กางแผน BRITANIA ปี 2566 กับกลยุทธ์ “B To The Top” เตรียมเปิด 20 โครงการใหม่ บุกทุกเซกเมนต์ทั่วประเทศ
27 ก.พ. 2023
ล่าสุด บริทาเนีย หรือ BRI ผู้พัฒนาบ้านจัดสรร เผยผลประกอบการปี 2565 ที่ผ่านมา
มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,296 ล้านบาท เติบโต 65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,471 ล้านบาท เติบโต 144% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,296 ล้านบาท เติบโต 65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,471 ล้านบาท เติบโต 144% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ส่วนในปีนี้ BRITANIA ตั้งเป้ายอดขาย (Pre Sale) ไว้ที่ 13,000 ล้านบาท
ตั้งเป้ารายได้รวม 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป้าการเติบโตแบบ All Time High
ตั้งเป้ารายได้รวม 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป้าการเติบโตแบบ All Time High
โดยกลยุทธ์ที่ BRITANIA ใช้ในปีนี้เพื่อเติบโตให้ได้ตามยอดก็คือ “B To The Top” หรือการมุ่งสู่ระดับท็อปในวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประกอบไปด้วยกลยุทธ์ 3B
1. B The Growth เปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท หรือ All Time High จำนวน 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท
ยกทัพมาทั้ง 4 แบรนด์ในเครือ ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) และไบรตัน (Brighton)
โดยจะบุกตลาดทุกเซกเมนต์ กระจายตัวบุกทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC อย่างชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ตลอดจนหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด นำร่องที่ขอนแก่นด้วยบริทาเนีย มะลิวัลย์ และบริทาเนีย อยุธยา
คุณ สุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีนี้โฟกัสหลักของเราจะมุ่งไปที่ตลาดใหญ่ที่สุดของปีนี้อย่างตลาดบ้าน 5-10 ล้าน ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่มีกำลังซื้อแข็งแกร่ง”
สำหรับโครงการที่นับเป็นไฮไลต์ของปีนี้ ได้แก่ เบลกราเวีย ราชพฤกษ์-นครอินทร์ (Belgravia Ratchapruek-Nakornin) และเบลกราเวีย พุทธมณฑล สาย 3 (Belgravia Phuttamonthon Sai 3)
ซึ่งถือเป็นการนำแบรนด์ บ้านเดี่ยวลักชัวรีของบริษัทกลับมาเจาะตลาดอีกครั้ง ในทำเลที่ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้
โดยมีไฮไลต์หลักที่น่าสนใจคือ จำนวนยูนิตน้อย เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความรู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟ พื้นที่บ้านมากกว่า 100 ตร.วา มีฟังก์ชันภายในบ้านที่คำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness) ของครอบครัวที่มีสมาชิกหลากหลายเจเนอเรชัน (multi-generation family)
2. B The Craft มุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์บ้านจัดสรรระดับท็อปในใจผู้บริโภค (Top of Mind Brand)
ด้วย Culture หรือวัฒนธรรมองค์กร Craft Mindset อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าให้คุณค่า (Customer Value) ในการสร้างสรรค์ ดูแล และบริการที่ยกระดับให้แก่ผู้บริโภค ผ่านนวัตกรรมการอยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลาง ที่ตั้งใจออกแบบจาก Customer Insight การดูแลความปลอดภัย
3. B The Goodness มุ่งมั่นเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม
ทั้งในโครงการและชุมชนรอบด้าน เช่น
- โครงการ CRAFT PARK สร้างพื้นที่สีเขียวสาธารณะเพื่อชุมชน ซึ่งเป็นโมเดลความร่วมมือของภาคเอกชน ภาคสังคม และชุมชน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบ ลงมือทำ ตลอดจนเดินหน้าเพื่อสิ่งแวดล้อมภายใต้ โครงการ B GREEN
และมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ผ่านการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การออกแบบ เลือกใช้วัสดุฉลากเขียว และการก่อสร้าง การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ จนถึงปลายน้ำ
คือ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ณ คลับเฮ้าส์ทุกโครงการ และติดตั้งจุดเชื่อมต่อ EV Charger ให้กับบ้านทุกหลัง เพื่อส่งต่อคุณค่าของความรู้สึกภาคภูมิใจ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยรักษาโลก จากการเลือกซื้อบ้านที่คำนึงถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี