ถอดกลยุทธ์ “More Than Cinema” เบื้องหลังความสำเร็จที่เป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เดินเกมรุก 2 ธุรกิจใหม่

หากบอกว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กำลังจะเป็นมากกว่า “โรงภาพยนตร์”

ในอดีตหลายคนคงนึกไม่ออกว่า โรงภาพยนตร์จะเป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ได้อย่างไร
แต่มาถึงวันนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้พิสูจน์ความสำเร็จให้เห็นแล้ว..

รู้หรือไม่ ? เมื่อปีที่แล้ว เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จัดฉายคอนเสิร์ตในโรงภาพยนตร์
ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ต BTS, IU, Taylor Swift, NCT, BEYONCÉ หรือแม้แต่การนำ The First Slam Dunk แอนิเมชันชื่อดังจากญี่ปุ่นมาฉาย

ซึ่งช่วยดึงดูดแฟน ๆ ให้แวะเวียนเข้ามารับชมรวมกันมากกว่า 100,000 คนเลยทีเดียว..

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดโรงภาพยนตร์ ให้เป็นพื้นที่จัดอีเวนต์ ทั้งงานเปิดตัวสินค้า เปิดตัวโครงการใหม่ หรือจัดงานเสวนาต่าง ๆ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

เบื้องหลังความสำเร็จที่ว่านี้คือ กลยุทธ์ที่มีชื่อว่า “More than Cinema”

แล้วกลยุทธ์นี้ ช่วยสร้างการเติบโตให้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จนเป็นมากกว่า โรงภาพยนตร์ ได้อย่างไร ?

ช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ยกตัวอย่างเช่น สัปเหร่อ กวาดเงินไปถึง 700 ล้านบาท และธี่หยด สร้างรายได้ไปมากถึง 500 ล้านบาท

ส่งผลให้ผลประกอบการของ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ปี 2566 เติบโตขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

รายได้ 8,551 ล้านบาท เติบโต 34%
กำไร 1,042 ล้านบาท เติบโต 313% 

นอกเหนือจากธุรกิจการฉายภาพยนตร์ ที่ทำให้ธุรกิจเติบโตแล้ว
ยังมีอีก “2 ธุรกิจใหม่” ที่ทำให้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มีผลประกอบการดีขึ้น
รวมถึงยังเป็น Vision & Mission หลัก ในการดำเนินธุรกิจในปี 2567 นี้ด้วย ได้แก่

1. Alternative Content Business

ธุรกิจนี้คือ การนำคอนเทนต์ประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาพยนตร์ มาฉายในโรงภาพยนตร์
ซึ่งคอนเทนต์ประเภทนี้เรียกว่า “Alternative Content” แบ่งออกเป็น

   1. Animation ภาพยนตร์ในรูปแบบแอนิเมชั่น เช่น Slamdunk, Resident Evil 

   2. Concert K-Pop และ International คอนเสิร์ตจากเกาหลี และจากต่างประเทศ เช่น BTS, Taylor Swift, Beyoncé, Billie Eilish

   3. Live Streaming Musical Show ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตจากต่างประเทศ เช่น Metallica, TXT Sweet Mirage, Boy George  

   4. Live Viewing Event ถ่ายทอดสดกีฬา และงานประกาศรางวัลระดับโลก ร่วมกับ True Visions เช่น Superbowl, NBA, FA Cup, Oscars

ที่น่าสนใจ Alternative Content ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรไปยังนานาประเทศ ทั้งอังกฤษ, ฝรั่งเศส, แคนาดา (IMAX), ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และสิงคโปร์

ทำให้มั่นใจได้ว่า แฟน ๆ จะได้รับคอนเทนต์หลากหลาย และแตกต่างจากที่อื่น ๆ

อย่างไฮไลต์ในปีนี้ ทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ก็บอกว่า จะมี Alternative Content ทั้ง Anime และ K-Pop ซึ่งจะเป็นคอนเทนต์ “สุดเอกซ์คลูซีฟ” ที่ฉายเฉพาะเครือเมเจอร์ฯ เท่านั้น

ต้องบอกว่า ธุรกิจนี้ได้กระแสตอบรับจากคนรุ่นใหม่ Gen Z ทั้งนักเรียนและนักศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบศิลปิน K-Pop เป็นอย่างดี
สะท้อนได้จากการที่แฟน ๆ พากันเหมารอบเพื่อชมศิลปินที่ชื่นชอบร่วมกัน

หรืออย่างกรณี TAYLOR SWIFT THE ERAS TOUR Concert Film ที่เครือเมเจอร์ฯ จัดฉายมากกว่า 1,000 รอบ ซึ่งแฟน ๆ สวิฟตี้ไทยก็ให้การตอบรับแน่นโรงฯ เลยทีเดียว..

งานนี้ นอกจากแฟน ๆ จะได้รับชมคอนเสิร์ต หรืองานต่าง ๆ แบบใจฟูแล้ว
ด้วยโรงภาพยนตร์ระบบพิเศษที่มีเฉพาะของเครือเมเจอร์ฯ ไม่ว่าจะเป็น IMAX with Laser จอยักษ์ เสียงกระหึ่ม รอบทิศทาง หรือ ScreenX ระบบฉายแบบ 3 จอ 3 ทิศทาง ให้ภาพกว้างถึง 270 องศา

ทำให้แฟน ๆ ได้รับประสบการณ์สุดพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน ราวกับนั่งชมคอนเสิร์ต และงานต่าง ๆ แบบติดขอบเวทีจริง ๆ

ด้วยความสำเร็จขนาดนี้ จึงทำให้รายได้ธุรกิจ Alternative Content ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ในปี 2566 เติบโตมากขึ้นถึง 300% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

2. Event Business

ธุรกิจนี้คือ การเนรมิตพื้นที่โรงภาพยนตร์ ให้เป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์

ด้วยการเป็นพื้นที่ จัดประชุมสัมมนา, จัดเวิร์กช็อป, จัดทอล์กโชว์, จัดงานแถลงข่าว หรืองานเปิดตัวสินค้า, งาน Conference, งาน Fan Meeting ชมละครหรือซีรีย์, มินิคอนเสิร์ต ,งานประกาศรางวัล, งานประกวด, งานแต่งงาน และงานถ่ายทอดสดต่าง ๆ

เรียกได้ว่า ตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา ธุรกิจนี้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ 

แม้กระทั่งในปี 2567 นี้ ทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ก็บอกว่า มียอดจองพื้นที่โรงภาพยนตร์ เพื่อจัดอีเวนต์และงานต่าง ๆ ล่วงหน้าแน่นตลอดทั้งปี

มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า ด้วย 2 ธุรกิจใหม่อย่าง Alternative Content และ Event Business ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้กลายเป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ไปแล้ว..

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ก็ยังคงมุ่งมั่นในธุรกิจเหล่านี้
โดยเตรียมฉายคอนเสิร์ต มอบประสบการณ์แปลกใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า และเปิดพื้นที่ให้แบรนด์ต่าง ๆ จัดได้อีเวนต์แบบสะดวกสบาย

เพื่อให้สอดคล้องกับหนึ่งใน Vision & Mission หลักของบริษัท คือ “More than Cinema” หรือเป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์อย่างแท้จริง

สุดท้ายนี้ หากให้วิเคราะห์สั้น ๆ ว่า ทำไมแบรนด์ต่าง ๆ ถึงควรเลือกจัดอีเวนต์ งานแถลงข่าว หรืองานเปิดตัวสินค้า ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ฯ ?

ก็คงต้องบอกว่า เพราะโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ฯ มีอุปกรณ์ครบครัน
ไม่ว่าจะเป็น จอภาพที่มีความคมชัด มีเครื่องเล่นแสง สี เสียงแบบจัดเต็ม แถมยังสะดวกสบายด้วยที่นั่งกว้างขวาง และมองเห็นพื้นที่จัดงานด้านหน้าได้ทุกที่นั่ง และมีจำนวนสาขาที่มากถึง 184 สาขา 856 โรงภาพยนตร์ ครอบคลุม 63 จังหวัดทั่วประเทศ

จึงเป็นตัวช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ ประสบความสำเร็จในการจัดอีเวนต์ งานแถลงข่าว หรืองานเปิดตัวสินค้า ได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายครบทุก Gen

ซึ่งหากแบรนด์ไหน กำลังวางแผนที่จะจัดอีเวนต์ งานแถลงข่าว หรือเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ ก็ต้องบอกว่า ไม่ควรพลาดในการเลือกจัดที่ “โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์”