เปิดกลยุทธ์ เอ็มจี หลังชู MG4 Electric สร้างยอดขายในตลาด EV ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท
14 ก.ค. 2023
ตลาดรถไฟฟ้า 100% หรือ EV Car ในเมืองไทยกำลังโตระเบิด
ปี 2020 : ยอดจดทะเบียน 1,056 คัน
ปี 2021 : ยอดจดทะเบียน 1,935 คัน
ปี 2022 : ยอดจดทะเบียน 9,729 คัน
ปี 2020 : ยอดจดทะเบียน 1,056 คัน
ปี 2021 : ยอดจดทะเบียน 1,935 คัน
ปี 2022 : ยอดจดทะเบียน 9,729 คัน
จะเห็นว่าปี 2022 ล่าสุดตลาด EV Car เติบโตแบบ 4 เท่าตัว หรือกว่า 400% เลยทีเดียว
ที่น่าจับตามองมากกว่านั้น ก็คือ การคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่เชื่อว่ายอดขาย EV Car ในปี 2023 จะสูงถึงเกือบ 50,000 คัน เลยทีเดียว
เบื้องหลังที่ทำให้ EV Car แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว มาจากการที่ค่ายรถต่าง ๆ หันมาผลิตและขาย EV Car มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมองว่าคนไทยเริ่มมีความรู้และความเข้าใจ การใช้ชีวิตกับ “EV Car กันมากขึ้น” รวมถึงสถานีชาร์จที่ครอบคลุมในทุกพื้นที่แล้ว
อย่างที่รู้ว่า EV Car อาศัยการชาร์จไฟฟ้า ไม่ต้องเติมน้ำมัน จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และไม่ปล่อยควันพิษ จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมีชิ้นส่วนการขับเคลื่อนน้อยกว่าเครื่องยนต์สันดาป ทำให้ค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ ถูกลง
ที่สำคัญ EV Car ให้ความรู้สึกในการขับขี่ ที่รถเครื่องยนต์สันดาปไม่มีทางทำได้ และแม้จะออกตัวแรงและขับขี่เร็วขนาดไหน ก็ไร้ซึ่งเสียงรบกวน และรู้สึกถึงความนุ่มนวลในการขับขี่
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ EV Car เข้ามาเปลี่ยนเกมอุตสาหกรรมรถยนต์ในเมืองไทย อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยกลุ่มผู้นำยอดขาย กลับไม่ใช่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ที่ครองตลาดรถยนต์สันดาปเมืองไทยมายาวนาน
แต่กลับเป็นกลุ่มค่ายรถที่เพิ่งทำธุรกิจในเมืองไทยไม่นาน อย่าง MG, GWM, BYD โดยรถรุ่นที่สร้างยอดขายโดดเด่นให้แก่แบรนด์เหล่านี้คือ EV Car ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถ EV ที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จนเกิดเป็นการแข่งขันแบบเข้มข้น
ค่าย GWM มีรุ่นแมวเหมียว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 828,500 บาท
ค่าย BYD เพิ่งประกาศเปิดตัวรุ่นปลาโลมา ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 699,999 บาท
ส่วน MG ผู้เบิกทาง EV Car ในเมืองไทย มีรถไฟฟ้าราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มากถึง 4 รุ่น เริ่มตั้งแต่ MG ZS EV รุ่นเริ่มต้น, MG EP, MG4 Electric ทั้ง 2 รุ่นย่อย และ MG ES สมกับบทบาทการเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถไฟฟ้าในเมืองไทย
ค่าย BYD เพิ่งประกาศเปิดตัวรุ่นปลาโลมา ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 699,999 บาท
ส่วน MG ผู้เบิกทาง EV Car ในเมืองไทย มีรถไฟฟ้าราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มากถึง 4 รุ่น เริ่มตั้งแต่ MG ZS EV รุ่นเริ่มต้น, MG EP, MG4 Electric ทั้ง 2 รุ่นย่อย และ MG ES สมกับบทบาทการเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถไฟฟ้าในเมืองไทย
ในเดือนนี้ (กรกฎาคม 2566) ตลาด EV Car ที่ราคาต่ำกว่าล้านดูจะดุเดือดเป็นพิเศษ ทั้งการเปิดตัวรุ่นใหม่ ไปจนถึงการใส่แคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจซื้อเพื่อแย่งชิงยอดขายในปีนี้ ค่ายผู้บุกเบิก EV อย่าง MG ก็ร่วมเป็นผู้เล่นในเกมนี้ด้วยโมเดล NEW MG4 Electric
MG4 Electric รถไฟฟ้าขับหลังหนึ่งเดียวในคลาส และชูจุดขายด้วยการเป็น “รถไฟฟ้าขับสนุก” การควบคุมขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ซึ่งเกิดจากเทคโนโลยีการขับขี่ที่อัดแน่นอยู่ในกระดองรุ่นนี้ นับเป็นการปฏิวัติตลาด EV Car อย่างไม่เคยมีมาก่อนในตลาดเมืองไทย
ในขณะที่ MG มองว่า MG4 Electric มีจุดขายที่โดดเด่นในตลาดรถไฟฟ้า 100% ที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และ Demand รถไฟฟ้ากลุ่มนี้ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง MG จึงออกแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในช่วงที่ตลาด EV กลุ่มนี้กำลังร้อนระอุ
ล่าสุด เอ็มจี เปิดศึกครั้งนี้ด้วยดีลพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปี มูลค่ารวมกว่า 140,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2566 สำหรับลูกค้า 1,000 คน เท่านั้น
- ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง นาน 3 ปี
- ฟรี! ค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
- พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
- รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน
- ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
- ฟรี! ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
- ฟรี! ค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
- พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี! บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
- รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน
- ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
- ฟรี! ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
- ฟรี ชุดพรมปูพื้น
ดูจะเป็นจังหวะที่ดี และดึงดูคนที่มีแผนจะเลือกซื้อรถไฟฟ้าในเร็ว ๆ นี้ ได้ไม่น้อย ใครที่กำลังเล็ง EV Car ก็ลองแวะไปทดลองขับได้ที่โชว์รูม MG EV ทั่วประเทศ และสามารถจองผ่านออนไลน์ https://onlinebooking.mgcars.com/ และ App MG Thailand ได้ด้วย
หากพูดถึงหน้าตาของ MG4 Electric ถือเป็นรถไฟฟ้าที่ดูสปอร์ตทุกมุมมอง และลุคเท่ไม่เหมือนใคร จนดูไม่เหมือนรถไฟฟ้า เป็นรถแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 425 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
เบื้องหลังที่ทำให้สมรรถนะของ MG4 Electric ทำได้เกินคาดมีอยู่หลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น นวัตกรรมแบตเตอรี่ CELL TO PACK ที่จัดเรียงเซลล์แนวนอน มีความบาง 110 มิลลิเมตร ทำให้ช่วยลดขนาดแบตเตอรี่และระบายความร้อนได้ดี ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่มีเสถียรภาพ และมีการติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถ ช่วยให้แบตเตอรี่ได้รับการปกป้องยิ่งขึ้น อีกทั้งมอเตอร์ใหม่มีขนาดเล็กลง แต่ให้สมรรถนะสูงถึง 16,500 รอบต่อนาที
สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ คือ MG4 Electric มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กลง แต่วิ่งได้เร็วและแรงขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถตั้งค่าการขับขี่ได้มากถึง 5 รูปแบบ คือ SLOW, ECO, NORMAL, SPORT จนถึงระบบ CUSTOM ที่ผู้ขับสามารถตั้งค่าเองได้ ทั้งน้ำหนักพวงมาลัย, อัตราเร่ง และแรงที่ใช้ในการเหยียบเบรก ทำให้เราชอบขับขี่แบบไหน ก็สามารถออกแบบตั้งค่าเองได้เลย
ส่วนอีกหนึ่งจุดขายของ MG4 Electric คือ รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC สูงสุด 88kW และแบบ Quick Charge จาก 10% - 80% ใช้เวลาเพียง 35 นาที จากการทดสอบของวิศวกร MG เมื่อเทียบกับ EV Car ค่ายอื่น ๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ถือว่าชาร์จได้เร็วกว่าพอสมควรเลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน สิ่งที่รถไฟฟ้าค่ายอื่นไม่มี แต่ MG มี และสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน คือ สถานี MG SUPER CHARGE ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 135 สถานี ทั่วประเทศ
ทำให้คนที่ซื้อรถ MG อุ่นใจว่าเราสามารถเดินทางได้ทั่วประเทศ ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานไฟฟ้าจะหมดระหว่างการเดินทาง
และที่ต้องยกนิ้วให้กับความครีเอทของ เอ็มจี เลยก็คือการออกมาโชว์ความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าด้วยแคมเปญ
“เติมพลังงานสะอาดให้คุณ ชาร์จเท่าไหร่ เอ็มจี คืนให้เท่านั้น”
ให้ลูกค้าผู้ใช้งานรถไฟฟ้า เอ็มจี ทุกรุ่น เข้ามาใช้บริการชาร์จไฟที่ MG SUPER CHARGE ชาร์จเท่าไร เอ็มจีจะ Cash Back คืนให้เท่านั้น ตลอด 24 ชม. ตลอดเดือนกรกฎาคม 2566 ไม่ต้องขับเทสล่าก็ชาร์จฟรีได้ โดยจะคืนผ่านทาง MG Wallet ซึ่งจะอยู่ใน MG Thailand แอปพลิเคชัน
ให้ลูกค้าผู้ใช้งานรถไฟฟ้า เอ็มจี ทุกรุ่น เข้ามาใช้บริการชาร์จไฟที่ MG SUPER CHARGE ชาร์จเท่าไร เอ็มจีจะ Cash Back คืนให้เท่านั้น ตลอด 24 ชม. ตลอดเดือนกรกฎาคม 2566 ไม่ต้องขับเทสล่าก็ชาร์จฟรีได้ โดยจะคืนผ่านทาง MG Wallet ซึ่งจะอยู่ใน MG Thailand แอปพลิเคชัน
ซึ่งข้อดีของแคมเปญนี้จะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นในการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เพราะถือเป็นการพิสูจน์ความพร้อมใช้งานของ “ตู้แดง” ว่ามีอยู่จริง และลูกค้าจะได้สัมผัสด้วยตัวเอง นับถือในความใจป้ำของแบรนด์
ส่วน MG4 Electric จะสร้างยอดขายได้ดีแค่ไหน เวลาจะเป็นตัวพิสูจน์ความสำเร็จ แต่ที่ไม่ต้องรอ และเวลาได้พิสูจน์แล้วก็คือ EV Car ณ วันนี้กำลังแจ้งเกิดบนถนนเมืองไทย และกำลังค่อย ๆ Reset อุตสาหกรรมนี้ ที่ไม่ใช่แค่แบรนด์ญี่ปุ่นที่เคยผูกขาดตลาดรถเครื่องยนต์สันดาป
แต่จะเป็น ถนนแห่งอนาคต ที่ค่ายรถที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำ ๆ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด และตอบโจทย์ชีวิตการเดินทางให้สะดวกสบาย พร้อมกับลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ค่ายรถไหน ที่ทำเรื่องเหล่านี้ให้ผู้บริโภครับรู้และสัมผัสได้แบบ Feel Good ค่ายนั้นละ ! ที่จะขึ้นมายืนแถวหน้าในอุตสาหกรรมรถเมืองไทยจนถึงระดับโลก
น่าจะเป็นเรื่องที่ค่ายผู้ผลิตรถไฟฟ้า 100% ต่างรู้กันดี และกำลังแข่งขันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยหนึ่งในนั้นก็คือ MG
อ้างอิง
-https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/BEV-CIS3384-FB-02-03-2023.aspx
-https://car.kapook.com/view265015.html
-https://autolifethailand.tv/top-10-register-ev-bev-2022-thailand/
-ข่าวประชาส้มพันธ์ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด
-https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/BEV-CIS3384-FB-02-03-2023.aspx
-https://car.kapook.com/view265015.html
-https://autolifethailand.tv/top-10-register-ev-bev-2022-thailand/
-ข่าวประชาส้มพันธ์ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด