Microsoft โชว์ฟีเชอร์ AI Copilot สรุปประชุม ร่างเอกสาร ทำสไลด์นำเสนอ แทนคนได้
21 พ.ย. 2023
ไมโครซอฟท์จัดงาน Al Summit ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ภายใต้แนวคิด "Leading the Era of AI" เพื่อนำเสนอศักยภาพของ Al ที่มีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดในระดับโลก จนกลายเป็นผู้ช่วยที่มีบทบาทสำคัญ ในการยกระดับการดำเนินงานให้กับองค์กรธุรกิจยุคใหม่ และช่วยรับมือความท้าทายต่าง ๆ ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นรวดเร็วและคาดเดาได้ยาก
ด้วยนวัตกรรมโซลูชัน Copilot for Microsoft 365 และ Azure OpenAl Service ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพความคิดสร้างสรรค์ และความคล่องตัว เพื่อให้ทุกภารกิจสำเร็จได้อย่างราบรื่น
ในงาน Microsoft Al Summit มีการบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการนำ AI มาใช้ในภาคธุรกิจ รวมถึงการเสวนากับองค์กรชั้นนำในประเทศไทย
อาทิ เอไอเอส ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ปตท.สผ. ที่ได้เข้าร่วมโปรแกรม Copilot for Microsoft 365 Early Access Program (EAP) เพื่อให้เห็นถึงแนวทางความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการนำ AI มาใช้พลิกโฉมการดำเนินงาน
ขณะที่ Buzzebees, Innovest และ PTT Global Chemical (GC) ก็นำบริการ Azure OpenAl Service มาสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อยอดบริการที่มีอยู่ด้วยพลังจาก AI
คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า "AI นับเป็นจุดเปลี่ยนทางเทคโนโลยี ที่สำคัญที่สุดในยุคนี้ เราจึงมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนา Al ที่ผสมผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของเราอย่างลงตัว
มีบทบาทเป็น Copilot พร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ใช้ และองค์กรธุรกิจในทุกระดับให้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น มากขึ้น เร็วขึ้น
และเสียงตอบรับจากองค์กรที่นำ Copilot เข้าไปใช้งานจริง ก็นับเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีถึงศักยภาพและความพร้อมของ AI ทั้งในสถานที่ทำงาน โฮมออฟฟิศ สถาบันการศึกษา ห้องปฏิบัติการวิจัย และโรงงานผลิตทั่วโลก"
จากการสำรวจความคิดเห็น และแนวทางการใช้งาน Copilot ของลูกค้าองค์กรใน 41 ประเทศทั่วโลก พบว่า
- ผู้ใช้ Copilot ถึง 70% ระบุว่าพวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 68% รู้สึกว่าผลงานมีคุณภาพ
- โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใช้ Copilot สามารถทำงานประเภทการค้นหาข้อมูล งานเขียน และการสรุปเนื้อหาต่างๆ ได้เร็วขึ้น 29%
- ผู้ใช้ Copilot สามารถติดตามเนื้อหา และประเด็นสำคัญในการประชุม ที่ตนเองไม่ได้เข้าร่วมได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่าตัว
- ผู้ใช้ราว 64% เผยว่าพวกเขาใช้เวลาน้อยลงในการจัดการกับอีเมล ขณะที่ 85% สามารถเขียนงานดราฟท์แรกออกมาได้เร็วขึ้น และ 75% ค้นหาเอกสารที่ต้องการได้เร็วขึ้น
- ผู้ใช้ Copilot 77% ต้องการใช้งานต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ บริการ Copilot for Microsoft 365 ได้เปิดให้ลูกค้าองค์กรเริ่มใช้งานทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา
โดยทำงานผสานกับแอปพลิเคชัน ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และการทำงานของผู้คนนับล้านอย่าง Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ Teams
พร้อมทั้งเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ มากมาย โดยมีฟีเชอร์เด่น อาทิ
- Outlook มาพร้อมฟีเชอร์ช่วยสรุปอีเมลที่ต่อเนื่องกัน การร่างข้อความตามรูปแบบที่ต้องการ และติดตามการประชุม ผ่าน Teams ได้อย่างสะดวก
- Word ช่วยสรุปเนื้อหาในเอกสาร ร่างเนื้อหาในการเขียนเอกสารใหม่ และการจัดรูปแบบย่อหน้า
- Excel สามารถวิเคราะห์ข้อมูล แนะนำสูตรการคำนวณ สร้างกราฟ เป็นต้น
- PowerPoint สามารถออกแบบสไลด์จากหัวข้อ และเนื้อหาที่ต้องการได้
- OneNote ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น และสรุปบันทึกย่อได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม
- Teams ช่วยสรุปเนื้อหาสำคัญจากการประชุม
- Stream ช่วยค้นหาข้อมูลเชิงลึกจากวิดีโอบนแพลตฟอร์มได้ดีขึ้น
- OneDrive ช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในคลังไฟล์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
Copilot for Microsoft 365 ยังโดดเด่นด้วยระบบที่พัฒนามา เพื่อองค์กรโดยเฉพาะ ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย ความเป็นสวนตัว และการกำกับดูแล รวมถึงด้านจริยธรรม ผ่านการร่วมเรียนรู้ และสังเกตการณ์การใช้งานจริงกับลูกค้าองค์กรทั่วโลก
รวมถึงองค์กรอย่าง Visa, General Motor, PMG ละ Lumen Technologies
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้แนะนำลูกค้าองค์กรในประเทศไทยให้รู้จักกับคุณสมบัติในด้านอื่นๆ อีกมากมายของ Copilot
นับตั้งแต่ Microsoft Security Copilot ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการทำงานของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ไปจนถึงการพัฒนา AI Copilot ที่ตอบโจทย์เฉพาะทางขององค์กรด้วย Azure OpenAl Service และ Copilot Studio