แฟลช เอ็กซ์เพรส ประกาศความพร้อมรับแคมเปญใหญ่ปลายปี เสริมทัพรถ 40 คัน พร้อมเพิ่มพนักงานกว่า 2,000 คน

แฟลช เอ็กซ์เพรส ผู้นำด้านธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ ให้บริการครบวงจร ครอบคลุมทั่วไทย และเซาท์ อีส เอเชีย

ประกาศความพร้อมในฐานะผู้นำตลาดขนส่งพัสดุเอกชนเบอร์ 1 จัดซื้อรถขนส่งเพิ่ม 40 คันจากบริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด (CP Foton) ทั้งรถ 4 ล้อ และรถ 6 ล้อ เพื่อใช้วิ่งบนเส้นทางกรุงเทพฯ ปริมณฑล และทั่วภูมิภาค

พร้อมเปิดรับสมัครพนักงานเพิ่มกว่า 2,000 อัตรา ในตำแหน่งพนักงานขับรถมอไซค์รับ-ส่งพัสดุ (Bike Courier), พนักงานขับรถกระบะตู้ทึบ (Van Courier) และพนักงานประจำคลังสินค้า (DC Officer)

โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, นครปฐม, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, สระบุรี, สระแก้ว, ลำปาง, เชียงราย และเชียงใหม่

สำหรับผู้ที่สนใจมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับ แฟลช เอ็กซ์เพรส > https://interview.flashexpress.com/#/resume

โดยให้รายได้ต่อเดือนเฉลี่ยสูงถึง 15,000 – 30,000 บาท

สำหรับการเพิ่มศักยภาพด้านขนส่งทั้งการเพิ่มรถ และการเพิ่มจำนวนพนักงานในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับแคมเปญใหญ่ปลายปีที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น 11.11 และ 12.12 เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณพัสดุของบริษัทที่มียอดสูงสุดของตลาดเฉลี่ย 3 ล้านชิ้นต่อวัน

โดยนับเป็นปกติของทุกปีที่  อี-คอมเมิร์ซ แพลตฟอร์มในประเทศไทยช่วง 2 เดือนสุดท้ายของไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่ตัวเลขพัสดุเติบโตสูงสุด บริษัทฯ จึงต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อรองรับจำนวนพัสดุที่จะเข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากการพัฒนาด้านศักยภาพด้านขนส่งและกำลังพลแล้ว อีกฟากคือการเตรียมออกแคมเปญ และโปรโมชันใหญ่ร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อเอาใจลูกค้าทั้งกลุ่ม Seller และลูกค้าทั่วไป

โดยสามารถติดตามได้ผ่านหน้าเพจ Facebook และ official page ต่าง ๆ ของบริษัทฯ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

อย่างไรก็ดี ปัจุบัน แฟลช เอ็กซ์เพรส ในประเทศไทยมีรถขนส่งทุกประเภทกว่า 50,000 คัน มีพนักงานรวมกว่า 40,000 คน และมีจุดให้บริการรับ-ส่งพัสดุกว่า 22,000 จุดทั่วไทยที่พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

แฟลช เอ็กซ์เพรส ยังนับเป็นผู้ให้บริการขนส่งเอกชนรายแรกที่ริเริ่มนโยบาย “เข้ารับพัสดุถึงที่ ฟรีตั้งแต่ชิ้นแรก ให้บริการ 365 วันไม่มีวันหยุด” จากการเติบโตอย่างรวดเร็วกว่า 5 ปีของการให้บริการ และการถือครองยอดส่งพัสดุสูงสุดของตลาดที่เฉลี่ยกว่า 3 ล้านชิ้นต่อวัน

จึงถือเป็นการตอกย้ำศักยภาพของการเป็นขนส่งเอกชนอันดับสูงสุดของประเทศที่สามารถก้าวออกจากการเป็น Start-up ไปสู่ผู้ให้บริการอย่างมืออาชีพ เพื่อเติบโตไปสู่เป้าหมายของการสร้างบริการที่ยั่งยืนให้แก่ตลาดทั้งในประเทศไทย และเซาท์ อีส เอเชีย ต่อไป