Google รายงาน เศรษฐกิจดิจิทัลไทย ปี 2023 มูลค่า 1.3 ล้านล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค
8 พ.ย. 2023
Google ร่วมกับ Temasek และ Bain & Company เผยแพร่รายงาน เศรษฐกิจดิจิทัล ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจดิจิทัล ใน 5 ส่วนหลัก คือ
- อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)
- สื่อออนไลน์ (Online Media)
- การขนส่ง และบริการส่งอาหารออนไลน์ (Transport & Food)
- การท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel)
- บริการด้านการเงิน (Financial Services)
- อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)
- สื่อออนไลน์ (Online Media)
- การขนส่ง และบริการส่งอาหารออนไลน์ (Transport & Food)
- การท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel)
- บริการด้านการเงิน (Financial Services)
พบว่า เศรษฐกิจดิจิทัลไทย มีมูลค่าสินค้ารวม (Gross Merchandise Value : GMV) อยู่ที่ 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 ล้านล้านบาท) ในปี 2023 เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรองเพียงประเทศอินโดนีเซีย เท่านั้น
อีกทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจดิจิทัลไทย จะมีมูลค่าแตะ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 ล้านล้านบาท) ในปี 2025
และจะมีมูลค่าอยู่ระหว่าง 100,000 - 165,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.6 - 5.9 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2030
ทั้งนี้ เศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด มีมูลค่ารวมกัน 218,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.8 ล้านล้านบาท) ในปีนี้
หากเจาะลึกลงไป ที่เศรษฐกิจดิจิทัลไทย ในแต่ละด้าน จะพบความน่าสนใจ ในหลายเรื่องด้วยกัน
เรื่องแรก ก็คือธุรกิจ “อีคอมเมิร์ซ” มีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนกว่า 61% ของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยทั้งหมด
โดยมีมูลค่าสินค้ารวม 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.8 แสนล้านบาท) ในปีนี้
และจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 16% จนมีมูลค่าอยู่ในระดับ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท) ได้ในปี 2025
แม้ว่าในขณะนี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะมีการลดการแข่งขันในด้านโปรโมชันและส่วนลด เพื่อสร้างผลกำไร ก็ตาม
ในขณะที่ เศรษฐกิจดิจิทัลในด้านสื่อออนไลน์ ซึ่งรวมถึงบริการวิดีโอออนดีมานด์ เพลงออนดีมานด์ และเกม
มีมูลค่าสินค้ารวมอยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 แสนล้านบาท) ในปีนี้ เติบโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
มีมูลค่าสินค้ารวมอยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 แสนล้านบาท) ในปีนี้ เติบโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
และคาดว่า ไทย จะกลายเป็นประเทศที่ตลาดสื่อออนไลน์ “มีมูลค่ามากที่สุด” ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงปี 2023 - 2030
นอกจากนี้ หากเจาะลึกลงไป ที่ “ตลาดบริการวิดีโอสตรีมมิง ที่เรียกเก็บค่าบริการ” โดยเฉพาะ
จะพบว่าไทย เป็นประเทศที่มีส่วนแบ่งตลาด “ใหญ่ที่สุด” ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จะพบว่าไทย เป็นประเทศที่มีส่วนแบ่งตลาด “ใหญ่ที่สุด” ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แม้ว่าจะมีข้อจำกัดทางด้านคอนเทนต์ ที่เป็นภาษาถิ่น แต่ผู้บริโภคชาวไทย ก็ยังเต็มใจที่จะสมัครใช้บริการ
ส่วนในด้านของการขนส่ง และบริการส่งอาหารออนไลน์นั้น Google พบว่า มีอัตราการเติบโตเพียง 1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และมีมูลค่าสินค้ารวมอยู่ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 แสนล้านบาท) ในปีนี้
อัตราการเติบโตที่น้อยเพียง 1% เกิดจาก ผู้ประกอบการมีการใช้กลยุทธ์ที่คล้ายกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
นั่นคือการลดจำนวนโปรโมชัน และแคมเปญต่าง ๆ ลง เพื่อสร้างสมดุล ระหว่างการเติบโต กับผลกำไร
นั่นคือการลดจำนวนโปรโมชัน และแคมเปญต่าง ๆ ลง เพื่อสร้างสมดุล ระหว่างการเติบโต กับผลกำไร
ในขณะที่ เศรษฐกิจดิจิทัล ด้านการท่องเที่ยวออนไลน์
มีอัตราการเติบโตมากถึง 85% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเป็นอัตราการเติบโตที่มากที่สุดอันดับ 2 ของภูมิภาค
มีอัตราการเติบโตมากถึง 85% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเป็นอัตราการเติบโตที่มากที่สุดอันดับ 2 ของภูมิภาค
โดยคาดว่ามูลค่าสินค้า จะอยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 แสนล้านบาท) ในปีนี้
แต่ก็ยังนับว่า มูลค่าสินค้าเศรษฐกิจดิจิทัล ที่เกิดจากการท่องเที่ยวออนไลน์ ยังคงน้อยกว่าปี 2019 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.5 แสนล้านบาท)
เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่มีจำนวนน้อยกว่าเมื่อปี 2019
และเศรษฐกิจดิจิทัล ในด้านสุดท้าย ก็คือ บริการด้านการเงินดิจิทัล
พบว่า ไทย เป็นประเทศที่มีบริการสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล เติบโตมากถึง 65%
มียอดสินเชื่อสูงถึง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.3 แสนล้านบาท) ในปีนี้
พบว่า ไทย เป็นประเทศที่มีบริการสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล เติบโตมากถึง 65%
มียอดสินเชื่อสูงถึง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.3 แสนล้านบาท) ในปีนี้