โตโยต้า ถนนสีขาว สัมผัสประสบการณ์ความเร็ว สุดช็อกฟีล ที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถตลอดไป

ถ้าถามว่า โครงการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนของค่ายรถยนต์ไหน
โครงการ “ถนนสีขาว” ของโตโยต้า น่าจะเป็นคำตอบที่หลายคนนึกถึง
เพราะเป็นโครงการที่จัดต่อเนื่องมายาวนาน 35 ปีเลยทีเดียว

โดยเป้าหมายของโครงการนี้ คือส่งเสริมการสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ผ่านการปลูกฝัง และถ่ายทอดความรู้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน อันจะนำไปสู่การ “สร้างสังคมคนขับรถดี” โดยทางโตโยต้า จึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เพื่อสร้างสังคมคนขับรถดี

โดยในปีที่ผ่านมาได้เน้นการรณรงค์เรื่องการลดความเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุในประเทศไทย

ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของ “โตโยต้า ถนนสีขาว” ก็คือ การจัดนิทรรศการใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ชื่อว่า “โตโยต้า ถนนสีขาว เจอกับตัวสตูดิโอ” บริเวณลานกิจกรรม ชั้น 1 สยามสเคป

ต้องบอกว่านิทรรศการนี้ เต็มไปด้วยไอเดียสุดเจ๋ง ที่ให้ครบทุกอารมณ์ ตื่นเต้น สุดช็อกฟีล และได้แง่คิดดี ๆ อย่างที่เราเองก็คาดไม่ถึง

เพราะทุก ๆ กิจกรรมที่เกิดขึ้นแฝงไปด้วยการให้ความรู้ และการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีในการขับขี่บนท้องถนน ผ่านการนำเสนอภายในสตูดิโอ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ด่านหลัก ๆ

ด่านที่ 1 : Real Speed Experience
เป็นการจำลองสถานการณ์ขับขี่รถยนต์ ด้วยความเร็วสูง และอยู่ ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุแบบกะทันหัน แบบที่เราคาดไม่ถึง

ทีนี้พอเราสัมผัสประสบการณ์จำลองนี้ ก็ทำให้เราจะรับรู้และกลัวถึงอันตรายจากการขับรถด้วยความเร็วและความประมาท ว่าสุดท้ายแล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นมันรุนแรงกว่าที่คิด

ด่านที่ 2 : What’s Life After Fast ?

เราคงเคยได้ยินเรื่องราวชีวิตของผู้คนมากมาย ที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างรุนแรง จนส่งผลให้ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล กลายเป็นคนที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย เช่น การมองเห็น และ/หรือการเคลื่อนไหว ที่ไม่เหมือนคนทั่วไป

เพื่อให้เห็นภาพการสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ทำให้โตโยต้าเลือกสร้างสถานการณ์จำลองเป็น 2 รูปแบบ

แบบแรก : ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทดลองเป็นผู้ที่มีข้อจำกัดทางสายตา
โดยจำลองการใช้ชีวิตประจำวันภายในบ้าน เพื่อให้ได้สัมผัสถึงผลร้ายและผลลัพธ์หลังเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

แบบที่ 2 : ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทดลองเป็นผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวทางขา โดยจำลองสถานการณ์การใช้ชีวิตประจำวันภายนอกบ้าน ว่าต้องลำบากมากแค่ไหน

ด่านที่ 3 : Super Shock Feel ?

จากด่านที่ 2 ก็ถูกยกระดับความเข้มข้นมาสู่ด่านที่ 3
ด้วยการให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับฟัง และพูดคุยกับผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยตรง จนทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลง และกลายเป็นบุคคลที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย

ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่สร้างการรับรู้ถึงความสูญเสียบนท้องถนน ที่ประเมินค่าไม่ได้ ไม่ว่าจะด้านจิตใจและทรัพย์สิน

ที่สำคัญที่สุด ก็เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีทัศนคติในการขับรถให้ระมัดระวังและปลอดภัย รวมถึงสร้างจิตสำนึกดี ๆ ในการใช้ถนนร่วมกับผู้คนมากมาย

เพราะอย่าลืมว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งบนท้องถนน ไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้สูญเสีย แต่ทุกฝ่ายต่างเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

การสร้างสังคมคนขับรถดี ลดการใช้ความเร็ว ขับรถด้วยน้ำใจ และมีวินัย เป็นวิธีที่จะทำให้จำนวนอุบัติเหตับนท้องถนนลดลง

ซึ่งถือเป็นถนนในฝัน ที่ใคร ๆ ก็อยากให้เกิดขึ้นในทุก ๆ การเดินทางของตัวเอง

ตรงนี้เองที่สอดคล้องกับแนวคิดของโตโยต้า ที่ต้องการขับเคลื่อนให้อนาคตถนนเมืองไทย เข้าสู่โหมดถนนแห่งความปลอดภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกที่จะทำให้ประเทศไทยเข้าใกล้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ต่อไป

อ้างอิง:
-ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด