ไทย อาจกลายเป็นหนึ่งในผู้ชนะ ในอุตสาหกรรม “ชิปเซต” หลังยอดส่งออกไปสหรัฐ เพิ่ม 62%

สถานการณ์ความกดดันทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เริ่มมีการกระจายฐานการผลิตชิปเซต ออกไปอยู่ในประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากจีน และไต้หวัน

ล่าสุด สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า หลายประเทศในเอเชีย อาจกลายเป็น “ผู้ชนะ” รายใหม่ ที่เกิดขึ้นจากการกระจายฐานการผลิตชิปเซตนี้

เพราะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมา ปริมาณการนำเข้าชิปเซตของสหรัฐฯ มีมูลค่าอยู่ที่ 4,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.65 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

และกว่า 83% เป็นการนำเข้าจากประเทศในทวีปเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และไทย

สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุด คือ การนำเข้าชิปเซตจากประเทศยักษ์ใหญ่ ทั้งจีน และญี่ปุ่น มีปริมาณที่ลดลง 7.8% และ 11.5% ตามลำดับ

แต่ในขณะที่การนำเข้าชิปเซตจากประเทศอื่น กลับเติบโตเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็น

- ไต้หวัน เติบโต 4.3%
- เวียดนาม เติบโต 74.9%
- ไทย เติบโต 62.3%
- เกาหลีใต้ เติบโต 43.3%
- กัมพูชา เติบโต 697.9%
- อินเดีย เติบโต 3,400%
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยประเทศที่น่าจับตามอง ก็หนีไม้พ้นทั้งไทย และเวียดนาม ที่ครองส่วนแบ่งตลาดการส่งออกชิปเซตไปยังสหรัฐฯ ด้วยสัดส่วน 8.7% และ 11.6% ตามลำดับ

แถมยังมีอัตราการเติบโต ของการส่งออกชิปเซตไปยังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จนทำให้ทั้งไทย และเวียดนาม กำลังครองส่วนแบ่งในตลาดนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

ซึ่งเป็นรองเพียงมาเลเซีย ที่ครองส่วนแบ่งการส่งออกชิปเซตไปยังสหรัฐฯ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในสัดส่วน 20% และไต้หวัน ที่ครองส่วนแบ่ง 15.1%

นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ก็คือเวียดนาม สามารถครองส่วนแบ่งตลาดการส่งออกชิปเซตไปยังสหรัฐฯ ในสัดส่วนเกิน 10% ตลอดระยะเวลา 7 เดือนติดต่อกัน

อ้างอิง : https://finance.yahoo.com/news/four-asian-countries-leading-us-050723025.html