ความท้าทายของร้านทองในตอนนี้

ความท้าทายของร้านทองในตอนนี้

15 เม.ย. 2020
ราคาทองคำที่พุ่งสูงในตอนนี้ สร้างความต้องการขายให้กับผู้ถือทองคำจำนวนมาก
ในตอนนี้มีคนเข้าแถวรอขายทองยาวเหยียด
ไม่ว่าจะเป็นเพราะคนกำลังต้องการเงินสดในช่วงที่ขาดรายได้
หรือเพราะราคาทองกำลังพุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี
ซึ่งการที่คนแห่กันไปขายทอง
มันทำให้เราได้เห็นปัญหาอย่างหนึ่งของร้านทองขนาดเล็กหลายแห่ง
นั่นคือ “ขาดสภาพคล่อง”
ปกติแล้วรายได้หลักของร้านทองมาจาก การขายทองคำแท่ง-รูปพรรณ
โดยกินส่วนต่างของราคาขายออกที่ตั้งไว้ ซึ่งสูงกว่าราคารับซื้อ
ดังนั้น ปกติแล้วราคาทองจะขึ้นหรือลง ก็จะไม่ได้ส่งผลต่อกำไรของร้านทองมากนัก
เพราะตามกลไกตลาดแล้ว
ไม่ว่าราคาทองจะขึ้น หรือราคาทองจะลง
ยังไงคนที่ต้องแบกรับต้นทุนจากราคาของตลาดทอง ก็คือ คนผู้ซื้อ
โดยร้านทองยังคงกินส่วนต่างของราคาซื้อ-ขายที่ตั้งไว้เช่นเดิม
ตัวอย่างเช่น ถ้าร้านทอง รับซื้อทองมาบาทละ 25,900 บาท ก็จะตั้งราคาขายทองบาทละ 26,000 บาท
ถ้ารับซื้อมาบาทละ 19,900 บาท ก็จะขายออกบาทละ 20,000 บาท
และกินกำไรจากส่วนต่างเท่าเดิม คือ 100 บาท
ฉะนั้นราคาทองจะถูกหรือจะแพง ก็ไม่สำคัญตราบใดที่ร้านทองยังคงรักษาส่วนต่างนี้ไว้ได้
และที่สำคัญที่สุดคือ มีคนมาซื้อและขายทองในสัดส่วนที่เหมาะสม
แต่ร้านทองในตอนนี้กำลังเจอความท้าทายครั้งใหม่..
สถานการณ์ในปัจจุบันกลับสร้างปัญหาที่ว่า
คนทั่วไปที่ไม่ใช่นักลงทุนกลับ “มีแต่คนอยากขาย แต่ไม่มีใครอยากซื้อ”
จึงทำให้ร้านทองขนาดเล็กเกิดปัญหาสภาพคล่อง มีทองเต็มร้าน แต่ไม่มีเงินสด
ร้านทองขนาดเล็กหลายแห่ง จึงจำเป็นต้องปิดร้านชั่วคราว
เนื่องจากเงินสำรองไม่เพียงพอ รองรับต่อความต้องการขายทองของผู้คน..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.