เผยความสำเร็จงานกาแฟแห่งปี “Thailand Coffee Hub 2023 – centralwOrld” โดยเซ็นทรัลพัฒนา กระแสตอบรับล้นหลาม เตรียมต่อยอดงานปีหน้า 2567 ทั่วประเทศ

ประกาศความสำเร็จ งานเทศกาลกาแฟที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง “Thailand Coffee Hub 2023 – centralwOrld” โดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งจบไปอย่างสวยงามเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

โดยมียอดผู้ร่วมงานตลอด 7 วัน สูงถึง 350,000 คน สร้างเงินสะพัดจากงานไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ถือเป็นงานกาแฟแห่งปีของประเทศไทยที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ประกอบการและผู้ที่ชื่นชอบกาแฟทั่วประเทศ วัดได้จากการที่มีแบรนด์ดัง ๆ จากในประเทศและต่างประเทศมาร่วมออกร้านมากกว่า 150 แบรนด์

และจากกระแสตอบรับอย่างล้นหลามนี้ เซ็นทรัลพัฒนา จึงประกาศแผนสำหรับการจัดงานในปีหน้า 2567 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลในทุกภูมิภาค เพื่อให้ผู้จัดงานที่สนใจได้มี Timing ในการเตรียมตัวจองร้านค้าได้มากขึ้น

โดยจะเริ่มจากภาคเหนือ ที่เซ็นทรัล นครสวรรค์ (28 ก.พ. 67 - 3 มี.ค. 67)

ภาคตะวันออก ที่เซ็นทรัล พัทยา (3 เม.ย. 67 - 8 เม.ย. 67)

ภาคอีสาน ที่เซ็นทรัล ขอนแก่น (5 มิ.ย. 67 - 9 มิ.ย. 67)

ภาคใต้ ที่เซ็นทรัล หาดใหญ่ (28 ส.ค. 67 - 1 ก.ย. 67)

และปิดท้ายภาคกลาง ที่เซ็นทรัลเวิลด์ (2 ต.ค. 67 - 8 ต.ค. 67)

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายในการสร้าง Coffee Hub เสริมแกร่งศักยภาพผู้ประกอบการกาแฟ และตอบรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศ

ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“เทศกาลกาแฟ Thailand Coffee Hub 2023 ดำเนินตาม Brand Purpose ของเซ็นทรัลพัฒนา มุ่งมั่นสร้าง Coffee Hub ในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นแกนหลักในการรวมเพชรเม็ดงามแห่งวงการกาแฟแต่ละท้องถิ่น สร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่ง

ซึ่งนอกจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟแล้ว ยังสานต่อไปยังผู้ประกอบการอื่น ทั้ง ชา โกโก้ ช็อกโกแลต น้ำผลไม้ เบเกอรี่ และอีกมากมาย ให้เติบโตก้าวหน้าไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดยทำงานร่วมกับสมาคมกาแฟพิเศษไทย (SCATH) เพื่อประสานหน่วยงานในจังหวัดต่าง ๆ รวมทั้งหอการค้า และสมาคมที่เกี่ยวข้อง

โดยมีเรื่องสิ่งแวดล้อม ชุมชน คนและสังคม เข้ามาเป็นบริบทสำคัญ เพื่อสนับสนุนกาแฟไทย ผลักดัน ‘Local to Global’ ให้กาแฟไทยคุณภาพดีในแต่ละชุมชนเผยแพร่ชื่อเสียงไปทั่วโลก ”

Thailand Coffee Hub ที่ผ่านมา จะมีร้านเด่น ๆ ของแต่ละภูมิภาคเข้าร่วมงานเสมอ เช่น การจัดงานที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล จันทบุรี มีร้าน Specialty Coffee ดัง ๆ ประจำภาคตะวันออก มาร่วมกว่า 20 แบรนด์ อาทิ Sila Roasters, Rosetta Coffee Roaster, Sunset Coffee Roasters, Summer Please

และที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ รวม Best Brew of South ร้านกาแฟพิเศษชื่อดังจากทั่วภาคใต้มาไว้ในงานเดียว อาทิ Cuppa Coffee จ.สุราษฎร์ธานี, Heart Made Roastery จ.สงขลา, D’Art Café & Coffee Lab จ.นราธิวาส, ว่าง Cafe’ & Roastery จ.ปัตตานี

โดยการจัดงานครั้งล่าสุดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ยังมีแบรนด์ดังจากหลายประเทศมาร่วมเปิดประสบการณ์ World Coffee Culture ให้คอกาแฟได้ชิมกาแฟต้นตำรับจากทั่วโลกด้วย อาทิ Trunk Coffee ร้านกาแฟชื่อดังจากนาโกย่า Taye Ethiopian Coffee ต้นตำรับเจ้าของสายพันธุ์กาแฟเอธิโอเปีย ที่โด่งดังไปทั่วโลก Stupiducks Specialty Coffee โรงคั่วชื่อดังแห่งเวียดนาม ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ กาแฟเทคนิคดั้งเดิม แบบ Sand Coffee สไตล์ตุรกี จากร้าน Shaloba Boutique Coffee

“งาน Thailand Coffee Hub ประสบความสำเร็จสูงสุด มีการตอบรับอย่างดี จากผู้ประกอบการท้องถิ่น แบรนด์ดัง ไปจนถึงบรรดา coffee lover ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยในปี 2567 เซ็นทรัลพัฒนาได้วางกลยุทธ์การจัดงานให้ครอบคลุมทุกหัวเมืองใหญ่ ๆ ในแต่ละภูมิภาค

เพื่อขยายชื่อเสียงของกาแฟไทยไปยังกลุ่ม Quality Tourist พร้อมทั้งขยายเครือข่ายความสัมพันธ์ไปยังกลุ่มธุรกิจกาแฟจากประเทศต่าง ๆ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของการผลักดันกาแฟไทยสู่เวทีโลกในอนาคตอันใกล้นี้” ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า