เกิดอะไรขึ้นกับราคาน้ำมันดิบวันนี้ ทำไมถึงร่วงหนัก ?

ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
ทำให้ทั่วโลก มีความต้องการใช้น้ำมันต่ำลงอย่างมาก

โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและคมนาคม
ซื่งเป็นลูกค้าหลักของกลุ่มธุรกิจน้ำมันและกลุ่ม OPEC

ทำให้ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกปรับลดลงกว่า 13% ตั้งแต่ต้นปี

และสถานการณ์ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น
แม้ว่า OPEC นำโดยซาอุดิอาระเบียจัดประชุมด่วนเพื่อแจ้งให้ชาติสมาชิกลดกำลังการผลิตในกลุ่มลง 2% ต่อวันหรือราว 1.5 ล้านบาร์เรล
เพื่อที่จะพยุงราคาน้ำมันในช่วงที่ความต้องการต่ำ

แต่พี่ใหญ่รัสเซีย กลับปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว
เนื่องจากมีแผนจะบีบให้สหรัฐฯ ลดการผลิตและส่งออกน้ำมันลง
หลังจากที่สหรัฐฯ เป็นผู้นำการส่งออกน้ำมันมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก ด้วยเทคโนโลยี Shale Oil

โดยสหรัฐฯ มีกำลังการผลิต 12.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
มากกว่าทางรัสเซียและซาอุดิอาระเบีย

แต่ในเรื่องการผลิตน้ำมัน ซาอุดิอาระเบีย จะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าทางสหรัฐฯ และรัสเซีย พอสมควร

จากความขัดแย้งนี้เอง ซาอุดิอาระเบียจึงเกิดความไม่พอใจ และตอบโต้การกระทำของรัสเซีย ด้วยการสั่งเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของตนเองให้ถึงระดับ 10-12 ล้านบาร์เรลต่อวันจากเดิม 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
และหั่นราคาน้ำมันที่ส่งออกไปทั่วโลก

เพราะหวังแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากทางสหรัฐฯ และรัสเซีย
โดยมองว่าตนสามารถดัมพ์ราคาแข่งได้ เพราะมีความได้เปรียบด้านต้นทุน

ซึ่งทำให้ล่าสุด ราคาน้ำมันวันนี้ได้ดิ่งลงไปแล้วกว่า 30%..

โดย Goldman Sachs ได้วิเคราะห์ว่าราคาน้ำมันอาจลดลงมาได้ถึง 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ส่วนประเทศไทย หุ้นพี่ใหญ่อย่าง ปตท. และ ปตท.สผ.
ราคาหุ้นก็ได้ร่วงลงกว่า 25% และ 30% ตามลำดับ..