PTG ตั้งเป้า ครองส่วนแบ่งตลาด ค้าปลีกน้ำมัน 25% พร้อมมีแผนนำธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย เข้าตลาดหุ้น
3 มี.ค. 2023
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้ทำการเปิดเผยภาพรวมการทำธุรกิจ ในปี 2565 ที่ผ่านมา พร้อมกับแผนการทำธุรกิจ ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า
โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา PTG ทำลายสถิติ มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทาง สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 5,316 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
- ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกน้ำมัน 25% ภายใน 5 ปี
นอกเหนือจากภาพรวมการทำธุรกิจในปี 2565 แล้ว PTG ยังได้ระบุถึง “เป้าหมาย” ซึ่งเป็นแผนของ PTG ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ข้างหน้าอีกด้วย
โดยคุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้เปิดเผยว่า PTG ตั้งเป้าหมาย ที่จะครองส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกน้ำมัน (Retail Oil Market Share) ให้ได้ 25% ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า
ผ่านการขยายสถานีบริการน้ำมัน PT ให้มีจำนวน 2,406 แห่ง รวมถึงยังมีการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่เดิม พร้อมกับการขยายการให้บริการในรูปแบบใหม่ ๆ
โดยบริการใหม่ ๆ ที่ว่านี้ คุณพิทักษ์ ได้ยกตัวอย่างเป็นบริการ PT Service Master พนักงานที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกการให้บริการจำหน่ายนำ้มัน ที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษ เพื่อเสริมด้านการบริการให้ความพึงพอใจสูงสุด แก่กลุ่มลูกค้า
ซึ่งในปัจจุบัน พนักงาน PT Service Master มีจำนวนทั้งสิ้น 500 คน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 คน ภายในปี 2568
พร้อมกับการตั้งเป้าจำนวนสมาชิก Max Card ไว้ที่ 30 ล้านราย จากที่ในปัจจุบัน มีจำนวนสมาชิกอยู่ที่ราว 19 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ “กาแฟพันธ์ุไทย” ที่ ในปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 511 สาขา
โดยคุณพิทักษ์ ตั้งเป้าไว้ว่า ภายในระยะเวลา 5 ปี PTG จะขยายสาขากาแฟพันธุ์ไทย ให้มีจำนวน 5,000 แห่ง
รวมถึงมีแผนที่จะนำธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย เข้าตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงปี 2568 อีกด้วย..
ส่วนคุณรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้ให้ข้อมูล ภาพรวมการทำธุรกิจ ของ PTG ในปี 2565 เพิ่มเติม
โดยระบุว่า ณ สิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา PTG มีจำนวนสถานีบริการน้ำมัน PT ทั้งสิ้น 2,149 สถานี
แบ่งเป็นสถานีบริการน้ำมันที่ PTG เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ 1,809 สถานี
และสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของผู้ประกอบการอื่น ๆ ที่ได้รับสิทธิ์จาก PTG อีก 340 สถานี
และสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของผู้ประกอบการอื่น ๆ ที่ได้รับสิทธิ์จาก PTG อีก 340 สถานี
ซึ่งหากจัดอันดับพื้นที่ที่มีสถานีบริการน้ำมัน PT มากที่สุด จะอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต PTG มีแผนที่จะขยายสถานีบริการน้ำมันเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ มากยิ่งขึ้น หลังจากที่เคยใช้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” ในช่วงก่อนหน้านี้..
ส่วนธุรกิจ Non-Oil ของ PTG ณ สิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา มีจำนวนสาขารวมทั้งสิ้น 1,526 แห่ง (Touchpoint) โดยแบ่งเป็น
- ร้านกาแฟพันธ์ุไทย 511 สาขา
- สถานีบริการ Auto LPG จำนวน 231 สถานี
- ร้านจำหน่ายก๊าซ LPG บรรจุถัง จำนวน 253 สาขา
- ร้านสะดวกซื้อ Max Mart จำนวน 309 สาขา
- ร้านคอฟฟี่ เวิลด์ จำนวน 26 สาขา
- ศูนย์บริการซ่อมแซม และบำรุงรักษารถยนต์ Autobacs จำนวน 45 สาขา
- ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน Maxnitron Lube Change จำนวน 52 สาขา
- จุดพักรถ Max Camp จำนวน 64 จุด
- สถานีอัดประจุไฟฟ้า จำนวน 35 จุดชาร์จ
- สถานีบริการ Auto LPG จำนวน 231 สถานี
- ร้านจำหน่ายก๊าซ LPG บรรจุถัง จำนวน 253 สาขา
- ร้านสะดวกซื้อ Max Mart จำนวน 309 สาขา
- ร้านคอฟฟี่ เวิลด์ จำนวน 26 สาขา
- ศูนย์บริการซ่อมแซม และบำรุงรักษารถยนต์ Autobacs จำนวน 45 สาขา
- ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน Maxnitron Lube Change จำนวน 52 สาขา
- จุดพักรถ Max Camp จำนวน 64 จุด
- สถานีอัดประจุไฟฟ้า จำนวน 35 จุดชาร์จ
โดยในปีที่ผ่านมาธุรกิจ Non-Oil ของ PTG มีจำนวนสาขา ที่เพิ่มขึ้น คิดเป็น 36% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
และในขณะนี้ ธุรกิจแก๊ส LPG ของ PTG นับว่ามีส่วนแบ่งตลาดที่ 25% เป็นอันดับ 1 ในตลาดก๊าซ LPG สำหรับรถยนต์ ด้วยปริมาณกว่า 365 ล้านลิตร ในปี 2565 ที่ผ่านมา
ส่วนร้านกาแฟพันธุ์ไทย ที่ทาง PTG ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องขยายสาขาให้ครบ 5,000 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปีนั้น จะมีกลยุทธ์สำคัญ ที่เราจะได้เห็นกันตั้งแต่ปี 2566 นี้ เป็นต้นไป ก็คือ
- การขยายสาขาร้านกาแฟพันธ์ุไทย
โดยเป็นการขยายสาขาในรูปแบบ “แฟรนไชส์” ทั้งภายใน และภายนอกสถานีบริการน้ำมัน PT
และจะให้ความสำคัญกับหัวเมืองใหญ่ พื้นที่ท่องเที่ยว รวมถึงย่าน CBD ของกรุงเทพฯ
โดยเป็นการขยายสาขาในรูปแบบ “แฟรนไชส์” ทั้งภายใน และภายนอกสถานีบริการน้ำมัน PT
และจะให้ความสำคัญกับหัวเมืองใหญ่ พื้นที่ท่องเที่ยว รวมถึงย่าน CBD ของกรุงเทพฯ
- สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นเมนูเครื่องดื่มใหม่ ๆ
โดยใช้วัตถุดิบ ซึ่งเป็นของดีจากทั่วทุกภูมิภาคของไทย โดยในช่วงนี้มีเมนูเครื่องดื่มที่ใช้ “น้ำตาลโตนด” จากจังหวัดสงขลา
โดยใช้วัตถุดิบ ซึ่งเป็นของดีจากทั่วทุกภูมิภาคของไทย โดยในช่วงนี้มีเมนูเครื่องดื่มที่ใช้ “น้ำตาลโตนด” จากจังหวัดสงขลา
- ให้ความสำคัญกับ Delivery Platform
เพื่อสร้างการรับรู้ การมองเห็น รวมถึงการเข้าถึงแบรนด์ ให้กับลูกค้า
เพื่อสร้างการรับรู้ การมองเห็น รวมถึงการเข้าถึงแบรนด์ ให้กับลูกค้า
- เติบโตผ่านบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus
เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ที่ช่วยเพิ่มยอดขาย และความถี่ในการใช้บริการร้านกาแฟพันธ์ุไทย
เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ที่ช่วยเพิ่มยอดขาย และความถี่ในการใช้บริการร้านกาแฟพันธ์ุไทย