เจาะลึกเบื้องหลังที่ทำให้ “นิกาโอะ” ยืนหนึ่งในฐานะผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อเส้นผม

เจาะลึกเบื้องหลังที่ทำให้ “นิกาโอะ” ยืนหนึ่งในฐานะผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อเส้นผม

14 ธ.ค. 2023
ใครที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ ต้องคุ้นหูกับชื่อแบรนด์นิกาโอะ (Nigao) ผลิตภัณฑ์ความงามบนเรือนผม
ที่นอกจากจะโดดเด่นด้วยนวัตกรรมและคุณภาพของสินค้า ยังมีวิธีการสร้างแบรนด์ที่น่าสนใจ
จนทำให้ “นิกาโอะ” กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ครองใจลูกค้าไม่เสื่อมคลายมากว่า 15 ปี
แล้วนิกาโอะมีแนวคิดในการสร้างแบรนด์อย่างไร ?
MarketThink วิเคราะห์มาให้แล้ว
ต้องบอกว่า หนึ่งในจุดแข็งของนิกาโอะ คือ เป็นแบรนด์ที่มีไลน์ผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมแทบจะทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การดูแลผมไปจนถึงการทำสี ไม่ว่าจะเป็น
- ครีมฟอกสีผม
- ครีมเปลี่ยนสีผม
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผม
- ทรีตเมนต์บํารุงเส้นผม
- ครีมยืดผม
- นํ้ายาดัดผม
สิ่งที่น่าสนใจคือ นอกจากจะมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
ในฐานะแบรนด์แห่งความงามบนเรือนผมที่ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น
นิกาโอะ ยังให้ความสำคัญกับการส่งมอบคุณภาพสินค้าที่เหนือระดับ และมีความปลอดภัยอย่างสูงสุดสู่ผู้บริโภค ผ่านนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ และกระบวนการผลิตขั้นสูงในแบบฉบับของวัฒนธรรมญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า มีความประณีต ละเอียดอ่อน ใส่ใจ และความทุ่มเท เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด
จุดนี้เอง กลายเป็นที่มาของการคิดค้นสูตรและคัดเลือกส่วนผสม (Active Ingredient) ที่มีคุณประโยชน์ต่อเส้นผม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา นิกาโอะยังไม่เคยหยุดที่จะมองหานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการผลิตใหม่
เพื่อพัฒนาสินค้าปราศจากแอมโมเนีย สารเคมีอันตราย ไม่ระคายเคืองต่อหนังศีรษะ
รวมถึงไม่ทําลายสุขภาพของเส้นผม และสุขภาพของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นช่างทำผม หรือคนที่เลือกทำสีผมเอง
ทำให้ใครก็ตามที่ได้มีโอกาสทดลองใช้สินค้าต่างติดใจและบอกต่อ
โดยหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถือว่าเป็นตัวชูโรงของนิกาโอะ คือ เทคโนโลยี Crodafos HCE ลิขสิทธิ์จากสหรัฐอเมริกา
ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความเด่นชัดให้กับสีผม ยังช่วยให้เม็ดสี​ติดทนนานยิ่งขึ้นอีกด้วย
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจของนิกาโอะ คือ Squalane
ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทําให้เส้นผมเรียบลื่น มีสัมผัสนุ่มละมุน และเป็นประกายเงางาม
นอกจากนี้ นิกาโอะยังเป็นแบรนด์แรก ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ฟอกสีผมในรูปแบบครีม จากเดิมที่อยู่ในรูปแบบผง
ซึ่งข้อดีของผลิตภัณฑ์ฟอกสีผมในรูปแบบครีม คือ การใช้งานจะสะดวกขึ้น และไม่ทําให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ และสุขภาพของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ครีมฟอกสีผมของนิกาโอะ กลายเป็นสินค้ายอดฮิตของผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ฟอกสีผม
ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับความสว่างสูง อ่อนโยนต่อเส้นผม ลดปัญหาเส้นผมด่าง กระด้าง ที่เกิดจากการฟอกสีผมทั่วไป
โดยปัจจุบันครีมฟอกสีผมของนิกาโอะ มีด้วยกัน 2 สูตร คือ Classic และ Deluxe
และในอนาคตกําลังจะมีสูตรใหม่ที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นไปอีก
นอกจากนิกาโอะ จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณสมบัติพรีเมียม ในราคาที่จับต้องได้
การสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง ก็เป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ ที่นิกาโอะไม่ละเลย
อย่างล่าสุด เพื่อสร้างภาพจำของแบรนด์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
นิกาโอะ เดินหน้าปรับแพ็กเกจจิงของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของแบรนด์
โดยคอนเซปต์หลัก ๆ คือ ตั้งใจให้แพ็กเกจจิงมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น
มีความมินิมัล แต่ยังดูพรีเมียม จึงนำแรงบันดาลใจจากเส้นผม มาสร้างเป็นรายละเอียดต่าง ๆ
เช่น การนำลายเส้นของเส้นผมมาทําให้เกิดมิติ อย่างผลิตภัณฑ์ในกลุ่มทรีตเมนต์ เส้นผมจะเป็นเส้นโค้ง เพื่อสะท้อนถึงความเงางาม ชุ่มชื้น
แต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มทำสี เส้นผมที่ปรากฏจะเน้นโชว์ความแข็งแรง เพื่อให้มั่นใจว่า เมื่อทำสีผมแล้ว จะได้สีผมที่สม่ำเสมอ
ในส่วนของสีสัน ทางแบรนด์มีการนำหลักของหยิน-หยาง มาใช้ในการจับคู่สี
เพื่อสร้างความโดดเด่นให้แพ็กเกจจิง
รวมถึงมีการเลือกใช้ Typography ให้เกิดความโดดเด่นและแตกต่าง
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่นิกาโอะใช้ คือ การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ
มีการทำคอนเทนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ทั้งของแบรนด์ และจับมือกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์
เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า นําเสนอความเป็น Hair Fashion Brand ที่พรีเมียม เป็นผู้นําในแวดวงแฟชั่นสีผม
รวมถึง Hair Care ที่ดูแลเส้นผมในรูปแบบต่าง ๆ
โดยในปี 2567 ทางแบรนด์ยังมีแผนจะนําสินค้าบางกลุ่มเข้าสู่ตลาด Modern Trade อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ คือเบื้องหลังกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ของนิกาโอะ
ที่สะท้อนให้เห็นว่า นอกจากจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าแล้ว
อีกหนึ่งแต้มต่อในการพาธุรกิจให้สามารถยืนหนึ่งในใจผู้บริโภค คือ การสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงไปควบคู่กัน
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.