ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ STARK ชี้แจงความคืบหน้าการจัดทำงบการเงินปี 2565 การจัดทำ Special Audit และการดำเนินการต่าง ๆ
9 มิ.ย. 2023
ตามที่บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ได้ชี้แจงการดำเนินการของบริษัท ผ่านระบบเผยแพร่สารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีได้ภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 และบริษัทอยู่ระหว่างว่าจ้าง ผู้สอบบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) และจะแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการได้ ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2566
อีกทั้ง ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้หมายเลข STARK239A และ STARK249A ได้มี มติไม่ยกเว้นเหตุผิดนัดและใช้สิทธิเรียกให้บริษัทชำระหนี้เงินต้น พร้อมทั้งดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้โดยพลัน ส่งผลให้บริษัทเกิดเหตุผิดนัดไขว้ (cross default) ภายใต้สัญญาทางการเงินอื่น ๆ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่าง เจรจาหาทางออกร่วมกับเจ้าหนี้ดังกล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและ ลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุดนั้น (รายละเอียดปรากฏตามข่าว STARK วันที่ 31 พฤษภาคม, 1 และ 6 มิถุนายน 2566)
เนื่องจากประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นของบริษัทเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและมีผลกระทบต่อผู้ลงทุนในวงกว้าง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้บริษัทเร่งชี้แจงความคืบหน้าของการดำเนินการ ดังต่อไปนี้ภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2566
1) สถานะการจัดทำและวันที่จะนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 พร้อมทั้งขอให้ชี้แจงให้ชัดเจนด้วยว่า จะเป็นงบการเงินฉบับสอบทาน หรือฉบับตรวจสอบ และในกรณีที่ไม่สามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวได้ ภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ตามที่บริษัทเคยแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ ขอให้อธิบายเหตุผลที่ล่าช้าและกรอบ เวลาที่จะนำส่งได้
ทั้งนี้หากงบการเงินที่จะนำส่งดังกล่าวเป็นเพียงฉบับสอบทาน ขอให้แจ้งกรอบเวลาที่ บริษัทจะนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ฉบับตรวจสอบ และงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566
2) การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีเพื่อมาทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) รวมทั้งสถานะการจัดทำ และกำหนดเวลาที่จะนำส่งรายงานการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษดังกล่าว ซึ่งจะครบกำหนดภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566
3) สถานการณ์และผลกระทบต่อบริษัทอันสืบเนื่องจากการถูกเรียกให้ชำระหนี้ห้นกู้ รวมถึงแนวทางดำเนินการเพื่อชำระหนี้คงค้างต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้ 2 ชุด จำนวน 2,241 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ที่ผู้ถือหุ้นกู้ได้ใช้สิทธิเรียกให้ชำระหนี้โดยพลัน และหนี้ต่าง ๆ ที่เกิดจากเหตุผิดนัดไขว้ (cross default) ที่ครอบคลุมถึงหนี้หุ้นกู้อีก 3 ชุด จำนวนรวม 6,957.4 ล้านบาท
ตลอดจนเจ้าหนี้ภายใต้สัญญาทางการเงินอื่น ๆ ที่อาจใช้สิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้ทั้งหมดในลักษณะเดียวกัน
4) การดำเนินการของบริษัทในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายให้เข้ามาเร่งทำการสืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด