกมาเป็น “เมลทส์ ลาซานญ่า” ที่เหมือนได้ทานเมนู 2 in 1

โดยเมลทส์ ลาซานญ่า ยังคงความเป็นลาซานญ่าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ซอสที่มีความเข้มข้น สลับกับชั้นชีสเยิ้ม ๆ ปิดท้ายด้วยซอสคาร์โบนาราเข้มข้นอีกที

เพียงแค่นี้ ทุกคนก็จะได้ลิ้มรสราวกับ ลาซานญ่าและพิซซ่าแท้ ๆ จากอิตาลีเลยทีเดียว..

นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ ต้องบอกว่า Melts ยังมีเคล็ดลับความอร่อยซ่อนอยู่อีกมากมาย

หนึ่งในนั้นก็คือ การเป็นเมนูอิ่มคุ้มที่ “ซื้อ 1 ชิ้น ได้ถึง 2 ชิ้น” โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 169 บาท
ซึ่งนอกจากจะมีพิซซ่าให้อิ่มอร่อยแล้ว ยังเสิร์ฟพร้อมดิปปิ้งซอส ช่วยดับเบิลความอร่อยขึ้นไปอีกขั้น

และอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งคงไม่แปลกใจหากใคร ๆ จะบอกว่า Melts เป็น “อาวุธลับ” ที่จะเข้ามาปฏิวัติวงการพิซซ่า ด้วยเหตุผลสำคัญอย่าง “การตอบโจทย์สังคมอิ่มเดี่ยว”

หลัก ๆ ก็เพราะ พิซซ่าแบบถาดกลมที่เราคุ้นเคยกัน อาจจะไม่ได้เหมาะกับการทานทุกวัน
ประกอบกับปัจจุบัน เราอยู่ในยุคสังคมเร่งรีบ ที่ทุกคนต้องรีบทำสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น รีบทาน รีบเดินทาง

ด้วยความที่ Pizza Hut เข้าใจอินไซต์ของลูกค้าในจุดนี้ จึงกลายเป็นที่มาของ Melts พิซซ่ารูปแบบใหม่ ที่ทานได้ง่าย ๆ อิ่มอร่อยได้ด้วยตัวคนเดียว

ที่สำคัญ Melts ยังเสิร์ฟด้วย รสชาติอร่อยและชีสเยิ้ม ๆ ที่ถูกใจวัยรุ่น จึงทำให้เป็นเมนูที่ทานได้ทุกวัน สู่การเป็น “มื้อหลัก” อย่างเมนูอาหารกลางวัน หรือเมนูอาหารเย็น ที่ทานได้ง่าย ๆ ท่ามกลางช่วงเวลาแห่งความเร่งรีบนั่นเอง

ซึ่งถ้าลองวิเคราะห์กลยุทธ์เมนู Melts ของ Pizza Hut การที่มาพร้อมกับความอร่อยและทานง่ายแบบนี้

ในฝั่งของลูกค้า ก็ทำให้อยากกลับมาทาน Melts ในทุก ๆ วัน จนกลายเป็น Loyal Customer หรือลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์

ซึ่งการที่ลูกค้าอยากกลับมาซื้อบ่อย ๆ หรือเรียกว่ามี Frequency สูง
เรื่องนี้ก็เป็นประโยชน์ต่อ Pizza Hut โดย Melts จะเปรียบเสมือน “อาวุธลับ” ที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทมากขึ้น และทำให้ลูกค้าอยากเข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งแค่โปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว..

สุดท้ายนี้ MarketThink ลองวิเคราะห์กลยุทธ์ที่น่าสนใจอีกข้ออย่าง ชื่อเมนู Melts ที่แปลว่า “ละลาย”

นอกจากจะหมายถึง ชีสเยิ้ม ๆ จนทะลัก มาพร้อมความหอมแบบเต็มขั้น ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมนูนี้แล้ว คำว่า Melts ยังสะท้อนไปถึงตัวลูกค้า ที่เมื่อได้ทานเมนูนี้ ก็อร่อยจนละลายพฤติกรรม ถึงกับเสียอาการจนลืมสิ่งรอบตัวไปเลย..

มาถึงตรงนี้ ทุกคนคงรู้จัก Melts กันมากขึ้นแล้ว
แต่นอกเหนือจากรายละเอียดที่เล่ามานี้ ใครที่อยากรู้แล้วว่า Melts จะอร่อยละลายสมชื่อมากแค่ไหน

สามารถสั่งซื้อ Melts ทั้ง เมลทส์ โคตรชีสสส, เมลทส์ แคลิฟอร์เนีย มากิ และ เมลทส์ ลาซานญ่า ได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ผ่านช่องทางง่าย ๆ ทั้ง เว็บไซต์ Pizza Hut, แอปพลิเคชัน Pizza Hut, ช่องทางดิลิเวอรี่ 1150 ทั่วประเทศ และ ที่หน้าร้าน Pizza Hut ทุกสาขา